ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สิงห์แกร่งทั่วแผ่น!บุกถลุงปืนยับ3-0




"สิงห์บลูส์" เชลซี โชว์ฟอร์มสมราคาทีมเต็ง1 หลังบุกไปถล่ม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ถึงถิ่นแบบขาดลอย 3-0 พร้อมกับฉีกหนีรองจ่าฝูงอย่าง แมนฯยูไนเต็ดเป็น 5 แต้มเท่าเดิม


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

อาร์เซน่อล 0 - เชลซี 3

อาร์เซน่อล เปิดบ้านทำศึกหนักในเกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ รับมือทีมจ่าฝูง เชลซี โดนเจ้าบ้านได้ วิลเลี่ยม กัลลาส หายเจ็บตาลงสนามคุมแนวรับ แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงดัตช์แมนที่เจ็บหนักพักยาว 5 เดือน

ขณะที่ "สิงห์บลูส์" ทีมเยือน จัดทัพชุดใหญ่เต็มอัตราศึก นำโดย นิโกล่าส์ อเนลก้า ยืนกองหน้าคู่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา พร้อมด้วยกองกลางอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล เอสเซียง และ โจ โคล

เริ่มครึ่งแรกท่ามกลางสายฝนโหมกระหน่ำ เป็นเจ้าบ้านที่ขึ้นเกมรุกได้มากกว่า แต่ยังมีปัญหากับการปิดสกอร์จังหวะสุดท้าย แถมยังเกือบโดนยิงในนาที 18 แลมพาร์ด จ่ายทะลุช่อง ดร็อกบา จับบอลหลุดเท้า แต่ยังมี อเนลก้า หลุดไปเก็บบอลได้แล้วได้โอกาสสับไก แต่โดน บาการี่ ซาญ่า ตามไปเหนี่ยวเอวล้มลงในเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ ไม่ยอมเป่าให้จุดโทษ

เกมผ่านพ้นครึ่งชั่วโมง เชลซี เริ่มทำเกมน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ และก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้ในนาทีที่ 41 จอห์น เทอร์รี่ เติมเกมขึ้นมาจ่ายทะลุช่องให้ แอชลี่ย์ โคล เปิดโค้งเข้าปากประตูและก็เป็น ดร็อกบา กระโดดแหวกคู่เซนเตอร์แบ็กเจ้าถิ่นแปใต้ลูกชนเสากระเด้งสามเหลี่ยมเข้าประตูสุดเฉียบขาด

ก่อนพักครึ่ง เจ้าถิ่นยิ่งแย่หนักมาเสียประตูลูกสอง อเนลก้า ตอกส้นให้ แอชลี่ย์ โคล โยนยาวมาเสาแรกไปโดนขา โธมัส แฟร์มาเล่น เข้าประตูตัวเองมุมเดียวกันเป๊ะกับลูกแรก และก็หมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังปืนใหญ่เน้นสู้ตายถวายชีวิตโดยถอดอเล็กซ์ ซงกองกลางออกแล้วปล่อยวัลค็อตต์ลงไปเสริมเกมรุกพร้อมทั้งกดดันทีมเยือนอย่างหนักตั้งแต่ต้น

กระทั่งนาทีที่ 49 จากจังหวะชุลมุนที่บอลถูกโยนเข้าเขตโทษมาจากกราบขวา ปีเตอร์ เช็กก็พยายามกระโดดคว้า และถูกดา ซิลวาชิงกระดกหนีไปให้อาร์ชาวินตะบันตุงตาข่ายได้ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูโดยเป่าว่ากองหน้าโครแอตทำฟาวล์ทั้งๆที่นายทวารเช็กยังคว้าบอลเข้ามือไม่สำเร็จ

ขยับมาในนาทีที่ 57 อาร์เซน่อลเปลี่ยนดา ซิลวาออกอีกรายโดยให้คาร์ลอส เวล่าลงไปแทน แต่ยังทำอะไรทีมจ่าฝูงไม่ถนัด แถมเกือบโดนดีด้วยซ้ำในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ดร็อกบาสับไกแถวริมเขตโทษด้านซ้าย แล้วบอลกระทบหน้าอกแลมพาร์ดที่ยืนเสาแรกหวิดเข้าประตูอยู่แล้ว ดีที่ว่ามานูเอล อัลมูเนียพุ่งไปปัดได้ทัน

เจ้าบ้านยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และเปลี่ยนซามีร์ นาสรี่ออกให้โทมัส โรซิชกี้ลงไปเป็นไพ่ใบสุดท้ายในนาทีที่ 66 ขณะที่เชลซีใช้งานเดโก้แทนโจ โคลในอีกสองนาทีให้หลัง

นาทีที่ 70 ผู้ตัดสินมอบใบเหลืองให้จอห์น โอบี มิเกลในจังหวะเกี่ยวโรซิชกี้ล้ม ก่อนที่สิงห์บลูส์จะเปลี่ยนแอชลีย์ โคลออกในอีกสองนาทีต่อมาท่ามกลางเสียงโห่ของสาวกปืนใหญ่โดยมีเปาโล แฟร์ไรร่าได้ลงมาแทน

ถึงนาที 86 เชลซีมาได้ประตูหนีไปเป็น 3-0 จากฟรีคิกสุกสวยของ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา หมดเวลาเชลซีจึงบุกมาคว้าชัยได้อย่างสุดยอด 3-0 เก็บแต้มหนีแมนฯ ยูไนเต็ดรองจ่าฝูงได้เป็น 5 แต้มตามเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่, เดนิลสัน, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่, อังเดร อาร์ชาวิน, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
สำรอง : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, มิกาแอล ซิลแวสต์, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อารอน แรมซี่ย์, โทมัส โรซิชกี้, ธีโอ วัลค็อตต์, คาร์ลอส เวล่า

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, มิกาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โจ โคล, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, นิโกล่าส์ อเนลก้า
สำรอง : ฮิลาริโอ, เปาโล แฟร์ไรร่า, ยูริ เซียร์คอฟ, มิชาเอล บัลลัค, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, เดโก้, ซาโลมง กาลู

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปืนจุกเจ็บเพียบ,สิงห์ยิ้มได้แลมพ์บู๊




"บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์นี้ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี โดยเจ้าถิ่น ไม่มีโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงตัวเก่ง ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนทางด้านทีมเยือน ได้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางจอมทัพฟิตพร้อมกลับมาลงสนามแล้ว


อาร์เซน่อล (3) - เชลซี (1)


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม




อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส ต้องรอเช็กอาการของ วิลเลี่ยม กัลลาส อย่างใกล้ชิด หลังได้รับความกระทบกระเทือนที่ศีรษะ และมีอาการบาดเจ็บที่ตา โอกาสลงเล่นมี 50-50 เท่านั้น ถ้าไม่ฟิต มิกาแอล ซิลแวสต์ จะได้เล่นแทน




ที่พลาดลงสนามแน่ๆ คือ คีแรน กิ๊บบ์ส แบ็กซ้ายดาวรุ่ง เข้ารับการผ่าตัดเท้า ทำให้ อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ จะได้โอกาสลงเล่นแทน เพราะ กาแอล กลิชี่ ก็ยังบาดเจ็บหลังอยู่




แนวรุก อังเดร อาร์ชาวิน พร้อมลงเล่นเกมนี้ หลังปะทะกับ กัลลาส จนได้รับความกระทบกระเทือนที่ศีรษะเช่นเดียวกัน แต่ในราย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ข้อเท้า) กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ (โคนขาหนีบ) ดังนั้น อาจได้เห็น ธีโอ วัลค็อตต์ ลงตัวจริงในเกมนี้ด้วย




ส่วนนักเตะที่ยังพักฟื้นมีเพียง ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (เข่า) ที่ใกล้จะกลับมาฟิตแล้ว แต่ในราย อาบู ดิยาบี้ (น่อง), กาแอล กลิชี่ (หลัง) และ โยฮัน ฌูรู (เข่า) ยังพักฟื้นเหมือนเดิม




ระบบการเล่น 4-5-1 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ บาการี่ ซานย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, วิลเลี่ยม กัลลาส, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน ส่วนหน้าเป้าใช้ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา




ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม จะได้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จอมทัพคนสำคัญของทีม เข้ามาเติมเต็มในแดนกลางให้แน่นขึ้นไปอีก หลังหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาฉีกที่ได้รับมาตั้งแต่ตอนฝึกซ้อมกับทีมชาติอังกฤษแล้ว




มิกาเอล เอสเซียง กลางรับคนสำคัญ ก็หายเจ็บเข่ากลับมาฟิตพร้อมเช่นกัน ส่วนแดนหน้า ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ก็หายเจ็บหน้าอก พร้อมกลับมาล่าตาข่ายคู่ นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่จะเจอทีมเก่าของตัวเองด้วย ทำให้ตัวเจ็บเวลานี้เหลือเพียง โชเซ่ โบซิงวา ที่ผ่าตัดเข่า




ระบบการเล่น 4-4-2 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี มิกาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า คู่หน้า ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ยืนคู่ นิโกล่าส์ อเนลก้า


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, วิลเลี่ยม กัลลาส, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน - เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา




เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - มิกาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, นิโกล่าส์ อเนลก้า




ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์ (ตัดสินเกมพรีเมียร์ลีก 9 นัด ใบเหลือง 37, ใบแดง 5)



ปืนสถิติเป็นรอง 14 นัดหลังชนะสิงห์แค่ 2




ฤดูกาลที่แล้ว สิงโตน้ำเงินคราม บุกมาฝากรอยแค้นเอาไว้ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 4-1 ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นความพ่ายแพ้ในบ้านที่ย่ำแย่ที่สุดของ เดอะ กันเนอร์ส ในศึกพรีเมียร์ลีก รวมทั้งเทียบเท่าสถิติรวมลีกสูงสุดเดิมที่เคยแพ้ อิปสวิช ในสกอร์เดียวกันนี้เมื่อปี 1977




สถิติในช่วงหลัง อาร์เซน่อล เป็นรอง เชลซี อยู่หลายช่วงตัว โดยเฉพาะ 14 นัดหลังสุดในทุกรายการ เดอะ กันเนอร์ส คว้าชัยได้แค่ 2 นัดเท่านั้น




นอกจากนี้ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าของ เชลซี ยังมีสถิติยอดเยี่ยมในการพบกับ อาร์เซน่อล เมื่อยิง 8 ประตูจาก 8 นัดหลังสุดที่พบกันในทุกรายการ

ปืนสะอึก!โรบินส่อขึ้นเขียงพัก5เดือน




อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แดนผู้ดี ส่อแววไร้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงช่วยทีมร่วม 5 เดือน หลังดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์เตรียมขึ้นเขียงผ่าตัดเอ็นข้อเท้าที่กรุงอัมสเตอร์ดัมในสัปดาห์หน้า แม้ตอนแรกคาดว่าน่าจะพักแค่ 6 สัปดาห์ก็ตาม เจ้าตัวสุดเซ็ง กำลังโชว์ฟอร์มเข้าฟัก แต่ดันต้องมาเจ็บหนักจากเกมอุ่นเครื่องทีมชาติจนต้องพักยาว

อาร์เซน่อล ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจหมดสิทธิ์ใช้งาน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงตัวเก่งไปจนถึงช่วงท้ายฤดูกาลหลัง "ไอ้ปืนใหญ่" ประกาศว่าหัวหอกทีมชาติฮอลแลนด์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าจากเกมที่ "อัศวินสีส้ม" บุกเสมอ อิตาลี 0-0 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันเสาร์ที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ต้องเข้ารับการผ่าตัดและอาจต้องพักยาวถึง 5 เดือน แม้จากการวินิจฉัยในตอนแรกจะระบุว่า "อาร์วีพี" น่าจะกลับมาลงสนามได้ภายใน 6 สัปดาห์ก็ตาม

ยอดทีมแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ออกมาเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ผลการสแกนครั้งล่าสุดระบุว่าอาการบาดเจ็บของ ฟาน เพอร์ซี่ รุนแรงกว่าที่คาดกันไว้ โดยเส้นเอ็นข้อเท้าขวาของเจ้าตัวฉีกขาดถึง 3 เส้น และดาวยิงดัตช์แมนจะเข้ารับการผ่าตัดที่กรุงอัมสเตอร์ดัม เพื่อซ่อมเอ็นข้อเท้าที่เสียหายในช่วงสัปดาห์หน้า โดยน่าจะใช้เวลาพักฟื้นและทำกายภาพบำบัดราว 4-5 เดือน และน่าจะฟิตทันรับใช้ทีม "อัศวินสีส้ม" ในฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย ที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนมิถุนายนปีหน้า

ฟาน เพอร์ซี่ กล่าวว่า "การที่ไม่สามารถลงสนามได้เป็นเวลาหลายเดือน มันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด ผมกำลังมีฤดูกาลที่สุดยอดกับทีม ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งและมีพลังเท่ากับในปีนี้มาก่อนเลย ผมคิดว่าในฤดูกาลนี้ มีเกมที่ผมไม่สามารถทำประตูได้ หรือไม่มีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมทำได้แค่ 2 เกมเท่านั้น"

"ผมกำลังเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง และรู้สึกว่าไม่มีใครหยุดยั้งผมได้ นั่นมันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ในฐานะนักเตะคนหนึ่ง มันน่าเสียดายที่ผลงานที่กำลังยอดเยี่ยมนั้นต้องมาสะดุดเพราะการถูกเสียบแค่ครั้งเดียวในเกมอุ่นเครื่องของทีมชาติแบบนี้" ดาวยิง "ไอ้ปืนใหญ่" กล่าวแบบเซ็งๆ

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เชสโวได้เวลาปืนเถลิงแชมป์พรีเมียร์ฯ




เชส ฟาเบรกาส กัปตันคนเก่ง อาร์เซน่อล เชื่อเต็มหัวใจ ถึงเวลาของ "ไอ้ปืนใหญ่" ที่จะเดินหน้ากระชากแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาเชยชมแล้ว มั่นใจนักเตะในทีมโตเต็มที่ และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างมาก แถมยังได้ อังเดร อาร์ชาวิน และ โธมัส แฟร์มาเล่น 2 ดาวเตะมากพรสวรรค์ เข้ามาเสริมแกร่งได้พอเหมาะพอเจาะอีกต่างหาก



เชส ฟาเบรกาส กองกลางหัวใจสำคัญของ อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่งเมืองผู้ดี แสดงความมั่นใจว่า ขุนพล "ไอ้ปืนใหญ่" เติบโตเต็มที่ และพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก จนพร้อมเดินหน้าไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองในฤดูกาลนี้ จากรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

กัปตัน "เดอะ กันเนอร์ส" กล่าวผ่านหนังสือพิมพ์ "เดอะ มิร์เรอร์" ก่อนหน้าพาทีมลงซดแข้ง เชลซี ทีมจ่าฝูง วันอาทิตย์นี้ว่า "พวกเราพัฒนาขึ้น นักเตะทุกคนเติบโตขึ้นอีก 1 ปี และเก่งขึ้นเยอะเลย ทีมต้องการคว้าแชมป์ในปีนี้ และพวกเราเชื่อมั่นว่า เราสามารถทำได้"

"พวกเรามีความแข็งแกร่ง จากการมี อังเดร อาร์ชาวิน ซึ่งมีพรสวรรค์ล้ำเลิศ และเข้ามาเพิ่มมิติใหม่ให้กับทีม รวมถึง โธมัส แฟร์มาเล่น ที่เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม และยังเป็นเหมือนกองหลังผสมกับกองกลางในเวลาเดียวกันอีกด้วย!"

"อย่างไรก็ตามแต่ มันจะเป็นงานยาก เชลซี ดูแข็งแกร่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเวซ แต่พวกเขาจะอยู่ลุ้นแชมป์ไปจนถึงช่วงสุดท้าย และต่อสู้เพื่อแชมป์เหมือนที่เป็นมาตลอด พรีเมียร์ลีก เป็นรายการแข่งขันที่ผมอยากคว้าแชมป์มาครองมากๆ"

"ในสเปน ดูเหมือนว่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะสำคัญกว่า ลา ลีกา แต่ที่นี่ พรีเมียร์ลีก อยู่สูงที่สุด แน่นอน ผมเชื่อว่าพวกเราสามารถคว้าแชมป์ได้ หากไม่แล้ว มันก็ไม่มีเป้าหมายในการเล่นฟุตบอล ผมเล่นฟุตบอลเพื่อชนะ และนั่นเป็นสิ่งที่แฟนบอล อาร์เซน่อล ต้องการ" มิดฟิลด์จอมล่าตาข่าย ร่ายยาว

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 2 - สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม) 0


"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล กลับคืนสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยม หลังเปิดบ้านไล่อัด สตองดาร์ ลีแอช ไปแบบสบายๆ 2-0 พร้อมตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นที่เรียบร้อย




ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

กลุ่ม เอช

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 2 - สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม) 0

สนาม : เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม

"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดรังพบ สตองดาร์ ลีแอช เกมนี้เจ้าบ้านขอแค่ไม่แพ้ก็จะเข้ารอบอย่างเป็นทางการ ตัวผู้เล่นแม้ขาดทั้ง นิคลาส เบนด์ทเนอร์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ตัวอื่นๆอย่าง เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน รวมถึง ซามีร์ นาสรี่ ลงตัวจริง ส่วนทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ เดียดอนเน่ เอ็มโบคานี่

เริ่มเกมขึ้นมา เจ้าบ้านเดินเครื่องเต็มเหนี่ยว นาที 5 ซามีร์ นาสรี่ จ่ายบอลใ เชส ฟาเบรกาส ตะบันจากกรอบเขตโทษ ตรงตัว ซินาน โบลัต

ถึงนาที 15 อาร์เซน่อลพลาดโอกาสทองขึ้นนำ อังเดร อาร์ชาวิน หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ โดนเซฟออกมา คาร์ลอส ตามซ้ำ บอลพุ่งไปชนเสา ก่อนที่ โธมัส แฟร์มาเน่น ซ้ำดาบสามโดนสกัดทิ้งหวุดหวิด

หกนาทีต่อมา เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ กระชากเข้าเขตโทษ ก่อนโดน เอเลียควิม มองกาล่า เสียบคว่ำ ทว่าผู้ตัดสินไม่เป่าเป็นจุดโทษ

จังหวะต่อมา สตองดาร์ เกือบทำช็อค เดียดอนเน่ เอ็มโบคานี่ กองหน้าตัวเก่ง กระชากไปยิงในกรอบเขตโทษ บอลผ่านมือ อัลมูเนียไปแล้ว แต่ไปชนคานอย่างจัง

กระทั่งนาที 35 กลายเป็นอาร์เซน่อลที่ขึ้นนำก่อน โธมัส แฟร์มาเล่น วางยาวจากแดนตัวเองมาถึงกรอบเขตโทษ แลนดรี้ มูเลโม่ กองหลังทีมเยือนลื่นล้ม กลายเป็นดีให้ ซามีร์ นาสรี่ ยิงสวนนายทวารทีมเยือนสู่ก้นตาข่าย 1-0

สี่นาทีต่อมาสกอร์เกือบขยับให้อาร์เซน่อล การต่อบอลสวยงามตรงกลางสนาม มาถึงอังเดร อาร์ชาวิน ตะบันเหน่งๆ ลูกถากเสานิดเดียว

นาที 45 สาวกเดอะกันเนอร์สได้เฮอีกคำรอบ เดนิลสัน ตั้งป้อมยิงไกลระยะเกือบ30 หลา บอลพุงเสียบใต้คานอย่างหมดจด จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำห่าง 2-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง เกมของเจ้าถิ่นยังเหนือกว่ามาก นาที 47 คีแรน กิ๊บบ์ส เปิดบอลให้ เชส ฟาเบรกาส ยิงจากระยะ 16 หลา ไม่ตรงกรอบ

นาที 53 อักเซิ่ล วิทเซิ่ล พาบอลหลุดเข้ากรอบเขตโทษ ทว่าโดน มานูเอล อัลมูเนีย รวบคว่ำลง ทว่าผูตัดสินยังใจแข็งไม่เป่าให้จุดโทษ

ผ่านหนึ่งชั่วโมงแรกเกมของอาร์เซน่อลยังดูดีกว่า ธีโอ วัลค็อตต์ ตัวสำรอง เลี้ยงจากกราบขวาเข้ามายิงใน
กรอบเขตโทษ ลูกหลุดกรอบไปนิดเดียว

เกมเริ่มเนือยๆลง ทั้งสองทีมต่อสู้กันตรงกลางสนามมากกว่า ลีแอช มีลุ้นเล็กๆในนาที 71 เอเลียควิม มองกาล่า ยิงไกล แต่ตรงตัว มานูเอล อัลมูเนีย

จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบ90นาที อาร์เซน่อล อัด สตองดาร์ ลีแอช แบบนิ่มๆ 2-0 ผ่านเข้ารอบสำเร็จ ส่วนทีมเยือนต้องไปลุ้นนัดสุดท้าย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, วิลเลียม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส, เชส ฟาเบรกาส, อเล็กซองเดร ซง บิลลง,เดนิลสัน, ซามีร์ นาสรี่, อังเดร อาร์ชาวิน, คาร์ลอส เวล่า
สำรอง : วิโต้ มานโนเน่, บาการี่ ซาญ่า, โทมัส โรซิคกี้, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, ธีโอ วัลค็อตต์, มิกกาแอล ซิลแวสต์, อาร์กมองด์ ตราโอร่

สตองดาร์ ลีแอช : ซินาน โบลัต, มาร์กอส คาร์มอซซาโต้, โมฮาเหม็ด ซารร์, เฟลิเป้, แลนดรี้ มูเลโม่, เรกินาล โกรัวซ์, อักเซิ่ล วิทเซิ่ล, เอเลียควิม มองกาล่า, เมห์ดี้ คาร์เซล่า-กอนซาเลซ, วิลเฟรด ดัลมาต์, เดียดอนเน่ เอ็มโบคานี่
สำรอง : คริสโตฟ ฟาน ฮูท, วิคเตอร์ รามอส, ริคาร์โด้ โรช่า, รามี่ เกอร์ชอน, เบนจามิน นิไซเซ่, โกฮี บิ ซอร์โร่, มุสซ่า ตราโอร่

ผู้ตัดสิน : คอนราด เพลาท์ซ (ออสเตรีย)

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อาร์เซน่อล - สตองดาร์ ลีแอช



"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ต้องการแค่แต้มเดียวก็จะการันตีการเข้ารอบ เตรียมส่ง เอดูอาร์โด้ กับ อังเดร อาร์ชาวิน ยืนเป้าล่าตาข่าย สตองดาร์ ลีแอช ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก


"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ต้องการอีกแค่คะแนนเดียวเพื่อเข้ารอบน็อคเอาท์ ตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี สองทีมร่วมศึกพรีเมียร์ลีก ทว่าอาร์แซน เวนเกอร์ ต้องเจอปัญหานักเตะตัวหลักเจ็บเพียบนำโดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกดัตช์ที่น่าจะพักถึงปีใหม่ ขณะที่ กาแอล กลิชี่, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, โยฮัน ฌูรู, แจ๊ค วิลค์เชียร์, คีแรน กิ๊บบ์ส และ วาซิริกี้ ดิยาบี้ ยังมีปัญหาเจ็บทั้งหมด อีกทั้งทีมเพิ่งจะเสียสถิติไม่แพ้ใคร 13 นัดติดต่อกันทุกรายการที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ของซันเดอร์แลนด์ในเกมลีกนัดล่าสุด

การจัดตัวของเวนเกอร์ยังน่าจะส่งตัวหลักเช็กบิลในเกมนี้เลยโดยในแนวรุกใช้ เอดูอาร์โด้ กับ อังเดร อาร์ชาวิน ยืนหัวหอกคู่กันส่วนแดนกลางพึ่งการทำเกมของ โทมัส โรซิคกี้ กับ ซามีร์ นาสรี่ โดยที่เชส ฟาเบรกาส ยืนตรงกลางคู่กับ อเล็กซ์ ซง ที่น่าจะเบียด แอรอน แรมซี่ย์ ไปนั่งสำรอง ส่วนแนวรับยังมี มานูเอล อัลมูเนีย ยืนเฝ้าเสา และใช้ วิลเลียม กัลลาส กับ โธมัส แฟร์มาเล่น ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กัน ขณะที่ บาการี่ ซาญ่า เล่นแบ๊กขวาส่วนทางซ้ายยังเป็นภาระของ อาร์กมองด์ ตราโอเร่

ด้านสตองดาร์ ลีแอช ฟื้นขึ้นมาได้จากชัยชนะเหนือโอลิมเปียกอสในเกมที่แล้ว โดย ลาสโล่ โบโลนี่ เทรนเนอร์ของทีมไม่มีตัวนักเตะติดโทษแบนขณะเดียวกันได้ วิลเฟรด ดัลมาต์ กับ โกฮี บิ ไซเรียค หายเจ็บกลับมาช่วยทีมแต่เซดริก กอลเล่ต์, โมฮัมเหม็ด ซาร์ และ อีกอร์ เด คามาร์โก้ ยังเดี้ยง

การจัดตัวของโบโลนี่ยังยึดชุดเดิมเป็นหลักมี ซินาน โบลัต เฝ้าประตู ขณะที่แนวรับใช้ ริคาร์โด้ โรชา เป็นตัวหลักยืนคู่กับ เฟลิเป้ และมี มาร์กอส คามอซซาโต้ กับ วิคเตอร์ รามอส ที่ได้ประจำการริมเส้นแทนโมฮัมเหม็ด ซาร์

กองกลางได้ ดัลมาต์ กลับมาแต่ยังน่าจะเป็นตัวสำรองโดยแผงมิดฟิลด์ตรงกลางของทีมใช้ เอเลียกวิม มานกาล่า, อเล็กซ์ วิตเซล และ เมห์ดี้ คาร์เซล่า-กอนซาเลซ โดยมี เกรกอรี่ ดูเฟอร์ เล่นริมเส้นแทน อีกอร์ เด คามาร์โก้ ส่วนอีกฟากเป็น มิลาน โยวาโนวิช และใช้ เดียดอนเน่ เอ็มโบคานี่ ศูนย์หน้าตัวหลักชาวคองโกยืนเป็นตัวเป้า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล (4-4-2) : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซาญ่า, วิลเลียม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กมองด์ ตราโอเร่ - โทมัส โรซิคกี้, เชส ฟาเบรกาส, อเล็กซ์ ซง, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

สตองดาร์ ลีแอช (4-5-1) : ซินาน โบลัต - มาร์กอส คามอซซาโต้, ริคาร์โด้ โรชา, เฟลิเป้, วิคเตอร์ รามอส - เกรกอรี่ ดูเฟอร์, เอเลียกวิม มานกาล่า, อเล็กซ์ วิตเซล, เมห์ดี้ คาร์เซล่า-กอนซาเลซ, มิลาน โยวาโนวิช - เดียดอนเน่ เอ็มโบคานี่

ผู้ตัดสิน : คอนราด เพลาต์ซ (ออสเตรีย)

ปูดปืนสนคว้าปาซซินี่เสริมหอก




สื่อมะกะโรนีปูดข่าว จามเปาโล ปาซซินี่ หัวหอกตีนคม "ลา ซามพ์" ซามพ์โดเรีย กลายเป็นนักเตะรายล่าสุด ที่ได้รับความสนใจจาก "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ซึ่งอยากได้ตัวไปล่าตาข่ายในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่คงต้องลุ้นหนัก เพราะ "สิงห์บลูส์" เชลซี ก็จ้องฉกลายเซ็นไปครองเช่นเดียวกัน



หนังสือพิมพ์ในอิตาลี รายงานข่าว อาร์เซน่อล ทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเตรียมกระชากลายเซ็นของ จามเปาโล ปาซซินี่ กองหน้าจอมถล่มประตูของ ซามพ์โดเรีย ทีมใน กัลโช่ เซเรีย อา มาเสริมหอก หลังระเบิดฟอร์มกระทุ้งตาข่าย กลายเป็นผู้นำร่วมในตำแหน่งดาวซัลโวของลีกเวลานี้ รวมถึงช่วยให้ "ลา ซามพ์" มีลุ้นแย่งพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย

ดาวยิงวัย 25 กะรัต ได้รับการจับตามองจากหลายสโมสร ซึ่ง "ไอ้ปืนใหญ่" กลายเป็นทีมล่าสุดที่ตกเป็นข่าวพัวพันกับ ปาซซินี่ หลังจากมีการคาดว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กำลังจะได้รับเงินทุน 18 ล้านยูโร (ประมาณ 864 ล้านบาท) เพื่อซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทีมต่อไป

กระนั้นมีกระแสข่าวระบุว่า การเจรจาล้มเหลวลง เนื่องจากข้อเสนอที่ "เดอะ กันเนอร์ส" ยื่นมา ไม่พอกับความต้องการของ ซามพ์โดเรีย อย่างไรก็ดีเชื่อว่า ยอดทีมแห่งถิ่น ลุยจิ แฟร์ราริส น่าจะยินยอมพร้อมใจเปิดการเจรจากับสโมสรอื่นที่แสดงความสนใจเข้ามาอีกครั้ง

หาก อาร์เซน่อล ยื่นข้อเสนอเข้ามาอีกครั้ง พวกเขาก็อาจจำเป็นต้องเจอกับการแข่งขันล่าลายเซ็นอดีตดาวยิง ฟิออเรนติน่า จาก เชลซี คู่ปรับร่วมเมืองผู้ดี ที่ได้รับการพักโทษแบนห้ามซื้อนักเตะ และกำลังเดินหน้าเสริมทัพขนานใหญ่ในเวลานี้

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แมวข่วนปืนหน้าแหก 1-0




ดาร์เรน เบนท์กองหน้าแม่ยายกลายเป็นฮีโร่ให้เหล่าแมวเหมียวหลังยิงประตูโทนนำซันเดอร์แลนด์เบียดซิวอาร์เซนอลหวุดหวิด 1-0 ทำให้ขยับมี 20 แต้มเท่าลิเวอร์พูลส่วนลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์แพ้หนแรกในรอบ 8 นัดอย่างชอกช้ำใจ

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2552

ซันเดอร์แลนด์ 1-0 อาร์เซนอล

ประตู : 1-0 เบนท์ น.71

ครึ่งแรก

โรซิคกี้กดเต็มเท้าไม่เข้า
ซันเดอร์แลนด์เริ่มมาแอบดุแต่นาทีที่ 5 การบุกครั้งแรกของอาร์เซนอลเกือบได้ประตูหลังซาญ่าเปิดบอลจากกรอบโทษฝั่งขวาบอลล้นกำลังจะออกเส้นหลังแต่เชสก์วิ่งมาเกี่ยวข้ามหัวกลายเป็นตั้งให้โรซิคกี้วิ่งมาตะบันเต็มตีนเตี่ยแต่ฟูล็อปปฏิกริยาไวเซฟทั้งตัวบอลปลิ้นตูดออกหลังเสียเตะมุม

มัลบร็องก์อัดถากสามเหลี่ยม
นาที 16 โอกาสทองครั้งแรกของ"แมวดำ"เล่นเอาเสียวเหมือนกันจากลูกเปิดทางปีกซ้ายของแอนดี้ รีดเข้ามาในเขตโทษเฟอร์มาเล่นโขกเคลียร์ทิ้งบางทำให้เข้าทางมัลบล็องก์ที่กดติดไซด์ก้อยเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว

แนวรับปืนป่วน
เกมรับของทีมเยือนเหมือนมีปัญฆาในการรับมือลูกเปิดจากริมเส้นเพราะอีก 3 นาทีจังหวะเดิมๆจากลูกที่ริชาร์ดสันแทงบอลออกซ้ายให้รีดเปิดเข้าในข้ามหัวเซนเตอร์บอลตกพื้นแต่มัลบร็องก์วางเท้ายิงหวดใต้ลูกข้ามคานออกไปน่าเกลียด

ปืนขิ่งสวยแต่ดูดูเลอะเทอะ
นาที 32 ทีมเยือนน่าจะขึ้นนำหลังซงลากฝ่ามาถึงหน้าเขตโทษที่มีกองหลังซันเดอร์แลนด์เพียบไปหมดแต่ทำชิ่งเร็ว 1-2 กับดูดู้แล้วคืนต่อให้ดูดู้ที่หลอกจะยิงแล้วล็อกจนตัวประกบถลำแต่ตอนดวลกับฟูล็อปดันไม่ยอมยิงไปงัดข้ามจะให้ซงจนสุดท้ายบอลล้นออกหลังไปซะงั้น

แรมซีย์หวดได้ลุ้น
นาที 38 "ปืนใหญ่"มาอีกชุดคราวนี้ตราโอเร่ยึกยักจะโยนไม่โยนหลอกจนบาร์ดสลีย์สไลด์โดนไม่เต็มจนได้วิ่งไปเปิดบอลจากเส้นหลังหมายจะให้ดูดู้แต่เมนซาห์โขกสวนออกมานอกหรอบที่มีแรมซีย์วิ่งมากดบอลลงพื้นก่อนพุ่งเข้าหาประตูแต่ฟูล็อปยืนตำแหน่งดีรับติดหมือหนึบหนับ

ครึ่งหลัง

เล่นมากว่า 10 นาทีตอนนี้"แมวดำ"กลายเป็นของแข็งสำหรับอาร์เซนอลไปซะแล้วเพราะลูกทีมสตีฟ บรูซจับจังหวะได้มากขึ้นเรื่อยๆแถมตอนบีบก็เล่นงานจนแข้ง"ปืนใหญ่"ต่อบอลกันไม่ค่อยเนียนแล้ว

เกมยังยื้อกันอยู่
เกมไม่สนุกเหมือนในครึ่งแรกเพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังตัวแม้บรูซกำลังเร่งเกมรุกด้วยการส่งเฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ลงมาแทนมัลบร็องก์ส่วนก่อนหน้านั้นไม่นานเวนเกอร์ให้อังเดร อาร์ชาวินมาทำเกมแทนอารอน แรมซีย์

แมวเฮงนำ 1-0
แต่แล้วนที 71 "แมวดำ"มาขึ้นนำแบบมีโชคจากจังหวะเตะมุมของแอนดี้ รีดปีกคอสั้นเป็นเบนท์ที่พุ่งมาโขกแต่เจอกัลลาส์แย่งบอลไปกระเด้งถูกขาแคมป์เบลล์ตัวสำรองและกลายเป็นลูกชิ่งแบบไม่ตั้งใจที่ล้นมาเข้าทางเบนท์วิ่งมาล้มตัวซัดจ่อๆเข้าไป 1-0

เฟอร์มาเลนทนดูไม่ได้
อีก 3 นาทีต่อมาเชสก์บรรจงหยอดบอลหน้ากรอบเขตโทษตัดหลังบาร์ดสลีย์ให้เฟอร์มาเลนที่ขึ้นมาเติมเกมรุกวิ่งวอลเลย์ตามน้ำมุมแคบบอลข้ามคานออกไป

ปืนลุ้นเสมอ 2 หนติด
ก่อนหมดเวลา 4 นาทีซงยึกยักไม่รูเจะส่งให้ใครสุดท้ายพลิกมาวางหยอดยาวเข้าในเขตโทษให้อาร์ชาวินวิ่งสอดล้มตัวสไลด์ยิงแต่สุดขาบอลชนหน้าต่างดังเพล้ง

อีกไม่ถึงนาที"ปืนใหญ่"พลาดโอกาสตีเสมออีกแล้วหลังเบล่าตวัดเปิดด้วยอีซ้ายตรงริมกรอบโทษแต่เชสก์สไลด์เต็มเหยียดไม่ถึงบอลที่วิ่งผ่านหน้าปากประตูไปอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลา"ปืนใหญ่"เร่งเครื่องไม่ทันการณฺ์หมดเวลาซันเดอร์แลนด์เอาชนะ 1-0 มี 20 แต้มเท่าลิเวอร์พูลแต่ประตูได้เสียเป็นรองส่วนลูกทีม"น้าเหี่ยว"แพ้ครั้งแรกในรอบ 8 นัดถูกเชลซีทิ้งห่างไปแล้ว 8 แต้มและยิงไม่ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พ่ายแมนฯยูฯในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ซันเดอร์แลนด์ : มาร์ตอน ฟูล็อป 6,ฟิลิป บาร์ดสลีย์ 6,เปาโล ดา ซิลวา 6,จอห์น เมนซาห์ 5(เฟอร์ดินานด์ น.82),จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์ 6,สตีด มัลบร็องก์ 6(แคมป์เบลล์ น.66,6),ลอริค คาน่า 6,เคียราน ริชาร์ดสัน 7,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7,แอนดี้ รีด 8 *(เซนเด้น น.78,6),ดาร์เรน เบนท์ 7

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 6,บาคารี่ ซาญ่า 7,โธมัส เฟอร์มาเลน 6,วิลเลียม กัลลาส์ 6,อาร์มองด์ ตราโอเร่ 5,อเล็กซานเดอร์ ซง 7,อารอน แรมซีย์ 6(อาร์ชาวิน น.60,6),เชสก์ ฟาเบรกัส 6,โทมัส โรซิคกี้ 5(วัลค็อตต์ น.72,7),เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา 5(เบล่า น.72,6),ซาเมียร์ นาสรี่ 6



ข้อมูลจาก soccersuck.com

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วัลคอตต์พร้อม เวนเกอร์ส่งยิงแมว




ธีโอ วัลคอตต์ หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาแล้ว และพร้อมจะลงสนามในเกมวันนี้ที่จะพบกับ ซันเดอร์แลนด์

กองหน้าทีมชาติอังกฤษเพิ่งจะลงเล่นให้กับ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น ตั้งแต่เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเมื่อเดือน ตุลาคม

อย่างไรก็ตาม วัลคอตต์ ก็พร้อมที่จะลงสนามในเกมคืนนี้ รวมถึง เดนิลสัน และ วิลเชียร์

"เดนิลสัน กลับมาแล้ว วัลคอตต์ และ วิลเชียร์ ก็สามารถลงสนามได้" เวนเกอร์กล่าว

"วัลคอตต์ จะมีชื่ออยู่ในเกมที่จะพบกับ ซันเดอร์แลนด์ ส่วน ฟาเบียงสกี้ ยังลงเล่นไม่ได้"

เวนเกอร์ ยังให้ความเห็นอีกว่า เขาอาจจะพัก กัลลาส และ ซานย่า ที่เพิ่งจะเดินทางกลับมาจากเกมทีมชาติฝรั่งเศส

ส่วน อาร์ชาวิน ก็อาจจะไม่ได้เป็น 11 ตัวแรก เพราะเขาเพิ่งจะเล่นให้กับทีมชาติ รัสเซีย มาเหมือนกัน

"ฝรั่งเศส เล่นตั้ง 120 นาที" เวนเกอร์อธิบาย

"อาร์ชาวิน กลับมาจากการเดินทางไกลและน่าผิดหวังมาก ส่วนหนึ่งจากเกมนั้น มันไม่ได้แย่เท่าไร"

ปรีวิว ซันเดอร์แลนด์ - อาร์เซนอล




อาร์เซนอล จะออกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ในวันเสาร์นี้ ซึ่งจะคิกออฟเวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดช่อง ทรูสปอร์ต 3 (61)

ซันเดอร์แลนด์

ผลงาน 5 นัดล่าสุด

07 Nov (Premier League) v Tottenham (A) LOST 0-2
31 Oct (Premier League) v West Ham (H) DREW 2-2
27 Oct (League Cup) v Aston Villa (H) DREW 0-0 (LOST 1-3 on penalties)
24 Oct (Premier League) v Birmingham (A) LOST 1-2
17 Oct (Premier League) v Liverpool (H) WON 1-0

รายชื่อ 11 ผู้เล่นในเกมล่าสุด

Gordon (Fulop 66), Bardsley (Ferdinand 77), McCartney, Turner, Da Silva,
Malbranque (Healy 77), Richardson, Henderson, Reid, Campbell, Bent

สำรองไม่ได้ใช้ : Nosworthy, Meyler, Reid, Murphy

นักเตะที่น่าจับตามอง : Darren Bent


อาร์เซนอล

ผลงาน 5 นัดล่าสุด

07 Nov (Premier League) v Wolverhampton W (A) WON 4-1
04 Nov (Champions League) v AZ (H) WON 4-1
31 Oct (Premier League) v Tottenham (H) WON 3-0
28 Oct (League Cup) v Liverpool (H) WON 2-1
25 Oct (Premier League) v West Ham (A) DREW 2-2

รายชื่อ 11 ผู้เล่นในเกมล่าสุด

Almunia, Sagna, Vermaelen, Gallas, Gibbs, Diaby (Song), Fabregas, Ramsey,
Arshavin (Nasri 74), Eduardo (Rosicky 70), Van Persie.

สำรองไม่ได้ใช้ : Mannone, Senderos, Silvestre, Eboue

นักเตะที่น่าจับตามอง : Cesc Fabregas


ผลการแข่งขันที่คาดจาก Goal.com
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 อาร์เซนอล

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เวนเกอร์โล่ง เพอร์ซี เจ็บไม่หนัก




อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล ยอมรับรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่อาการบาดเจ็บของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดาวยิงชาวดัตช์ และ คีแรน กิบบ์ส ฟูลแบ็กดาวรุ่ง ไม่รุนแรงมากอย่างที่เป็นกังวลในตอนแรก

ฟาน เพอร์ซี ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าพังระหว่างการรับใช้ทีมชาติฮอลแลนด์อุ่นเครื่องกับทีมชาติอิตาลีเมื่อสัปดาห์ก่อนและต้องพักเป็นเวลา 6 สัปดาห์ โดย เวนเกอร์ ยอมรับว่าตอนแรกคิดว่าลูกทีมรายนี้จะต้องพักยาวนานกว่านั้น

"เมื่อโรบินกลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บ เรารู้เลยว่าเขาต้องพักเป็นเวลานาน เพราะผมข่าวที่ออกมาในตอนแรกมันดูรุนแรง ดังนั้นผมจึงรู้สึกโล่งใจมากที่เขาต้องพักเพียง 6 สัปดาห์ แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น่าพอใจและเราก็ไม่ต้องการให้เกิด แต่ผมคิดว่าทีมแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่และบางทีการพักจะทำให้เขามีความคึกคักมากขึ้นเมื่อกลับมาลงสนามอีกครั้ง" กุนซือชาวฝรั่งเศสกล่าว

ขณะที่ กิบบ์ส บาดเจ็บจากการลงสนามให้ทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีดวลกับลิธัวเนีย แต่จากผลการสแกนล่าสุดพบว่าอาการไม่รุนแรงและน่าจะกลับมาลงสนามได้ในสัปดาห์หน้า

"ตอนแรก ทีมแพทย์ของเราโทรมาบอกผมว่าเขาต้องเข้าโรงพยาบาลในลิธัวเนีย เนื่องจากแกร่งว่ากระดูกฝ่าเท้าแตก แต่ต่อมาก็เป็นข่าวดี แม้เขาจะพลาดเกมกับ ซันเดอร์แลนด์ ในวันเสาร์นี้ แต่น่าจะกลับมาได้ในเกมยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ที่จะพบกับ สตองดาร์ ลีแอช วันอังคาร" เวนเกอร์ กล่าว

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เชสไม่สนข่าวย้ายลั่นพาปืนซิวแชมป์




สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" สบายใจหายห่วง เมื่อ เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์ยอดขวัญใจ ยันไม่สนข่าวย้ายทีม และจะขอมุ่งมั่นพา อาร์เซน่อล ไล่ล่าแชมป์อย่างเดียวเท่านั้น


เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์กัปตันทีม อาร์เซน่อล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่า ตอนนี้คิดถึงแต่การพาพลพรรค "ไอ้ปืนใหญ่" กวาดถ้วยรางวัลมาประดับตู้โชว์ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้จะมีข่าวลือเรื่องการย้ายสังกัดปรากฎขึ้นมาแบบไม่ขาดสายก็ตาม


ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีรายงานจากสเปนว่า ซานโดร โซเซลล์ อดีตประธานบริหารของ ไนกี้ ผู้ผลิตเครื่องกีฬายักษ์ใหญ่ของโลก หวังจะใช้ ฟาเบรกาส เรียกคะแนนเสียง ในการลงชิงเก้าอี้ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า หลัง โจน ลาปอร์ต้า ก้าวลงจากตำแหน่งในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้


ขณะเดียวกันยังมีข่าวจากหนังสือพิมพ์ "อาส" แห่งแดนกระทิงดุด้วยว่า เรอัล มาดริด ก็พร้อมจะยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวอดีตเด็กสร้าง บาร์ซ่า ไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์หน้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เชส ปฏิเสธที่จะพูดถึงอนาคต โดยยืนยันว่า ตอนนี้ในหัวมีแต่ อาร์เซน่อล เท่านั้น


"ตอนนี้ผมยังอยู่ในความสงบ และปราศจากปัญหาบาดเจ็บ ที่ อาร์เซน่อล ผมกำลังมีฤดูกาลที่ดี และความฝันของผมก็คือ การคว้าแชมป์ที่ อาร์เซน่อล ตอนนี้ผมยังคงไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคต ผมสนใจแต่เรื่องใกล้ตัว และไม่ได้มองไปไกลเกินกว่านั้น ผมมีหน้าที่รับผิดชอบอย่างใหญ่หลวงต่อสโมสรของผม และตอนนี้มันก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะคิดไปไกลเกินกว่านั้น" หัวหน้าฝูง "เดอะ กันเนอร์ส" ยืน

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานงอก! เพอร์ซี่ย์เอ็นฉีกพักยาว 2 เดือน




ลางร้ายเหมือนจะเริ่มเข้าครอบงำอาร์เซนอลอีกครั้ง เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดี อาจจะต้องพักถึง 2 เดือน หลังจากที่ต้องถูกหามออกจากสนามในเกมทีมชาติที่ ฮอลแลนด์ พบกับ อิตาลี่ หลังเกมโค้ชฮอลแลนด์ เบิร์ท ฟาน มาร์วิจ์ค ได้ออกมากล่าวว่า เขาเกรงว่า เพอร์ซี่ย์ จะมีปัญหาเอ็นข้อเท้าขวาฉีก

เพอร์ซี่จะเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดอีกทีในวันนี้

เพอร์ซี่ย์ ลงเล่นได้แค่ 16 นาทีเท่านั้น ก่อนจะถูกเข้าปะทะอย่างหนักจาก จอร์จิโอ คิลีนี่ กองหลังจาก ยูเวนตุส ซึ่งเชื่อว่ากองหลังรายนี้กำลังอยู่ในความสนใจของ เวนเกอร์ อีกด้วย

เทพแรมซีย์ ช่วยเวลส์ถลุงสก็อตต์ 3-0



อารอน แรมซี่ย์ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมที่ เวลส์ เอาชนะ สก็อตต์แลนด์ ไปได้ 3-0

แรมซี่ย์ ซึ่งได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมในเกมนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการได้ประตูของ ดาวิด เอ็ดวาร์ด และ ไซมอน เชิร์ท ก่อนที่จะมาบวกเพิ่มเองได้ในลูกสุดท้าย


รายชื่อผู้ที่ทำประตูได้ให้กับ เวลส์

D. Edwards น. 17
S. Church น. 32
A. Ramsey น.35

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แข้งปืนใจบุญสมทบทุนบริจาคเงินให้รพ.




แข้งซูเปอร์สตาร์ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เตรียมอิ่มบุญกันถ้วนหน้า เมื่อวางแผนมอบเงินค่าแรง 1 วัน พร้อมโบนัส ในเกมเตะกับ "สิงห์บลูส์" เชลซี ปลายเดือนนี้ เพื่อสมทบทุนกับสโมสร นำไปบริจาคให้โรงพยาบาล เกรท ออร์มอนด์ สตรีท ให้ครบตามเป้าราว 56 ล้านบาท



บรรดาพ่อค้าแข้งของ อาร์เซน่อล ลงมติเป็นเอกฉันท์ พร้อมสละเงินค่าจ้าง 1 วัน บวกโบนัสต่างๆ ในเกมปะทะแข้ง เชลซี คู่ปรับสำคัญ ในเกม พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้ เพื่อรวบรวมเงินบริจาคให้โรงพยาบาล เกรท ออร์มอนด์ สตรีท ต่อไป


"ไอ้ปืนใหญ่" กำลังมองหาหนทางรวบรวมเงินให้ได้ 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 56 ล้านบาท) เพื่อมอบให้โรงพยาบาลในกรุงลอนดอน เพื่อการกุศลครั้งนี้ และ เชส ฟาเบรกาส พร้อมลูกทีมทุกคน ยินดีมอบเงินรายได้ส่วนตัวเพื่อสมทบทุน ขณะที่ "เดอะ กันเนอร์ส" หวังว่าจะได้รับเงินบริจาค ระหว่างเกมกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" ราว 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 11.2 ล้านบาท) ด้วยกัน


เมื่อฤดูกาลก่อน ยอดทีมแห่ง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รวมเงินได้กว่า 532,816 ปอนด์ (ประมาณ 30 ล้านบาท) และนำไปมอบให้กับกองทุนมะเร็งในวัยเด็ก ซึ่งบรรดาพ่อค้าแข้งในสโมสรต่างแสดงน้ำใจช่วยสมทบทุนคนละเท่าๆ กัน และการตัดสินใจเริ่มโครงการบริจาคเงินการกุศลในครั้งนี้ ได้รับมติเป็นเอกฉันท์จากการลงคะแนนในห้องแต่งตัวของทีมเรียบร้อยแล้ว


ก่อนหน้านี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส ได้พาลูกทีมเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลลอนดอน ช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งทางสโมสรก็กำลังพยายามมองหาความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากบรรดาสาวกของทีมในเวลานี้


แหล่งข่าววงในของทีม เปิดเผยโครงการเอื้อเฟื้อต่อชุมชนครั้งนี้ว่า "มีความรู้สึกท่ามกลางเหล่านักเตะว่า พวกเขาสามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้ พวกเขารู้สึกว่า อย่างน้อยที่สุด นี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้"

เวนเกอร์ฟันเฟิร์ม ส่งเด็กถอนหงอกเรือ




อาร์เซน เวนเกอร์ ออกมายืนยันว่าในเกมที่จะพบกับ แมนฯ ซิตี้ ในฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ เขาจะยังคงส่งแข้งเด็กลงสนามไล่เตะเรือต่อไป

"มันจะน่าสนใจ น่าตื่นเต้นดี และจะเป็นบททดสอบที่ดี" เวนเกอร์กล่าว

"เราศรัทธาในหลักการ และแน่นอนว่าต้องมีโอกาสชนะในเกมด้วย"

เวนเกอร์ยังให้คำนิยามเกี่ยวกับ ชุดเต็ม (full side) ตามหลักของเขาเองอีกด้วย

"ถ้าคุณเรียกว่าชุดจริง 11 แข้งหลัก นั่นเราก็คือเราจะเล่นกันอย่างเต็มที่ สำหรับผมชุดจริงคือทีมที่มีโอกาสชนะไม่ว่าจะเกมไหนก็ตาม

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิลเชียร์หวังช่วยปืนจมเรือ




แจ๊ค วิลเชียร์ กองกลางดาวรุ่งของอาร์เซนอล หวังหายเจ็บกลับมาช่วยปืนบดเรือในฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ

ดาวรุ่งวัย 17 ต้องนั่งดูเพื่อนเล่นตั้งแต่ คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 4 ในนัดที่พบกับ ลิเวอร์พูล ด้วยอาการเจ็บข้อเท้า

"ผมได้รับบาดเจ็บระหว่างซ้อม แต่ผมน่าจะกลับมาทันเกมที่จะพบกับ แมนฯ ซิตี้" วิลเชียร์กล่าว

"ผมผิดหวังที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล แต่มันก็ดีที่ได้เห็นนักเตะอย่าง เกร็ก อีสมอนด์ ลงสนาม และทำผลงานได้ดี"

"ถ้ามีใครเจ็บ ก็ยังมีแข้งดาวรุ่งที่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนได้อย่างดี"

วิลเชียร์ หวังว่า แมนฯ ซิตี้ จะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง

"มันจะดีที่เราจะได้เล่นกับ แมนฯ ซิตี้ และผมหวังวาเขาจะขนชุดใหญ่ลงสนาม" วิลเชียร์เสริม

"เราจะไปเยือนที่นั่น และเชื่อว่าเราสามารถเอาชนะได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะทำได้"

"ผมคิดว่าเราผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งเราก็มีทางที่จะคว้าแชมป์ได้"

"ผมว่าเราเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ และถ้าเราทำได้ ประตูแชมป์ก็จะเปิดต้อนรับเรา"

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ตะลึง!ปืนเล็งมิซิโมวิชแทนฟาเบรกาส





ซเวซดาน มิซิโมวิช กองกลางตัวเก่ง โวล์ฟสบวร์ก ในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน กำลังตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ อาร์เซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล สำหรับการเสริมทัพในแผงกองกลางแทนที่การจากไปของ เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมชาวสเปนคนเก่ง ที่ตกเป็นข่าวหนาหูว่าจะย้ายกลับบ้านเกิด ตามรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ เมืองผู้ดี เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา


สื่ออังกฤษระบุว่า "ไอ้ปืนใหญ่" พร้อมทุ่มเงินกว่า 7 ล้านยูโร (ประมาณ 336 ล้านบาท) เพื่อซิวตัวดาวเตะทีมชาติบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า มาร่วมทัพต่อไป แต่ก็มีแนวโน้มว่า โวล์ฟสบวร์ก คงจะไม่ยอมปล่อยตัวออกจากทีมด้วยค่าตัวที่ต่ำกว่า 15 ล้านยูโร (ประมาณ 720 ล้านบาท) ค่อนข้างแน่ โดยสัญญาฉบับปัจจุบันของ มิซิโมวิช จะหมดอายุลงในช่วงซัมเมอร์ปี 2013


อย่างไรก็ตาม มิซิโมวิช กล่าวผ่านหนังสือพิมพ์ คิกเกอร์ ของเยอรมัน เกี่ยวกับข่าวดังกล่าวว่า "ไม่มีใครติดต่ออะไรผมเลย ผมไม่สนใจหรอกว่าตัวเองจะตกเป็นข่าวลือเรื่องย้ายทีมอะไรด้วย เกมเพลย์ออฟฟุตบอลโลกกับ โปรตุเกสเป็นเรื่องเดียวที่ผมสนใจมากที่สุดในตอนนี้"

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เด็กมันเทพ แรมซี่ย์ ติดทีมยอดเยี่ยม




กองกลางดาวรุ่งอาร์เซนอล อารอน แรมซี่ย์ มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของ FanHouse Team

จากเกมที่ อาร์เซนอล เอาชนะ วู๊ล์ฟ อย่างสบายเท้าด้วยสกอร์ 4-1 และ แรมซี่ย์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังหลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของเวบ FanHouse ของอังกฤษ
ttp://football.fanhouse.co.uk

ซึ่งทีมยอดเยี่ยมมีดังนี้

ผู้รักษาประตู : Mark Schwarzer (Fulham) - FanHouse score 9
แบ็กขวา: Tyrone Mears (Burnley) - FanHouse score 8
เซ็นเตอร์ : John Terry (Chelsea) - FanHouse score 8
เซ็นเตอร์ : Joseph Yobo (Everton) - FanHouse score 9
แบ็กซ้าย : Andy Dawson (Hull) - FanHouse score 7
ปีกขวา : Shaun Wright-Phillips (Manchester City) - FanHouse score 9
กองกลาง : Scott Parker (West Ham) - FanHouse score 8
กองกลาง : Tom Huddlestone (Tottenham) - FanHouse score 8
ปีกซ้าย : Aaron Ramsey (Arsenal) - FanHouse score 9
กองหน้า : Wayne Rooney (Manchester United) - FanHouse score 8
หน้า : Steven Fletcher (Burnley) - FanHouse score 9

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปืนต้อนวูลฟ์ 4-1 เขี่ยผีรั้งรองฝูง




อาร์เซนอลของอาร์แซน เวนเกอร์ร้อนแรงร่วมวงล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัวหลังโชว์ฟอร์มเทพบุกกระซวกวูลฟ์ขนร่วง 4-1 แซงหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงและจี้เชลซีเหลือแค่ 2 แต้มเท่านั้น

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552

วูลฟ์ 1-4 อาร์เซนอล

ประตู : 0-1 ซูบาร์ น.28(ทำเข้าประตูตัวเอง),0-2 แคร็ดด็อค น.36(ทำเข้าประตูตัวเอง),0-3 ฟาเบรกัส น.45+1,0-4 อาร์ชาวิน น.66,1-4 แคร็ดด็อค น.90

ครึ่งแรก

หมาป่ามาดุ
ช่วงแรกกลายเป็นวูลฟ์ที่เป็นฝ่ายกดดันใส่"ปืนใหญ่"ทั้งลูกบอมบ์และลูกเตะมุมที่กิ๊บต้องออกแรงวิ่งจากเส้นมาโขกเคลียร์ตรงระยะ 4-5 หลาได้เสียวกันพอหอมปากหอมคอ

จากนั้นนาทีที่ 10 ลูกเตะมุมของเจ้าถิ่นเป็นซิลแวง เอแบ็งค์ เบล็คพุ่งทิ้งตัวโขกพร้อมกับอาร์ชาวินบอลถากเสาออกไปนิดเดียว

ปืนยังเป็นรอง
อาร์เซนอลบุกไม่ขึ้นเพราะวูลฟ์นอกจากจะเป็นฝ่ายได้ครองเกมเยอะกว่ายังปิดช่องทางทำมาหากินด้วยแต่นาที 20 เด็กอาร์แซน เวนเกอร์เคาะบอลสั้นๆจนเกือบนำมาสู่ประตู

ปืนเฮงเจ้าถิ่น Og.
แต่แล้วนาที 28 อาร์เซนอลมาขึ้นนำแบบง่ายดายจากลูกเตะมุมของเชสก์ ฟาเบรกัสบอลพุ่งมาที่จุดนัดพบระยะ 6 หลาบอลไปตกใส่หน้าขาซูบาร์ที่ยืนประกบกับดูดู้อยู่บอลเข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้าย

พอได้ประตูทีนี้เหมือนรถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่มาเป็นชุดอีกนาทีเศษๆลูกจ่ายที่เหมือนแรง

ปืนสวนโป้งเดียว 2-0
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีวูลฟ์บุกเพลินๆเจอโต้กลับเฉยโดยเป็นซงที่แหย่แย่งบอลตรงระยะ 35 หลาแดนตัวเองก่อนที่อาร์ชาวินจะแซะให้แรมซีย์และเอดูอาร์โด้หลุดตั้งแต่กลางสนามเล่นเสียวสองรุมหนึ่งกับโจดี้ แคร็ดด็อคกองหลังที่เอาไม่อยู่และท้ายที่สุด"ดูดู้"ชิพตรงหน้ากรอบหมายจะให้แรมซีย์ที่แล่บฉีกไปแล้วแต่บอลแฉลบหัวแคร็ดด็อคบอลย้อยเสียบหน้าต่างเข้าไปอย่างงดงามซะงั้น

เด็กปืนเทพ
ทดเจ็บไปเกือบ 50 วินาทีประตูสุดสวยของเกมนี้บังเกิดขึ้นและต้องบอกว่าเป็นประตูที่มาจากการซ้อมและสไตล์เอกลักษณ์อย่างแท้จริงโดยเริ่มจากซาญ่าที่ได้บอลหน้าเขตโทษตัวเองก่อนปาดออกขวาให้เชสก์แล้วตัวเองก็วิ่งทำทางขึ้นมาทำให้แข้งสเปนไหลขนานเส้นให้แบ็คจอมบุกเปิดบอลสั้นๆเตี้ยๆๆเข้าเขตโทษให้ฟาน เพอร์ ซี่โดยจังหวะที่บอลยังไม่ออกจากเท้าของซาญ่าเชสก์วิ่งห้อหน้าตั้งทำทางมาให้ทำให้ VPS เล่นโคตรง่ายแค่แตะบอลเผื่อจังหวะเดียวจนเชสก์จับหนึ่งจังหวะแล้วแปผ่านตัวเฮนเนสซี่ย์เข้าไปอย่างวิจารตระการตา

การเล่นแบบนี้ไม่ต้องใช้นักเตะค่าตัว 20-30 ล้านปอนด์เหมือนที่ใครบางคนชอบอ้างแต่ซ้อมให้เยอะๆนักเตะ 2-3 ล้านปอนด์หรือไร้ค่าตัวก็ประสานงานก็เกิดประตูได้

ครึ่งหลัง

อาร์ชาวินโชว์เกือบเฮ
นำมาเยอะสามเม็ดทำให้เริ่มเกมมา"ปืนใหญ่"เล่นแบบสบายๆคล้ายซ้อมจนโอกาสจังๆนาที 66 จากจังหวะที่วูลฟ์จ่ายบอลไปเข้าทางเชสก์ที่แทงทะลุให้อาร์ชาวินลากจี้เข้าในเขตโทษแล้วใจหินไม่ส่งให้เพื่อนลากออกซ้ายตัวเองมุมแคบก่อนยิงเร็วร้อนถึงเฮนเนสซีย์ต้องประสานมือปัดข้ามคานออกไปนิดเดียว

อาร์ชาวินวอลเลย์หาย 4-0
จากจังหวะเตะมุมนี้เองที่เฮนเนสซีย์นายทวารออกมาชกบอลกระเด้งตรงหน้าเขตโทษเป็นอาร์ชาวินที่วิ่งเข้าหาไวกว่ามิลิยาสเลยวอลเลย์สวนฝูงผู้เล่นเจ้าถิ่นบอลเสียบตาข่ายเข้าไปเฉย

เชสก์ชวดเบิ้ล
นาที 76 ทีมเยือนน่าจะได้ลูกที่ 5 จากจังหวะที่ซงวางยาวจากหน้าเขตโทษระยะ 35 หลาให้ฟาน เพอร์ซี่พักอกลงในเขตโทษแล้วเหมือนจะเสียหลักแต่ยังฝืนตัวแล้วพลิกหนีซูบาร์จนถึงเส้นหลังก่อนตบย้อนให้เชสก์วิ่งมายิงเหน่งๆตรงระยะ 5 หลาแต่มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนยิงโด่งข้ามคานออกไปไกลมาก

แป้งเกือบมีชื่อหล่อ
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีโรซิคกี้ตัวสำรองไหลบอลเข้าตรงด้านข้างกรอบเขตโทษให้เชสก์ตบย้อนกลับบมาให้ VPS พิงบอลแล้วตวัดให้โรซิคกี้วิ่งมายิงเร็วบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

วูลฟ์ตีไข่แตก
อย่างไรก็ตามนาทีสุดท้ายอาร์เซนอลมาเสียประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุมเป็นแคร็ดด็อคหนีการสกรีนก่อนเขกตรงระยะ 6 หลาหมดสิทธิ์ที่อัลมูเนียจะเซฟเพราะจังหวะจะออกมาเล่นแต่ไม่ออกเลยโง่กันไป

หมดเวลา"ปืนใหญ่"โชว์ฟอร์มร้อนแรงบุกมาเอาชนะวูลฟ๋ถึง 4-1 ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงแทนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรวมทั้งบี้เชลซีเหลือแค่ 2 แต้มและยังทำสถิติยิงประตูมากที่สุดในลีก 36 ลูกจากการลงสนามแค่ 11 นัดหรือนัดละ 3.2 ลูกเลยทีเดียว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

วูลฟ์ : เวย์น เฮนเนสซีย์ 7,โรนัลด์ ซูบาร์ 6,โจดี้ แคร็ดด็อค 8,คริสโตเฟอร์ เบอร์ร่า 5,ริชาร์ด สเตียร์มัน 5,เดวิด เอ็ดเวิร์ดส 6(มานเซียนน์ น.80),คาร์ล เฮนรี 6,เซกุนโด้ คาสติญโญ่ 4,เนนาด มิลิยาส 6(ฆาร์บิส น.74),เควิน ดอย์ล 6,ซิลแวง อีแบ็งคส์ เบล็ค 7

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 6,บาคารี่ ซาญ่า 6,วิลเลียม กัลลาส์ 6,โธมัส เฟอร์มาเลน 6,เคียราน กิบส์ 7,อารอน แรม


ข้อมูลจาก soccersuck.com

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เชสนำทัพปืนบุกยิงหมา




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล กำลังคึกเตรียมยกพลบุกไปเยือน "หมาป่า" วูลฟ์แฮมป์ตัน โดยเจ้าถิ่นมี เควิน ดอยล์ เป็นตัวความหวังในแดนหน้า ส่วนทีมเยือนวาง เชส ฟาเบรกาส เป็นตัวทำเกมเช่นเดิม

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552

วูลฟ์แฮมป์ตัน (17) - อาร์เซน่อล (3)

สนาม : โมลินิวซ์ กราวด์

มิค แม็คคาร์ธี่ กุนซือ หมาป่า ทำผลงานยอดเยี่ยมกลับมาตามตีเสมอ สโต๊ค ได้ 2-2 ในนัดก่อน แต่เกมดังกล่าวกลับเจอข่าวร้าย เมื่อ คริส อิเวลูโม่ บาดเจ็บบริเวณกระดูกเท้าเหมือนเดิม ซึ่งเป็นแผลเก่าจากที่กระดูกแตกเมื่อตอนปรีซีซั่น

ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล๊ค จะสวมบทกองหน้าแทน อิเวลูโม่ ขณะที่ เนนาด มิลิยาส จอมทัพเซอร์เบีย ซึ่งลงสนามในช่วงพักครึ่ง และปั้นเกมรุกจนเป็นที่มาของสองประตูตีเสมอ มีโอกาสได้ลงตัวจริงด้วย

ระบบการเล่น 4-4-2 เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ โรนัลด์ ซูบาร์, คริสตอฟ เบอร์ร่า, โจดี้ แคร๊ดด็อค, จอร์จ เอโลโคบี้ แดนกลางมี ไมเคิ่ล ไคท์ลี่, เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์, เซกุนโด้ กัสตีโย่, เนนาด มิลิยาส คู่หน้า ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล๊ค ยืนคู่ เควิน ดอยล์

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส เพิ่งโชว์ฟอร์มเทพมาสองนัดติด ด้วยการถล่ม สเปอร์ส 3-0 และอัด อาแซด อัลค์มาร์ มาอีก 4-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีข่าวดีคือ ซามีร์ นาสรี่ กลับมายิงประตูได้ทันทีด้วย

สภาพทีมยังไม่มี นิคลาส เบนท์เนอร์ ที่เจ็บโคนขาหนีบ, กาแอล กลิชี่ เจ็บหลัง หมดสิทธิ์ลงสนามทั้งคู่ ขณะที่ เดนิลสัน (หลัง) กับ ธีโอ วัลค็อตต์ (เข่า) น่าจะกลับมาซ้อมได้หลังจบสัปดาห์ทีมชาติ

ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส แดนกลางมี อาบู ดิยาบี้, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

วูลฟ์แฮมป์ตัน : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - โรนัลด์ ซูบาร์, คริสตอฟ เบอร์ร่า, โจดี้ แคร๊ดด็อค, จอร์จ เอโลโคบี้ - ไมเคิ่ล ไคท์ลี่, เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์, เซกุนโด้ กัสตีโย่, เนนาด มิลิยาส - ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล๊ค, เควิน ดอยล์
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บบ์ส - อาบู ดิยาบี้, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเน็ตต์ (สถิติตัดสินเกมพรีเมียร์ลีก 7 นัด ใบเหลือง 24, ใบแดง 1)



ข้อมูลจาก www.siamsport.co.th

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปืนเหนือชั้นถล่มอัล์คมาร์ 4-1 ฉลุยเข้ารอบ



แรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เล่นได้อย่างสวยงามและดุดันก่อนยำ อัล์คมาร์ 4-1 เชสก์เบิ้ลส่วน อังเดร อาร์ชาวิน แอสซิสต์แฮทริคพร้อมกับพาทีมทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว

แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่มเอช

อาร์เซนอล 4-1 อัล์คมาร์
ประตู: 1-0 เชสก์ ฟาเบรกัส น.25,2-0 ซามีร์ นาสรี่ น.45,3-0 เชสก์ ฟาเบรกัส น.52, 4-0 อาบู ดิยาบี้ น.72,4-1 เฌเรมอง เลนส์ น.80

ครึ่งแรก

โรบินเฉี่ยวเสา
เปิดฉาก "ปืนใหญ่" เป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าแค่สามนาที ดิยาบี้ จ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี่ กระชากลากทะลุจากทางขวาเข้าไปสับไกยิงเท้าไม่ถนัดเฉี่ยวโคนเสา

กัลลาส์ทำทางเชสก์จบสกอร์
เกมอยู่ในคอนโทรลของ "ปืนใหญ่" ครองบอลเหนือกว่าเพียงแต่ยังไม่สามารถเจาะเข้าถึงพื้นที่สุดท้ายเพราะกองหลังอัล์คมาร์ถอยลงไปรับลึกมากกระทั่งนาที 25 กัลล่าส์ เซนเตอร์เติมเกมรุกเสียเลยเลือกจ่ายไปทางซ้ายให้ เชสก์ เลี้ยงหลบ โมเรโน่ จนเกิดเป็นช่องแล้วสับไกยิงเสียบโคนเสาเข้าไปโดยที่นายทวารผวาพุ่งไปไม่ถึง

อัล์คมาร์ฮึดยิงสวนสองที
พอเสียประตู อัล์คมาร์ จากที่ตั้งรับหันมาเปิดเกมบุกสู้บ้างเกมดำเนินมาถึงครึ่งชั่วโมงมีลุ้นถึงสองครั้งจาก มาร์เท่นส์ สับไกระยะ 20 หลาเข้าซอง อัลมูเนีย ตามมาด้วย โฮลมัน ตะบัน 25 หลาไม่ตรงกรอบ


เชสก์ลูกหัวไร้เรดาร์
นาที 34 โอกาสกลับมาเป็นของเจ้าถิ่นอีกครั้งจากการประสานงานระหว่าง ฟาน เพอร์ซี่ จ่ายอ้อมหลังให้ กิ๊บบ์ส วิ่งกระชากเกือบสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนหยอดไปยังเสาสอง เชสก์ โขกข้ามคาน

นาสรี่เขามาแล้ว
เกมครึ่งแรกทำท่าจะจบแค่ลูกเดียวแต่นาทีสุดท้าย อาร์เซนอล หนีห่างเป็น 2-0 จากการประสานงานระหว่าง อาร์ชาวิน เห็นแล้วให้จ่ายทะลุ นาสรี่ โชว์ทักษะหลอกจะไปซ้ายแล้วแตะหลบ มอยซานเดร์ หลังแทบหักคราวนี้ปากประตูเปิดโล่งก่อนยิงล่อเป้าเข้าไปไม่เหลือ จบ 45 นาทีทีมปืนใหญ่สบายๆตุนอยู่สองตุง




ครึ่งหลัง

เชสก์หล่ออีกยิงเบิ้ล
อาร์เซนอลเล่นแบบประคองเกมไม่เน้นเหมือนครึ่งแรกรอให้ อัล์คมาร์ บุกเข้าหาแล้วสวนกลับนำไปสู่ประตูที่สามในนาที 52 อาร์ชาวิน เจ้าเดิมโชว์การจ่ายเหนือชั้นให้ เชสก์ หลุดทะลุกับดักล้ำหน้าเอี้ยวตัวแปแบบไม่ต้องจับในกรอบเขตโทษทางซ้ายตุงตาข่าย

ปืนเผลอเกือบโดน
นำห่าง 3-0 อาร์เซนอลเลยเล่นสบายๆเกินไปเกือบโดน อัล์คมาร์ ส่องได้ในนาที 56 ยาเลี่ยนส์ โยนจากทางขวาไปยังเสาสอง โฮลมัน โหม่งชงให้ เปลเล่ พักด้วยอกก่อนวอลเลย์เต็มข้อติดเซฟ อัลมูเนีย ปัดชนคานเต็มๆ

กิ๊บบ์สอีกนิดก็ดังแล้ว
พออัล์มาร์พลาดโอกาสทอง อาร์เซนอล เลยเล่นสบายเลยประคองเกมไปเรื่อยๆจนถึงนาที 70 กิ๊บบ์ส หวังดังกะเขาบ้างลากจากทางซ้ายตัดเข้าในสับไกยิงระยะ 20 หลาเฉี่ยวเสานิดเดียว

อาร์ชาวินสุดยอดแอสซิสท์แฮททริค
เกมนี้ดูจะง่ายไปหมดสำหรับปืนใหญ่นาที 72 ได้ประตูที่สี่จากจังหวะสวนกลับ เอดูอาร์โด ตอกลูกส้นจากกลางสนาม อาร์ชาวิน ทะลุหลุดไปทางขวาก่อนจ่ายถวายพานทองให้ ดิยาบี้ จับด้วยซ้ายก่อนแปด้วยขวาเข้าไป อาร์เซนอล นำ 4-0


ไข่แตกแล้ว
นำห่างถึงสี่ลูก อาร์เซนอล เล่นแบบย่ามใจไปนิด อัล์คมาร์ สวนกลับนำสู่การได้ประตูตีไข่แตก เฌเรมอง เลนส์ ตัวสำรองอาศัยความสดวิ่งทะลุจากกลางสนามกระชากไปยิงทางขวาเข้าเสาแรก แต่ทำได้แค่นั้น สุดท้าย อาร์เซนอลถล่ม 4-1



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล: มานูเอล อัลมูเนีย 6,เอมานูเอล เอบูเอ้ 6,วิลเลี่ยม กัลล่าส์ 7,แฟร์มาเล่น 7,คีแรน กิ๊บบ์ส 7,ซามีร์ นาสรี่ 8,เชสก์ ฟาเบรกัส 8(แอร่อน แรมซี่ย์ 6 น.67),อเล็กซานเดอร์ ซง 6,อาบู ดิยาบี้ 7,อังเดร อาร์ชาวิน *8.5(โทมัส โรซิคกี้ 5 น.75),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 7(เอดูอาร์โด 7 น.67)

อัล์คมาร์: เซร์คิโอ โรเมโร่ 5,คิว ยาเลี่ยนส์ 6,นิคลาส มอยซานเดร์ 5,เอคเตอร์ โมเรโน่ 5,ไซม่อน โพลเซ่น 5(ปากอญโนลี่ 6 น.64),โมอัสซ่า เดมเบเล่ 6(เลนส์ 7 น.58),ดาวิด ดา ซิลวา 6(เวิร์นบลูม 6 น.71),สไตจ์น ชาร์ส 5,มาร์เท่น มาร์เท่นส์ 7,เบร็ตต์ โฮลมัน 6,กราเซียโน่ เปลเล่ 7

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โรบินนำทัพปืนเปิดบ้านฟัดอัลค์มาร์




อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ "ไอ้ปืนใหญ่" เตรียมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ ลงดวลกับ อาแซด อัลค์มาร์ โดยวาง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยืนคู่ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา



ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

กลุ่มเอช

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) - อาแซด อัลค์มาร์ (ฮอลแลนด์)

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส จะนำทีมผ่านเข้ารอบต่อไปทันที หากเอาชนะ อาแซด ได้ในเกมนี้ และ สต็องดาร์ ลีแอช ไม่ชนะ โอลิมเปียกอส อีกคู่

สภาพทีมต้องขาด นิคลาส เบนท์เนอร์ ที่เจ็บโคนขาหนีบ พักร่วม 1 เดือน แต่ในราย ซามีร์ นาสรี่ พร้อมกลับมาลงเล่นแล้ว หลังขาหักพักไปหลายเดือน ขณะที่ โทมัส โรซิชกี้ ยังต้องเช็กร่างกายอีกครั้ง หลังยังมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยอยู่

ในราย โยฮัน ฌูรู, เดนิลสัน, ธีโอ วัลค็อตต์, ลูคัส ฟาเบียนสกี้, คาร์ลอส เวล่า และ แจ็ค วิลเชียร์ บาดเจ็บทั้งหมด

ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย เฝ้าเสา แผงหลังใช้ บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี อาบู ดิยาบี้, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน คู่หน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยืนคู่ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

ด้าน โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ อาแซด ต้องห้ามแพ้เกมนี้ หากยังหวังลุ้นเข้ารอบ แต่พวกเขาต้องขาดกองหน้าตัวเก่ง มูเนียร์ เอล ฮัมดาอุย ที่เจ็บกล้ามเนื้อขาซ้ายฉีก ต้องพัก 4 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม สภาพทีมที่เหลือค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว หลังบุกชนะ โกรนิงเก้น 1-0 ในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากประตูชัยของ เจเรเมน เลนส์ ในช่วงท้ายเกม

ระบบการเล่น 4-4-2 เซร์คิโอ โรเมโร่ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ กิลล์ สเวิร์ตส์, นิคลาส มอยซานเดอร์, เอ็คตอร์ โมเรโน่, ไซม่อน โพลเซ่น แดนกลางมี เบร็ตต์ โฮลมัน, ดาวิด เมนเดส ดา ซิลวา, สไตจ์น ชาร์ส, มาร์เท่น มาร์เท่นส์ คู่หน้า มุสซ่า เดมเบเล่ ยืนคู่ เจเรเมน เลนส์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ - อาบู ดิยาบี้, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
อาแซด อัลค์มาร์ : เซร์คิโอ โรเมโร่ - กิลล์ สเวิร์ตส์, นิคลาส มอยซานเดอร์, เอ็คตอร์ โมเรโน่, ไซม่อน โพลเซ่น - เบร็ตต์ โฮลมัน, ดาวิด เมนเดส ดา ซิลวา, สไตจ์น ชาร์ส, มาร์เท่น มาร์เท่นส์ - มุสซ่า เดมเบเล่, เจเรเมน เลนส์

ผู้ตัดสิน : อแล็ง อาเมอร์ (ลักเซมเบิร์ก)

เชสหวังทีมกลับมายิงประตูถล่มทลายอีกครั้ง




เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมอาร์เซน่อล หวังว่าเพื่อนร่วมทีมจะเรียนรู้จากเกมที่พลาดท่าถูกตีเสมอช่วงท้ายเกม กลับมาซัดประตูได้เป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง ในเกมรับการมาเยือนของ อาแซด อัล์คมาร์ ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม วันพุธนี้ พร้อมกับการันตีการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย




เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม อาร์เซน่อล สโมสรชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หวังว่า เกมเปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ อาแซด อัล์คมาร์ แชมป์ลีกฮอลแลนด์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดที่ 4 วันพุธที่ 4 พ.ย.นี้ ทีมจะใช้สัญชาตญาณการถล่มประตูที่ดุดันได้อีกครั้ง

ทัพ "ปืนใหญ่" พลาดท่าโดน อาแซด ยิงประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วงท้ายเกม ในเกมที่ ฮอลแลนด์ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มาถูก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยิงคืนถึง 2 ลูก ทั้งๆ ที่นำไปก่อน 2-0 จนทำได้แค่แบ่งแต้มกันไปในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 25 ต.ค.

กัปตันทีม อาร์เซน่อล หวังว่า ทีมจะเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น และรักษาตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม เอช ไว้ให้ได้ โดยกล่าวว่า "เราต้องเรียนรู้จากเกมเหล่านั้น เราต้องทำให้ดีขึ้น แน่นอนว่าเราหวังจะยิงให้ได้ 4-5 ประตูในทุกๆ เกม แต่เราต้องตระหนักว่า นั่นไม่ใช่วิถีของฟุตบอลในการเอาชนะให้ได้ในบางครั้ง คุณต้องไม่ทำผิดพลาด และทุ่มเทเพื่อครอบครองบอลให้ดีกว่านี้"

"แต่มันยากมากที่คุณจะได้ผลการแข่งที่ต้องการเวลาเล่นเกมเยือนใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เราจึงไม่ควรจะผิดหวังมากเกินไปในเกมที่เสมอ อาแซด มองแง่ดีคือเรายังคงยิงประตูได้ และนั่นเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในเกมฟุตบอล นั่นช่วยบอกอะไรเราได้มาก แต่ในวันที่เรายิงประตูน้อย เราจำเป็นต้องปิดเกมด้วยวิธีอื่น คือส่งบอลให้มากขึ้น และรักษาการครอบครองบอลเอาไว้"

พลพรรค "เดอะ กันเนอร์ส" ไม่แพ้ใครมา 11 นัดติดต่อกันแล้ว และหากทำผลงานในการเจอ อาแซด วันพุธนี้ ได้เหมือนกับเกมที่เปิดรังถล่ม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พวกเขาก็น่าจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นฤดูกาลที่ 10 ติดต่อกัน ได้อย่างไม่ยากเย็น

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แสดงความเห็นว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ คือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงเลือดดัตช์ ต้องรักษาฟอร์มสุดยอดเอาไว้ โดยชี้ว่า "เขาเป็นนักเตะที่มีความสำคัญมาก ยิ่งเมื่อเป็นรูปแบบเกมที่เราเล่น เพราะเมื่อคุณส่งบอลไปที่เท้าเขา การจับบอลจังหวะแรกของเขามันสมบูรณ์แบบ และทำให้คนอื่นเล่นง่ายขึ้น มันช่วยให้ทุกคนอันตราย ในกรอบเขตโทษ เขาฉลาดและมีไหวพริบเป็นเลิศ"

กุนซือเฟร้นช์แมน ยังกล่าวถึง โทมัส โรซิชกี้ เพลเมกเกอร์ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ที่พักแข้งไปร่วม 18 เดือน และเพิ่งกลับมาลงสนามได้เมื่อเดือน ก.ย. แต่ก็กลับไปมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอีกแล้ว ว่า "โทมัส โรซิชกี้ ก็เหมือนกับผู้เล่นอีกหลายๆ คน ที่ไม่ได้ลงสนามก่อนหน้านี้ จากผลการสแกนพบว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่เขายังคงเจ็บอยู่ เราหวังว่าเขาจะฟิตทันในวันพุธหรือวันเสาร์นี้"