ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปืนเฉาะปอมปีย์หัวแบะ 4-1




สามทีมนำเริ่มปล่อยเกาะทีมอื่นแล้วหลัง"ปืนใหญ่"อาร์เซนอลโชว์ฟอร์มโหดบุกถล่ม"บ๊วย"ปอร์ทสมัธแบบสู้กันไม่ได้ 4-1 ยังไล่บี้เชลซีเข้ามาเหลือ 4 แต้มและมีอีกเกมในมือเช่นเดิม

พรีเมียร์ลีก

วันพุธที่ 30 ธันวาคม 2552

ปอร์ทสมัธ 1-4 อาร์เซนอล

ประตู : 0-1 เอดูอาร์โด้ น.28,0-2 นาสรี่ น.42,0-3 แรมซีย์ น.69,1-3 เบลฮัดจ์ น.74,1-4 ซง น.79

ครึ่งแรก

เจ้าถิ่นเล่นแจ่ม
ปอมปีย์มาดีใช้ได้เลยทีเดียวเมื่อขึงบอลเข้าทำใส่อาร์เซนอลเกือบๆข้างเดียวอยู่นานนับ 10 นาทีโดยจังหวะเสียวคือลูกที่ผู้เล่นเจ้าถิ่นยิงไกลนอกเขตแล้วแป๊กไปเข้าทางปิกิยอนที่แล่บยิงเหน่งๆ 8 หลาแต่ดันแป๊กเข้ามืออัลมูเนียซะงั้น

จากนั้นไม่กี่วินาทีซงล้มตัวสกัดบอลตรงกลางสนามแล้วเสียหลักลุกไม่ทันทำให้เควิน ปรินซ์ บัวเต็งวิ่งกระชากเดี่ยวเข้ามาถึงเขตโทษมุมแคบก่อนตัดสินใจส่องยิงเต็มๆแต่อัลมูเนียคุมเสาแรกไว้เลยล้มตัวปัดออกหลังทันเวลา

อาร์ชาวินซัดเฉี่ยว
ทีมเยือนตอบโต้บ้างในนาที 11 จากจังหวะที่าอร์ชาวินโซโล่จากกลางสนามจี้เข้าหาสองกองหลังปอมปีย์ก่อนล็อกเข้าซ้ายแล้วยิงหน้าเขตโทษบอลถากคานออกไปแบบมีลุ้น


ดิยาบี้แปยัดติดเซฟ
อาร์เซนอลที่เริ่มจับจังหวะเล่นเป็นฝ่ายยำใส่ปอมปีย์มากขึ้นเรื่อยๆก็เกือบขึ้นนำในนาที 18 จากจังหวะที่ดูดู้ได้หลุดทะลุตตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วปาดเลียดเร็วให้ดิยาบี้วิ่งมาแปเน้นๆตรงระยะ 6 หลาแต่เบโกวิชพุ่งปัดสองมือตรงเสาแรกสุดยอด

ปืนเฮงนำ 1-0
และแล้วนาที 27 "ปืนใหญ่"ขึ้นนำแบบมีโชคเมื่อได้ฟรีคิก 22 หลากลางประตูเป็นดูดู้รับหน้ายิงบอลพุ่งไปแฉลบกาบูลเปลี่ยนทางเบียดเสาเข้าไปเลย จังหวะนี้ไฮร์ดาร์สสันที่ยืนคุมเสานึกว่าจะออกเลยเหมือนจะพยายามปล่อยออกแต่ดันหายไปซะงั้น

เบลฮัดจ์เกือบตีเสมอ
เจ้าถิ่นลุยหนักแบบคนบ้าคลั่งนาที 33 เบลฮัดจ์ลากจี้เข้ามาแล้วแนวรับ"ปืนใหญ่"เอาแต่ถอยหลังไม่ยอมเข้าเลยถูกส่องนอกเขตโทษบอลติดไซด์ผ่านมืออัลมูเนียถากเสาหวุดหวิด

เจ้าถิ่นเลอะเทอะเสียลูกสอง
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีอาร์เซนอลวันนี้ได้ลูกคมมากกว่าก็ขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะที่ซงหยอดบอลเข้าเขตโทษให้ดูดู้เอาลงแล้วฟินแนนก็ไม่ยอมเข้าเอาแต่จังก้ายืนจ้องเป็นปลากัดทำให้แข้งโครแอตมีเวลาไหลให้แรมซีย์ที่ปาดเร็วต่อให้นาสรี่กดเลียดหักข้อบอลผ่านมือเบโกวิชเข้าไปง่ายๆ ฟินแนนแย่มาก อยุ่ในเขตอันตรายแต่ไม่ยอมเข้า ถ้าเข้าเร็วดูดู้อาจต้องพลิกหนีเข้ามุมแคบแน่นอน

ครึ่งหลัง

ปอมปีย์ลุยทันที
เริ่มมาอาร์เซนอลเล่นง่ายกว่าเดิมเยอะแต่นาที 53 เกือบโดนตีไข่แตกเมื่อฟินแนนเปิดบอลครอสจากปีกขวาเป็นบัวเต็งตีลังกายิงในเขตโทษว่าวบอลมาตกที่เบลฮัดจ์วิ่งมายิงมุมแคบด้วยอีซ้ายบอลผ่านหน้าประตูออกเสาไกลไปเอง

เกมไม่มันแล้ว
เกมไม่สนุกเท่าครึ่งแรกเพราะปอมปีย์แม้จะพยายามเล่นเร็วเพื่อทวงประตูคืนแต่ประสิทธิภาพไม่เฉียบขาดส่วน"ปืนใหญ่"ก็ประครองตัวมีจังหวะก็ใส่ไม่มีก็ติ๊ดชึ่งทำให้โอกาสเสียวยังไม่ค่อยมีอะไรเลย

แรมซีย์เทพ 3-0
ด่าหน่อยไม่ได้นาที 69 อาร์เซนอลมาได้ลูกสามจากลูกเตะมุมที่ปอมมปีย์ตัดได้แล้วจะสวนแต่บอร์เร่ตัวสำรองดันไปกระชากหนีแรมซีย์ที่เก๋าเหลือเชื่อวิ่งดักทางตัดบอลแล้วกระชากมาถึงหน้ากรอบล็อกหนีปิกิยอนแล้วตะบันเต็มๆด้วยอีซ้ายบอลพุ่งทะลุมือเบโกวิชสุดงาม

ปอมปีย์ไข่แตกแล้ว
เกมชักสนุกแล้วเพราะอีก 5 นาทีต่อมาปอมปีย์ตีเสมอได้จากจังหวะที่คานูตัวสำรองได้บอลตรงหน้าเขตโทษแล้วป้ายให้เบลฮัดจ์แทงทะลุออกริมกรอบโทษถึงเส้นหลังให้แวนเดน บอร์เร่ตบบอลย้อนเข้ากลางให้เบลฮัดจ์แปด้วยอีซ้ายแสกหน้าอัลมูเนียเข้าไปเลย

ปืนเช็กบิล 4-1
ก่อนหมดเวลา 9 นาทีแนวรับปอมปีย์โชว์ห่วยให้เห็นอย่างแท้จริงเมื่อนาสรี่บรรจงหยอดบอลจากริมกรอบโทษให้ซงที่อยู่คนเดียวท่ามกลางหมู่เฮาเสื้อสีน้ำเงิน 4 คนแต่ไม่มีใครตามประกบเลยกระโดดโขกเน้นๆ 7 หลาบอลเบียดเสาผ่านมือเบโกวิชเข้าไปง่ายๆ

หมดเวลาอาร์เซนอลปิดท้ายปี 2009 ด้วย 3 แต้มสำคัญและเป็นชัยชนะนัดที่ 5 จาก 6 นัดหลังไล่ล่าเชลซีต่อไป


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ปอร์ทสมัธ : อาเมียร์ เบโกวิช,สตีฟ ฟินแนน,ยูเนส คาบูล,ทัล เบน ฮาอิม,เฮอร์มาน ไฮร์ดาร์สสัน,ฮัสซาน เย็บด้า,อารอม โมโคเอน่า(บอร์เร่ ร.58),ริชาร์ด ฮิวจส์(บราว์น น.92),นาเดียร์ เบลฮัดจ์,เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง(คานู น.71),เฟรเดริค ปิกิยอน

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย,บาคารี่ ซาญ่า,วิลเลี่ยม กัลลาส์,โธมัส เฟอร์มาเลน,อาร์มานด์ ตราโอเร่,อารอน แรมซีย์,อเล็กซานเดอร์ ซง,วาสซิริกี้ ดิยาบี้,ซาเมียร์ นาสรี่(อีสต์มอนด์ น.85),เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา(โรซิคกี้ น.72),อังเดร อาร์ชาวิน

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

พอร์ทสมัธ (20) - อาร์เซน่อล (3)

สนาม : แฟร็ตตัน พาร์ค




อัฟราม แกรนท์ กุนซือ ปอมปีย์ เจอปัญหาในการจัดทัพตำแหน่งเดียวคือการติดโทษแบนของ เจมี่ โอฮาร่า กองกลางเท้าซ้าย ที่สะสมใบเหลืองครบโควต้า ขณะที่ เดวิด เจมส์ ยังเลื่อนกำหนดกลับมาเฝ้าเสา เพราะเจ็บน่อง




ข่าวดีของทีมคือการยืดเวลากลับไปรายงานตัวทีมชาติของบรรดาแข้งแอฟริกันที่ต้องไปร่วมศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2010 ทั้ง ฮัสซัน เย็บด้า (แอลจีเรีย), นาเดียร์ เบลฮัดจ์ (แอลจีเรีย), เอ็นวานโก้ คานู (ไนจีเรีย) และ อารูน่า ดินดาน (ไอวอรี่โคสต์)




ระบบการเล่น 4-5-1 อัสเมียร์ เบโกวิช ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน สตีฟ ฟินแนน, ยูเนส กาบุล, ทาล เบน-ฮาอิม, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน แดนกลางมี เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง, ไมเคิ่ล บราวน์, ฮัสซัน เย็บด้า, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, นาเดียร์ เบลฮัดจ์ หน้าเป้าใช้ อารูน่า ดินดาน




ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส เจอปัญหาซ้ำจากเกมที่ถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ เมื่อ เชส ฟาเบรกาส ตัวสำรองฮีโร่ที่ซัลโวสองประตูในเกมนั้น ดันเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าซ้ำ จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก และต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเกมนี้ แต่คาดว่าไม่น่าจะเสี่ยงใช้งาน




เดนิลสัน (หลัง) ยังมีปัญหาเรื่องสภาพความฟิต แต่ก็จะได้ โทมัส โรซิชกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า) หายเจ็บกลับมาแล้ว ส่วนในรายแข้งแอฟริกัน อเล็กซ์ ซง จะกลับไปรายงานตัวทีมชาติแคเมอรูน วันที่ 4 มกราคม แต่ในราย เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ กลับไปรายงานตัวกับ ไอวอรี่โคสต์ แล้ว




ตัวเจ็บยังหน้าเดิมทั้ง นิคลาส เบนท์เนอร์ (โคนขาหนีบ), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ข้อเท้า), กาแอล กลิชี่ (หลัง), คีแรน กิ๊บบ์ส (เท้า) และ โยฮัน ฌูรู (เข่า)



ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิกาแอล ซิลแวสต์ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, อาบู ดิยาบี้, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


พอร์ทสมัธ : อัสเมียร์ เบโกวิช - สตีฟ ฟินแนน, ยูเนส กาบุล, ทาล เบน-ฮาอิม, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน - เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง, ไมเคิ่ล บราวน์, ฮัสซัน เย็บด้า, ปาป้า บูบ้า ดิย็อป, นาเดียร์ เบลฮัดจ์ - อารูน่า ดินดาน




อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิกาแอล ซิลแวสต์ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, อาบู ดิยาบี้, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา



ปืนโตข่มไม่แพ้ปอมปีย์ตั้งแต่ปี 1958




อาร์เซน่อล มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการพบกับ พอร์ทสมัธ เพราะ 20 นัดที่ผ่านมา ปืนใหญ่ ไม่มีแพ้ ปอมปีย์ โดยสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 12 นัด และเสมอ 8 นัด ซึ่ง 17 นัดในนั้นเป็นการพบกันในลีก




เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล เปิดบ้านเอาชนะ 1-0 จากประตูโทนของ วิลเลี่ยม กัลลาส ในช่วงท้ายเกม ส่วนอีกนัดที่ แฟร็ตตัน พาร์ค ปืนใหญ่ ก็บุกถล่ม 3-0 นิคลาส เบนท์เนอร์ ยิงสองประตู อีกลูกได้จาก คาร์ลอส เวล่า ขณะที่เกมแรกในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล ถล่ม 4-1 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาบู ดิยาบี้ ยิงสองประตู ที่เหลือได้จาก วิลเลี่ยม กัลลาส และ อารอน แรมซี่ย์




ครั้งสุดท้ายที่ พอร์ทสมัธ เอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ ต้องย้อนกลับไปในปี 1958 เกมนั้น ปอมปีย์ เฉือนชนะ 5-4 ในศึกดิวิชั่น 1 เดิม หรือลีกสูงสุด


เวนเกอร์เชื่อโอกาสคว้าแชมป์ยังเปิดกว้าง




อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เชื่อมั่นว่าหากลูกทีมรักษามาตรฐาน และฟอร์มการเล่นอย่างคงเส้นคงวาไปจนกระทั่งเดือนมีนาคม พวกเขามีโอกาสที่จะครองแชมป์ลีกสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 2004




"ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เราอยู่ในอันดับที่แข็งแกร่ง เรามีความเชื่อมั่น แต่หนทางมันยังอีกยาวไกล และเราต้องไม่ประมาท รวมทั้งมีการพัฒนาฟอร์มการเล่นร่วมกันอย่างต่อไป"




ขณะเดียวกัน อดีตโค้ชโมนาโก ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจกับฟอร์มสะดุดของ เชลซี ในช่วงเวลานี้ และเชื่อว่าหากพวกเขาเล่นได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนมี.ค. ก็มีสิทธิ์คว้าแชมป์ลีกได้ "ใช่ ผมแปลกใจ ผมสามารถพูดได้ว่าเราจะชนะทุกเกม แต่คุณไม่สามารถคาดเดาได้ว่าคู่แข่งของเราจะทำแต้มหลุดมือกี่แต้ม"




"หลังจากเกมของ เชลซี ผมพูดได้เลยว่าโอกาสมันเปิดแล้ว เมื่อพวกเขาทำแต้มหลุดมือ นั่นเป็นสิ่งที่ผมเห็น และพวกเขาทำไปแล้ว แต่พวกเขาจะทำแต้มหลุดมือกี่แต้มผมไม่รู้ ผมก็แค่คิดว่าตอนนี้โอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมันเปิดกว้างมาก เราต้องไปเยือน พอร์ทสมัธ วันพุธนี้ และคุณรู้ว่ามันคงเป็นเกมที่ยาลำบาก"




"สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงลีกในฤดูกาลนี้ ก็คือทุกทีมได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ คุณเห็น เบอร์มิงแฮม เล่นกับ เชลซี แล้ว (เสมอ 0-0) มันก็เหมือนกันที่อื่นๆ มันไม่ใช่แค่คุณไปเยือน ลงสนาม และคว้า 3 แต้ม เมื่อผ่านไปจนถึงเดือนมีนาคม หลังจากนั้นคงมีบางทีมที่ปลอดภัย หรือไม่ได้ไปเล่นในฟุตบอลถ้วยยุโรป และคุณก็สามารถคว้าแต้มได้สบายๆ แต่ตั้งแต่ตอนนี้จะกระทั่งมีนาคมทีมต้องมีความคงเส้นคงวาถึงจะคว้าแชมป์ลีกได้"

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาร์เซน่อล 3 - 0 แอสตัน วิลล่า




ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ


วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2552


อาร์เซน่อล 3 - 0 แอสตัน วิลล่า

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม



เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง อาร์เซน่อล เปิดบ้านพบกับ แอสตัน วิลล่า เกมนี้เจ้าบ้านไม่มี เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ยังมีชื่อเป็นตัวสำรอง แต่จะได้ อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ แบ็กซ้ายหายเจ็บเอ็นหลังหัว

เข่ากลับมา


ด้าน มาร์ติน โอนีล ผู้จัดการทีมแอสตัน วิลล่า มีสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อมทีเดียวสำหรับการมาเยือนโดยนักเตะตัวหลักต่างมีชื่อในเกมนี้ทั้งหมด รวมไปถึง เอมิล เฮสกี้ กองหน้าร่างโย่งที่หายเจ็บทันเกมนี้พอดี

เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาทีเจ้าบ้านเกือบได้เฮก่อน เมื่อ อาบู เอบูเอ้ ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลต่อให้ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา พลิกตัวยิงได้ซ้ายระยะราว 10 หลา แต่ว่าบอลเบาและตรงตัว แบร็ด ฟรีเดล รับบอลได้ไม่ยาก

แต่อีกสี่นาทีต่อมาทีมเยือนได้ตอบโต้บ้าง เมื่อ เฮสกี้ กระโดดโหม่งบอลในกรอบเขตโทษส่งต่อให้เพื่อนร่วมก่อนจะรับบอลกลับมาตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายบริเวณกรอบเขตโทษบอลพุ่งออกหลังไป

นาทีที่ 13 ยังเป็นโอกาสของทีมเยือนอีกครั้งเมื่อ แอชลี่ย์ ยัง เก็บบอลในกรอบเขตโทษก่อนตวัดยิงด้วยขวาเต็มแรง แต่บอลแฉลบกองหลังข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

ผ่านมา 7 นาทีเป็นแฟนทีมเยือนที่ได้เฮอีก เมื่อ ริชาร์ด ดันน์ เติมเกมขึ้นมาโหม่งลูกฟรีคิก และ เจมส์ มิลเนอร์ เล่นสั้นก่อนตวัดเข้าให้ ดันน์ ขึ้นโหม่งปะทะกับ อัลมูเนีย ก่อนเก็บตกซัดบอลตุงตาข่ายแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูฟาวล์เสียก่อน

หลังผ่านนาทีที่ 25 เจ้าบ้านเริ่มครองเกมได้มากกว่าอย่าชัดเจน ได้มาได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 29 เมื่อ ซามีร์ นาสรี่ ได้เติมเกมขึ้นมาซัดด้วยขวาแต่บอลแรงตกหลังคานอย่างน่าเสียดาย

น. 32 ปืนโต ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่ เดนิลสัน โนทำฟาวล์ระยะ 19 หลาหน้าปากประตู เดนิลสัน ลุกมายิงติดกำแพง กระดอนมาเข้าทาง ซาญ่า ยิงติดบล็อกออกมาอีก

ช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านมาได้ลุ้นประตูจากการเตะมุม โดย เอดูอาร์โด้ รับหน้าที่เปิดเข้าไป แต่ว่ากองหลังของ แอสตัน วิลล่า ช่วยกันเคลียร์ออกมาได้ทำหจบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมต่างผลัดกันเปิดเกมรุกอย่างสนุกแต่ว่ายังเป็นการเล่นในแดนกลางเท่านั้นยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้

นาทีที่ 55 อาร์เซน่อล เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อได้ฟาวล์จากระยะ 30 หลา เปิดบอลไปเสาไกลกำลังจะเสียบเสาอยู่แล้วแต่ว่า ฟรีเดล พุ่งปัดออกมาได้

ถัดมาอีกนาทีเดียวเจ้าบ้านได้ลูกเตะมุมทางด้านขวา เอดูอาร์โด้ เติมขึ้นมาโหม่งไม่เต็มศรีษะ แต่ยังมี วิลเลี่ยม กัลลาส ตามเข้าซ้ำอีกจังหวะยังดีที่ แบร็ด ฟรีเดล ยังตามมาบล็อกได้ทันอีก

น. 60 เจ้าถิ่นยังได้ลุ้นมากกว่า เมื่อ อาร์ชาวิน ได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งจะเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่ ฟรีเดล ยังปฏิกิริยาดีพุ่งปัดออกไปได้อีก

ต่อมาอีก 4 นาที อาร์เซน่อล ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 22 หลาเมื่อ ฟาเบรกาส ที่ถูกเปลี่ยนลงมา โดน ดันน์ ทำฟาวล์ ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นมายิงเองด้วยความเฉียบคม เมื่อบอลพุ่งเสียสามเหลี่ยมเสาแรกอย่างสวยงามให้ อาร์เซน่อล ออกนำไปก่อน 1-0

หลังจากได้ประตูขึ้นนำ อาร์เซน่อล เริ่มครองเกมได้มากกว่าอย่างชัดเจนและมีโอกาสทำประตูเพิ่มหลายครั้งแต่ว่าเกมรับทีมเยือนยังช่วยป้องกันเอาไว้ได้

จนนาทีที่ 79 วิลล่า ได้ลุ้นจากฟรีคิกทางกราบขวา ดาวนิ่ง รับหน้าที่เปิดบอลพุ่งเร็วเข้ากลางประตูแต่ว่า อัลมูเนีย ปัดออกมาได้อีก

ในนาที 81 เกมโต้กลับของ อาร์เซน่อล มาสำแดงเดชจนได้เมื่อ ตราโอเร่ ตัดบอลได้จากกองหลังก่อนเปิดยาวให้ วัลค็อตต์ ทางกราบขวาจ่ายเข้ากลางให้ ฟาเบรกาส เจ้าเดิมวิ่งเข้าแปบอลผ่านตัว ฟรีเดล เข้าเสียบเสาแรกอย่างสวยงามให้เจ้าถิ่นทิ้งห่าง 2-0

แต่หลังจากยิงประตูที่สอง ฟาเบรกาส ที่ลงมาเป็นตัวสำรองมีอาการบาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกไป โดยให้ อารอน แรมซี่ กองกลางดาวรุ่งลงมาเล่นแทน

นาทีที่ 90 อาบู ดิยาบี้ กองกลางตัวเก่งของ อาร์เซน่อล โชว์ทักษะอันยอดเยี่ยมด้วยการเลี้ยงจากกลางสนามก่อนตวัดยิงด้วยขวาบอลเสียบเสาสองอย่างสวยงามให้ ปืนไหญ่ ทิ้งขาด 3-0

ช่วงเวลาที่เหลือแม้ว่า วิลล่า จะพยายามเปิดเกมเข้าใส่แต่ว่ายังขาดความเฉียบคมทำให้จบเกม อาร์เซน่อล เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไปแบบไม่ยากนัก 3-0 พร้อมกับขึ้นเป็นอันดับสองของตารางลีกทิ้ง แมนฯ ยูไนเต็ด 1 แต้มและมีเกมแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัดอีกด้วย



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซาญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กมองด์ ตราโอเร่ - อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, ซามีร์ นาสรี่, อาบู ดิอาบี้ - เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, อังเดร อาร์ชาวิน

แอสตัน วิลล่า : แบร็ด ฟรีเดล - ลุค ยัง, ริชาร์ด ดันน์, คาร์ลอส กูเอย่าร์, สตีเฟ่น วอร์น็อค - แอชลี่ย์ ยัง, สติลิยัน เปตรอฟ, เจมส์ มิลเนอร์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์, เอมิล เฮสกี้

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาร์เซน่อล (3) - แอสตัน วิลล่า (4)




อาร์เซน่อล (3) - แอสตัน วิลล่า (4)




อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล มีลุ้นได้ เชส ฟาเบรกาส จอมทัพทีมชาติสเปน ฟิตกลับคืนสนาม หลังบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจนพลาดเกมที่เอาชนะ ฮัลล์ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา




แนวรับก็มีลุ้นได้ อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ แบ็กซ้ายหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาเช่นกัน ขณะที่ บาการี่ ซานย่า แบ็กขวาน่าจะกลับมายึดตัวจริงคืนได้ อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ จะยังหมดสิทธิ์ใช้งานทั้ง กาแอล กลิชี่ (หลัง), คีแรน กิ๊บบ์ส (ข้อเท้า), โทมัส โรซิชกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า), โยฮัน ฌูรู (เข่า) และ นิคลาส เบนท์เนอร์ (โคนขาหนีบ)




ในราย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าคนสำคัญ อาจต้องพักยาวถึงเดือนพฤษภาคม หรือจนจบฤดูกาล จากการเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้า ซึ่งต้องลุ้นว่าจะฟิตทันศึกฟุตบอลโลก 2010 หรือไม่




ระบบการเล่น 4-5-1 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิกาแอล ซิลแวสต์ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, อาบู ดิยาบี้, ซามีร์ นาสรี่ หน้าเป้าใช้ อังเดร อาร์ชาวิน




ด้าน มาร์ติน โอนีล ผู้จัดการทีม แอสตัน วิลล่า มีสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อมทีเดียวสำหรับการบุกไปเยือน อาร์เซน่อล ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยต้องลุ้นเพียงแค่ เอมิล เฮสกี้ กองหน้าตัวเป้า คนเดียวที่ต้องรอทดสอบความฟิต แต่หากไม่พร้อม ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะ ยอห์น คาริว พร้อมทวงตำแหน่งตัวจริงคืนอยู่แล้ว




เฮสกี้ ได้รับบาดเจ็บโคนขาหนีบมาจากเกมที่เฉือนชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้หัวหอกทีมชาติอังกฤษต้องลุ้นหนักว่าจะฟิตทันช่วงบ็อกซิ่งเดย์หรือไม่ เพราะทีมมีโปรแกรมหนักต้องออกไปเยือน อาร์เซน่อล ก่อนกลับมาเปิดบ้านต้อนรับ ลิเวอร์พูล ในอีก 2 วันถัดมา




อย่างไรก็ตาม คาริว ตัวสำรองของ เฮสกี้ ในนัดที่แล้ว ก็สวมบทฮีโร่ ยิงประตูชัยในเกมกับ สโต๊ค ทำให้ทีมคว้าชัยชนะ 4 นัดรวดในพรีเมียร์ลีก




ระบบการเล่น 4-4-2 แบร๊ด ฟรีเดล ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน ลุค ยัง, ริชาร์ด ดันน์, การ์ลอส เกยาร์, สตีเฟ่น วอร์น็อค แดนกลางมี แอชลี่ย์ ยัง, สติลิยัน เปตรอฟ, เจมส์ มิลเนอร์, สจ็วร์ต ดาวนิ่ง คู่หน้า กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ยืนคู่ ยอห์น คาริว


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิกาแอล ซิลแวสต์ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, อาบู ดิยาบี้, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน




แอสตัน วิลล่า : แบร๊ด ฟรีเดล - ลุค ยัง, ริชาร์ด ดันน์, การ์ลอส เกยาร์, สตีเฟ่น วอร์น็อค - แอชลี่ย์ ยัง, สติลิยัน เปตรอฟ, เจมส์ มิลเนอร์, สจ็วร์ต ดาวนิ่ง - กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, ยอห์น คาริว




ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์


สามนัดหลังวิลล่าไม่มีแพ้ปืน




สถิติการพบกันของ อาร์เซน่อล กับ แอสตัน วิลล่า ปรากฏว่า สิงห์ผงาด ไม่แพ้ให้ ปืนใหญ่ ใน 3 นัดหลังสุดที่พบกัน ซึ่งเป็นชัยชนะ 1 นัดและเสมอ 2 นัด




อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของ แอสตัน วิลล่า 2-0 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็เป็นชัยชนะเพียงนัดเดียวจาก 21 นัดหลังสุดในลีกที่พบกับ อาร์เซน่อล ที่เหลือ เสมอกัน 7 นัด และ ปืนใหญ่ ชนะ 13 นัด




นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังมีผลงานที่ดีในการเล่นเกมช่วงคริสต์มาส เพราะพวกเขาชนะ 7 จาก 9 ครั้งหลังสุด และไม่แพ้ทีมใดนับตั้งแต่ปี 1999 ที่แพ้ โคเวนทรี 2-3

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปืนเด็ดขาดตบฮัลล์เละคาบ้าน 3-0





อาร์เซนอลไม่ยอมปล่อยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพลาดฟรีๆหลังเปิดบ้านไล่ถล่มฮัลล์ ซิตี้สบายๆ 3-0 ทวงอันดับ 3 กลับคืนพร้อมไล่จี้เด็กเฟอร์กี้เข้ามาเหลือ 2 แต้มแต่เตะน้อยกว่าหนึ่งนัด

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2552

อาร์เซนอล 3 – 0 ฮัลล์ ซิตี้

ประตู : 1-0 เดนิลสัน น.45, 2-0 เอดูอาร์โด้ น.59, 3-0 วาสซิริกี้ ดิยาบี้ น.80

เหี่ยวปรับทัพส่งดูดู้หน้าเป้า – อาร์ชาวินทำเกมส์ทางซ้าย
อาร์แซน เวนเกอร์ปรับแนวรุกโดยการให้เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวาออกสตาร์ทตัวจริงทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้าแทนอาร์ชาวิน ที่รับบทจำเป็นมาหลายนัด ก่อนโยกแข้งรัสเซียไปทำเกมส์ทางฝั่งซ้าย ส่วนทีมเยือนวันนี้อัดแผงกองกลางมาต่อกรกับอาร์เซนอลถึง 5 คน

ครึ่งแรก

เกมส์ยังเฉื่อย – ฟาแกนได้ซัดก่อนหลุดกรอบ
เกมส์ช่วงต้นยังไม่มีอะไรมากนักเป็นทั้งสองทีม ที่ชิงไหวชิงพริบกันก่อนนาทีที่ 4 ทีมเยือนจะได้ลุ้นโอกาสทำประตูโดยเป็นจอร์จ บัวเต็งผ่านบอลให้กับเคร็ก ฟาแกนบริเวณนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงบดบอลปลิ้นออกหลังไป และนาทีถัดมาฮัลล์ได้ฟรีคิก ก่อนจะเปิดเข้ามาแต่บอลเข้าซองของอัลมูเนียรับไว้ได้สบายๆ
ปืนเริ่มนวด – พี่บี้ลองปั่นบอลแฉลบ
ผ่านมา 10 กว่านาทีเป็นทางเจ้าบ้านที่ต่อบอลตามสไตล์ ก่อนจะได้ลองโอกาสครั้งแรกเป็นดิยาบี้ได้ลองปั่นโป้งบริเวณกรอบเขตโทษแต่บอลแฉลบผู้เล่นฮัลล์ ซิตี้ออกเป็นลูกเตะมุม นาทีที่ 14 อาร์เซนอลทำชิ่งกันสวยงามและเป็นนาสรี่ที่แต่งบอลจากดูดู้ ก่อนจิ้มเร็วด้วยขวาแต่บอลไปตรงตัวเมฮิลล์เซฟไว้ได้

ปืนเกือบเฮ – ดูดู้ปั่นด้วยซ้ายบอลหลุดเสานิดเดียว
นาทีที่ 23 แฟนบอลอาร์เซนอลเกือบได้เฮอีกครั้ง โดยบอลเริ่มจากนาสรี่ที่พามาทางขวาก่อนจ่ายไปมากับเอบูเอ้ และเป็นเทพเอ้ที่ตาไวแปยัดบอลไปให้ดูดู้ในกรอบเขตโทษ ก่อนหัวหอกโครเอเชียจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว
เกมส์ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อาร์เซนอลมีโอกาสอีกครั้ง คราวนี้เป็นอังเดร อาร์ชาวินรับบอลมาจากเฟอร์มาเล่น ก่อนลองยิงไกลด้วยซ้ายแต่บอลลอยหลุดกรอบไปเยอะ

ปืนกระหน่ำหวังนำก่อนพักครึ่ง
มาถึงตอนนี้อาร์เซนอลพยายามรุกเข้าใส่ฮัลล์ เต็มที่โดยนาทีที่ 41 อาร์ชาวินพาบอลไปสุดเส้นหลังก่อนเปิดเข้ากลางและเป็นซง ที่ลอยตัวมาแต่ไกลขึ้นโขกแต่บอลติดกองหลัง กลายเป็นลูกเตะมุมเท่านั้น
นาทีที่ 42 เกือบมีมวยหมู่เป็นนาสรี่ที่เล่นนอกเกมส์ใส่ผู้เล่นฮัลล์ลงไปกอง และฮันท์เห็นเหตุการณ์พอดิบพอดีจะเอาเรื่องแข้งฝรั่งเศสให้ได้ จากนั้นเพื่อนร่วมทีมพากันมาห้ามทัพและตีเนียนยกใหญ่ก่อนที่ผู้ตัดสินจะแจกใบเหลืองเป็นของสมน้ำหน้าคุณให้นาสรี่และฮันท์คนละใบ

บอกผมทีว่าตาฝาด!เดนิลสันส่องฟรีคิกไกลสุดสวย
นึกว่าตัวเองตาฝาดจากอาการง่วงนอน โดยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 อาร์เซนอลออกนำจนได้ จากฟรีคิกระยะไกลของเดนิลสัน ที่บรรจงปั่นบอลข้ามหัวกำแพงก่อนที่บอลจะตกลงเสียบเสาประตูอย่างสวยงาม หมดปัญญาเมฮิลล์จะรับได้ บร๊ะเจ้าสันนายยอดมาก!

ครึ่งหลัง

ดูดู้โชว์เทพแต่ยิงไม่ดี
นาทีที่ 47 อาร์เซนอลน่าได้ประตูหนีห่างสุดๆ โดยเป็นเอดูอาร์โด้ ดา ซิลวารับบอลจากอาร์ชาวินก่อนหมุนตัวคลึงบอลสุดเทพ หลอกกองหลังฮัลล์หัวทิ่ม แต่จังหวะจบสกอร์ดันยิงไม่ดีบอลหลุดออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

ฮัลล์ได้จุดโทษ!! อัลมูเนียหล่อเซฟจุดโทษจิโอวานนี่
นาทีที่ 55 ฮัลล์ ซิตี้ได้จุดโทษน่าตาเฉย โดยเป็นมิคาเอล ซิลแวสตร์นัวเนียอยู่กับฟาแกน ก่อนกรรมการเป่าเป็นจุดโทษโดยให้เหตุผลว่าซิลแวสตร์ดึง แต่อนิจจา เป็นอัลมูเนียที่ช่วยชีวิตปืนไม่ให้เสียประตูตีเสมอโดยเซฟการยิงของจิโอวานนี่ไว้ได้อย่างสวยงาม

เท้าต่อเท้า! ดูดู้สังหารปืนนำห่าง 2-0
เกมส์มาถึงนาทีที่ 59 อาร์เซนอลได้ประตูนำห่างฮัลล์ ซิตี้โดยเป็นการเข้าทำฉบับอาร์เซนอลแท้ๆ ดิยาบี้พาบอลก่อนทำชิ่ง 1-2 กับอาร์ชาวินหลุดเข้าถึงเส้นหลังก่อนตบบอลกลับมาให้ดูดู้ ที่รออยู่ชาร์จบอลเข้าไปง่ายๆ ปืนนำ 2-0 แล้วจ้า

ปืนยังไม่พอใจ กระหน่ำบุกอีก
แม้ว่าจะนำห่าง 2-0 แล้วแต่อาร์เซนอลก็ยังไม่เบาเกมส์รับ นาทีที่ 70 ดิยาบี้ลากลุยเข้ากรอบเขตโทษก่อนยิงยัดเสาแรก แต่เมฮิลล์ยังตำแหน่งดีปัดออกไปได้ และนาทีที่ 72 ดูดู้รับบอลทะลุช่องก่อนลากเข้าบริเวณริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายและยิงทันที แต่บอลหลุดกรอบออกไป


บี้เดอะสตาร์! ปืนเด็ดขาดยิงฮัลล์ทิ้ง 3-0
เกมส์มาจบลงอย่างสมบูรณ์แบบในนาทีที่ 80 โดยดิยาบี้ซึ่งวันนี้เล่นได้ดี ลากตะลุยก่อนแปะบอลฝากให้อาร์ขาวินนอกกรอบเขตโทษ และเป็นแข้งรัสเซียที่แทงคิลเลอร์พาสทะลุกองหลังไปให้ดิยาบี้ คนเดิมก่อนพี่บี้จะแปรด้วยขวาบอลเสียบสามเหลี่ยมบนขวาเข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 88 โอกาสได้ประตูที่ 4 ของอาร์เซนอลมาอีก จากลูกหลุดเดี่ยวของวัลคอตต์ที่ชิพบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูแต่บอลออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมส์อาร์เซนอลเปิดบ้านเอาชนะฮัลล์ ซิตี้ 3-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โทมัส เฟอร์มาเล่น, วิลเลี่ยม กัลลาส, มิคาเอล ซิลแวสตร์, อเล็กซานเดอร์ ซง, เดนิลสัน, ซาเมียร์ นาสรี่(อารอน แรมซี่ย์), วาสซิริกี้ ดิยาบี้, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา (ธีโอ วัลคอตต์), อังเดร อาร์ชาวิน(คาร์ลอส เบล่า)

ฮัลล์ ซิตี้ : โบอัซ เมฮิลล์, พอล แมคเชน, คามิล ซายาเต้, แอนโทนี่ การ์ดเนอร์, แอนดี้ ดอว์สัน, จอร์จ บัวเต็ง, ริขาร์ด การ์เซีย(แดเนียล คูซิน), จิโอวานนี่(เบอร์นาร์ด เมนดี้), นิค บาร์มบี้(เซยี่ โอโลฟิจานย่า), สตีเฟ่น ฮันท์, เคร็ก ฟาแกน

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ซี้ด!ผีซดมิลาน,งูฟัดสิงห์16ทีมชปล.




ตามคำขอเดวิด เบ็คแฮม ว่าทีมขุนพลเอซี มิลานเมื่อต้องนำทีม"ปีศาจแดง-ดำ" รอรับมือ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด อดีตอู่ข้าวอู่น้ำในรอบ 16 ทีมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วน"แชมป์เก่า" บาร์เซโลน่า ต้องดวลกับสตุ๊ตการ์ท ขณะที่โชเซ่ มูรินโญ่ จะต้องคุมอินเตอร์ มิลาน รอเซิ้งแข้งเชลซี ทีมเก่าจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ




การจับสลากประกบคู่ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่นียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยทีมวางในรอบน็อกเอาต์นี้มาจากการเป็นแชมป์กลุ่ม ประกอบด้วย บอร์กโดซ์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, เชลซี, ฟิออเรนติน่า, บาร์เซโลน่า, เซบีย่า และ อาร์เซน่อล


ขณะที่ทีมรองแชมป์กลุ่ม ที่ไม่ได้เป็นทีมวาง และจะถูกจับไปประกบคู่กับทีมแชมป์กลุ่มข้างต้น ประกอบด้วย บาเยิร์น มิวนิค, ซีเอสเคเอ มอสโก, เอซี มิลาน, เอฟซี ปอร์โต้, โอลิมปิก ลียง, อินเตอร์ มิลาน, สตุ๊ตการ์ท และ โอลิมเปียกอส


การประกบคู่ในรอบนี้ ทีมที่มาจากกลุ่มเดียวกัน จะหมดสิทธิ์พบกัน รวมถึงทีมจากประเทศเดียวกัน ก็จะยังไม่ได้พบกันด้วยซึ่งผลการจับสลากที่มีเอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ ผอ.กีฬา เรอัล มาดริด เป็นผู้หยิบลูกบอลจากโถปรากฏว่า"แชมป์เก่า" บาร์เซโลน่า ยอดทีมลาลีกา สเปนต้องเจอกับสตุ๊ตการ์ท ส่วน "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด "รองแชมป์เก่า" จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบเอซี มิลาน


ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย


สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน) พบ บาร์เซโลน่า (สเปน)


โอลิมเปียกอส (กรีซ) พบ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส)


อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) พบ เชลซี (อังกฤษ)


บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) พบ ฟิออเรนติน่า (อิตาลี)


ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) พบ เซบีย่า (สเปน)


โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)


เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส) พบ อาร์เซน่อล (อังกฤษ)


เอซี มิลาน (อิตาลี) พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)


หมายเหตุ : นัดแรกเตะวันที่ 16-17 และ 23-24 ก.พ.53 ส่วนนัดสองเตะวันที่ 9-10 และ 16-17 มี.ค. 53 โดยทีมที่ขึ้นก่อนจะจะเป็นเจ้าบ้านในนัดแรก สำหรับนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค.53 ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาบิว ประเทศสเปน

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เชสก์เดี้ยง!ปืนพกดวงเบิร์นลี่ย์บดบี้ 1-1




อาร์เซนอลโชคดีเหลือเกินที่ไม่แพ้นัดนี้แม้ขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ 7 นาทีแรกแต่ทว่าหลังจากนั้นโดน เบิร์นลี่ย์ เรียงหน้าใส่ไม่ยั้งยังดีได้เสากับคานช่วยไว้ก่อนเสมอสุดระทึก 1-1 แถมเซ่นสังเวย เชสก์ ฟาเบรกัส เดี้ยงอีกต่างหาก

เบิร์นลี่ย์ 1-1 อาร์เซนอล
ประตู: 0-1 เชสก์ ฟาเบรกัส น.7,1-1 เกรแฮม อเล็กซานเดอร์(จุดโทษ)น.28

ครึ่งแรก

ปืนหวิดพังโชคค้ำจุน
เปิดฉากแค่สองนาทีแรก เบิร์นลี่ย์ เกือบสร้างเซอร์ไพรส์พลิกขึ้นนำก่อน คริส อีเกิ้ลส์ โยนฟรีคิกทางซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ คาร์ไลส์ โหม่งชง แฟร์มาเล่น โขกสกัดผิดเหลี่ยมย้อยกำลังจะเข้าประตูตัวเอง อัลมูเนีย นายทวารถอยหลังปัดชนคานเต็มๆ

หลังพลาดเชสก์ลงโทษ
รูปเกมยังคู่คี่แต่นาที 7 อาร์เซนอลฉวยโอกาสได้ออกนำ 1-0 จากความผิดพลาดของเบิร์นลี่ย์ เริ่มจาก นาสรี่ มาทางซ้ายจ่ายให้ เชสก์ โดน คาร์ไลส์ ตัดได้ เชสก์ ตามบี้ไปแย่งบอลมาได้ก่อนหลุดเข้าไปซัลโวผ่านมือผู้รักษาประตูตุงตาข่าย

เชสก์ทักษะเทพ
ได้ประตูขึ้นนำหลังจากนั้นเกมของปืนไหลลื่นอีกนาทีถัดมาเกือบทิ้งห่างเป็น 2-0 จากความสามารถเฉพาะตัวของ เชสก์ กระดกข้ามกองหลังก่อนหลุดเข้าไปวอลเลย์มุมแคบถากเสานิดเดียว

อาร์ชาวินโชคร้าย
ผ่าน 15 นาทีแรก "ปืนใหญ่" น่าจะออกนำเป็น 2-0 ซิลแวสต์ โยนจากกราบขวามาถึง นาสรี่ แตะต่อให้ อาร์ชาวิน สับไกยิงเต็มข้อบอลผ่านมือผู้รักษาประตูไปแล้วชนโคนเสา

แฟร์มาเล่นโฉ่งฉ่างเบิร์นลี่ย์เฮเจ๊าแล้ว
เบิร์นลี่ย์เริ่มมาตั้งหลักได้หลัง 20 นาทีไปแล้วพยายามเปิดเกมบุกกดดันแผงหลังอาร์เซนอลจนได้เรื่องนาที 28 เจ้าบ้านได้เฮจากจังหวะ แฟร์มาเล่นเปิดปุ่มโถมเข้าใส่ บิเคย์ ล้มคว้ำในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษแบบไม่ลังเล อเล็กซานเดอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดสกอร์เปลี่ยนเป็น 1-1

อาร์ชาวินติดบล็อค
ถูกตีเสมอ อาร์เซนอล กลับมาเปิดเกมบุกกันใหม่และเกือบขึ้นนำอีกครั้งในนาทีถัดมา เชสก์ ลากตะลุยจี้แผงหลังก่อนไหลให้ อาร์ชาวิน หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษต้องชมผู้รักษาประตูออกมาได้เร็วมากบล็อคลูกยิงของดาวดังรัสเซียเอาไว้ได้

ปืนลางไม่ดีเชสก์เดี้ยงต้องออก
เล่นไปเล่นมานาทีสุดท้ายครึ่งแรกกองเชียร์ปืนใหญ่ต้องใจหายเสียแล้วเมื่อ เชสก์ มีอาการบาดเจ็บทำให้ เวนเกอร์ เห็นท่าไม่ดีรับประกันความเสี่ยงรีบถอดกัปตันทีมออกให้ แอร่อน แรมซี่ ลงมาเล่นแทน

แฟร์มาเล่นเกือบเฮ
ทดเจ็บ อาร์เซนอล เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง นาสรี่ เปิดบอลจากทางซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ แฟร์มาเล่น โฉบตัดหน้า คัลด์เวลล์ โขกเต็มๆแต่ทว่า เยนเซ่น นายทวารซูเปอร์เซฟลอยปัดข้ามคานฉิวเฉียดจบครึ่งแรกเสมอ 1-1

ครึ่งหลัง

กัลลาสคืนหลังพลาด
เกมกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ผ่านไปแค่ห้านาที กัลลาส พลาดเต็มๆส่งบอลคืนหลังไม่ดีโดน บิเคย์ ตัดได้แต่กลับยิงไม่ดีหลุดกรอบออกไปเอง

วัลค็อตต์เสียของ
อาร์เซนอลพยายามปั้นเกมรุกกันใหม่นาที 58 นาสรี่ จ่ายไปทางด้านขวาให้ วัลค็อตต์ ได้โอกาสทองมุมเปิดกว้างให้แล้วแต่กลับทำเสียของแปเหินข้ามคานเป็นวา

ปืนมีโชคอีเกิลส์ชนเสา
เกมของ เบิร์นลี่ย์ ไม่เป็นรองแถมเหนือกว่า อาร์เซนอล ด้วยซ้ำโดยเฉพาะนาที 62 เทพีแห่งโชคไม่เข้าข้างจากความสามารถเฉพาะตัวและความแข็งแกร่งของ อีเกิ้ล เบียดชนะ กัลลาส กระชากเข้าไปยิงมุมแคบกระแทกเสาเต็มๆ

เบิร์นลี่ย์เซ็งประตูล้ำหน้ากังขา
เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งดีจนอาร์เซนอลหาบอลแทบไม่เจอเลยนาที 69 เบิร์นลี่ย์ ไม่อยากจะเชื่อที่ไม่ได้ประตูขึ้นนำ แม็คโดนัลด์ กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวาก่อนไหลไปยังเสาสองผ่านมือ อัลมูเนีย ถึง เฟล็ตเชอร์ ชาร์จจ่อๆไม่เหลือ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงหาว่า เฟล็ตเชอร์ ล้ำหน้าดูจากภาพช้าแล้วก้ำกึ่งเหลือเกินโดยที่แผงหลังปืนใหญ่ยอมจำนนไปแล้วด้วย

ปืนป้อแป้น่าโดนจุดโทษ
เกมของอาร์เซนอลโดนกดดันจนเอนไปเอนมา 10 นาทีสุดท้าย เบิร์นลี่ย์ โชคร้ายมากที่ได้ลูกฟรีคิกแทนที่จะเป็นจุดโทษจากจังหวะ ซิลแวสต์ โฉ่งฉ่างเข้าไปสกัด เมียร์ส ล้มในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินกลับให้เป็นแค่ฟรีคิกบนเส้นเขตโทษทางขวาเท่านั้น

ปืนฮึดบุกสู้
ท้ายเกมแม้ "ปืนใหญ่" พยายามฮึดบุกเข้าใส่แต่ทำอะไรไม่ได้ถนัดอาจเป็นเพราะขาดจอมทัพคนคุมเกมอย่าง เชสก์ ไปนั่นเองจบเกมทำให้แบ่งคะแนนกับ เบิร์นลี่ย์ ไปแบบเป่าปาก

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบิร์นลี่ย์: ไบรอัน เยนเซ่น 7,ไทโรน เมียร์ส 7,สตีเฟ่น คัลด์เวลล์,คลาร์ค คาร์ไลส์ 6,สตีเฟ่น จอร์แดน 7,คริส อีเกิ้ลส์*8.5 (เบลค 6 น.83),เวด เอลเลียตต์ 7,เกรแฮม อเล็กซานเดอร์ 7,อังเดร บิเคย์ 7(กุนจอนส์สัน 6 น.70),เควิน แม็คโดนัลด์ 7,สตีเฟ่น เฟล็ตเชอร์ 8(นูเจนท์ 6 น.83)

อาร์เซนอล:มานูเอล อัลมูเนีย 5,บาคารี่ ซานญ่า 6,โธมัส แฟร์มาเล่น 5,วิลเลี่ยม กัลล่าส์ 7,มิกาเอล ซิลแวสต์ 6,ธีโอ วัลค็อตต์(เอดูอาร์โด้ 7 น.63),เชสก์ ฟาเบรกัส 7(แอร่อน แรมซี่ย์ 7 น.43),อเล็กซานเดอร์ ซง 6,อาบู ดิยาบี้ 7,ซามีร์ นาสรี่ 7,อังเดร อาร์ชาวิน 7

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปรีวิว เบิร์นลี่ย์ - อาร์เซนอล




พรีเมียร์ลีก
วันพุธที่ 16 ธันวาคม
เบิร์นลี่ย์ - อาร์เซนอล
02.45 TrueSport Extra1 (66)

อาร์ซนอล นัดที่ผ่านมาเพิ่งจะออกไปเก็บ 3 แต้มมาจาก แอนด์ฟิลด์ ได้อย่างหวุดหวิด และนี่ก็เป็นอีกเกมที่จะต้องไปเยือนยังบ้านของ เบิร์นลี่ย์

Burnley

ผลงาน 5 นัดล่าสุด

12 Dec (Premier League) v Fulham (H) DREW 1-1
05 Dec (Premier League) v Portsmouth (A) LOST 0-2
28 Nov (Premier League) v West Ham Utd (A) LOST 3-5
21 Nov (Premier League) v Aston Villa (H) DREW 1-1
07 Nov (Premier League) v Man City (A) DREW 3-3
31 Oct (Premier League) v Hull City (H) WON 2-0

รายชื่อนักเตะในเกมล่าสุด

Last starting XI (v Fulham): Jensen, Alexander, Carlisle, Caldwell, Mears, Bikey
(McDonald 77), Jordan, Elliott, Eagles (Guerrero 86), Fletcher, Blake (Nugent 56)
Subs not used: Penny, Kalvenes, Gudjonsson, Thompson

นักเตะที่น่าจับตามอง : Kevin McDonald


Arsenal

ผลงาน 5 นัดล่าสุด

13 Dec (Premier League) v Liverpool (A) WON 2-1
09 Dec (Champions League) v Olympiakos (A) LOST 0-1
05 Dec (Premier League) v Stoke City (H) WON 2-0
02 Dec (League Cup) v Manchester City (A) LOST 0-3
29 Nov (Premier League) v Chelsea (H) LOST 0-3
24 Nov (Champions League) v Standard Liege (H) WON 2-0

รายชื่อนักเตะในเกมล่าสุด

Last starting XI (v Liverpool): Almunia, Sagna, Vermaelen, Gallas, Traore
(Silvestre 87), Fabregas, Nasri, Walcott (Diaby 70), Denilson, Song,
Arshavin (Ramsey 90+2).
Subs not used: Fabianski, Wilshere, Eduardo, Vela.

นักเตะที่น่าจับตามอง : Andrey Arshavin


ผลการแข่งขันที่คาดจาก Goal.com
Burnley 1-2 Arsenal

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อาชาแสบ!ซัดพาปืนหักปีกหงส์2-1




"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดน อาร์เซน่อล บุกมาทุบคารังแอนฟิลด์ 1-2 ทั้งที่นำก่อน ส้งผลให้ทีม "ปืนใหญ่" ขยับแซงแอสตัน วิลล่ามารั้งที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.52

ลิเวอร์พูล 1 - อาร์เซน่อล 2

ศึกซูเปอร์ซันเดย์ที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลได้เฟร์นานโด ตอร์เรสหอกตัวอันตรายฟิตสมบูรณ์กลับมาลงบู๊เป็นตัวจริงหนแรกนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.แต่อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ที่ได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวแรกในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกนัดกลางสัปดาห์ต้องกลับไปนั่งข้างสนามตามเดิมโดยเสียตำแหน่งคืนให้ลูคัส เลว่า

ส่วนอาร์เซน่อลเลือกใช้งานธีโอ วัลค็อตต์ตามคาด ขณะที่อเล็กซ์ ซงพ้นโทษแบนกลับมา

ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากบุกใส่กันตั้งแต่ต้นเกม แต่เป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นมากกว่า และในนาทีที่ 12 ตอร์เรสก็ลงต่ำไปเก็บบอลบริเวณกลางสนามพร้อมทั้งแคะสั้นๆให้เจอร์ราร์ดกระชากขึ้นกราบขวาน่ากลัว ก่อนที่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษจะจ่ายคืนเข้ามาตรงกลางให้เอล นินโญ่เผด็จศึกด้วยลูกแปเหน่งๆระยะ 18 หลา แต่ไม่รุนแรงพอที่จะผ่านการล้มตัวตะปบของมานูเอล อัลมูเนีย

นาทีต่อมา ตอร์เรสประสานงานกับเจอร์ราร์ดได้แจ๋วอีกหน คราวนี้กองหน้าเลือดกระทิงไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้สตีวี่ จีหลุดเข้าไปก่อนจะถูกวิลเลี่ยม กัลลาสเข้ามาดักล้ม แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นลูกโทษโดยมองว่ากัปตันหงส์แตะบอลไกลตัวเกินไปแล้วจึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะซัลโวได้

ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลก็ยิ่งแข็งแกร่ง ขึ้นเกมโจมตีเดอะ กันเนอร์สได้เป็นระลอก และถึงนาทีที่ 24 เดนิลสันก็โดนจดชื่อเมื่อยกเท้าสูงใส่ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ในจังหวะพยายามโต้กลับ

เกมทางริมเส้นของเจ้าบ้านยังสร้างปัญหาให้อาคันตุกะได้ตลอดเวลา กระทั่งนาทีที่ 28 เดิร์ก เคาท์ก็ตบบอลจากกราบขวาถวายพานให้เจอร์ราร์ดเข่นหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปกระทบใส่ซงอย่างน่าเสียดาย

เร้ด แมชีนอาศัยความขยันไล่บีบเกมของอาร์เซน่อลได้ดี ไม่เปิดพื้นที่ให้ขุนพลปืนโตได้ต่อบอลบนพื้นตามช่องได้อย่างถนัดเลย

และในที่สุดนาทีที่ 41 สิ่งที่เดอะค็อปรอคอยก็มาถึงเมื่อเดนิลสันทำฟาวล์เจอร์ราร์ดทางฝั่งขวา ฟาบิโอ ออเรลิโอจึงรับหน้าที่ตักบอลเข้าเขตโทษแล้วลูคัสกดดันให้อัลมูเนียต้องออกมาชก แต่บอลไปตกใส่ให้เคาท์พักอกก่อนจะจิ้มยิงจาก 10 หลาเข้าประตูพาทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ขึ้นนำ 1-0

สู้กันใหม่มาได้อีกสามนาที เชส ฟาเบรกาสก็ทิ้งบอลยาวออกกราบขวาหมายให้วัลค็อตต์เก็บไปลากเลื้อย ออเรลิโอจึงปรี่เข้ามาผลักปีกปืนใหญ่กลิ้งทำให้โดนจดชื่อ จบครึ่งแรกหงส์แดงจึงนำไปก่อน 1-0
ลิเวอร์พูล 1 - อาร์เซน่อล 2

เริ่มครึ่งหลัง ทีมเยือนเปิดตัวได้อย่างวูบวาบ และในนาทีที่ 48 ฟาเบรกาสก็ได้ซัลโวบอลที่กระดอนมาหาในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ไม่มีน้ำหนักจึงถูกโฆเซ่ เรน่าเซฟสบายที่เสาแรก

กระนั้นก็ดี อีกสองนาทีต่อมา แฟนหงส์ก็ต้องเซ็งกันอีกจนได้เมื่อซามีร์ นาสรี่มีพื้นที่กระชากบอลขึ้นกราบขวาก่อนจะไหลเข้าเขตโทษแล้วเกล็น จอห์นสันวิ่งกลับไปสกัดผิดจังหวะบอลจึงกลิ้งเข้าปะทะตาข่ายตัวเองช่วยสงเคราะห์ให้ทีมจากเมืองหลวงตีเสมอเป็น 1-1

เท่านั้นเอง เจ้าบ้านก็กลับมาโหมบุกใหม่หลังนิ่งนอนใจเกินไปจนเสียประตูคืน แต่นาทีที่ 55 มาสเคราโน่เข้าเสียบใส่ฟาเบรกาสจึงได้ใบเหลือง

และแล้วอีกสามนาทีให้หลัง อาร์เซน่อลก็เรียกเสียงเฮจากสาวกของตัวเองได้เมื่อฟาเบรกาสตักบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษแล้วเจมี่ คาร์ราเกอร์โขกสกัดทะลักหลุดไปเสาไกล อังเดร อาร์ชาวินจึงได้โอกาสม้วนหนีจอห์นสันก่อนจะตะบันจาก 16 หลาส่งบอลพุ่งชนเสาแรกเข้าประตูพาทีมปืนโตแซงนำ 2-1

เครื่องจักรสีแดงไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากเดินหน้าลูกเดียวก่อนจะเปลี่ยนอาควิลานี่ลงไปแทนมาสเคราโน่ในนาทีที่ 66

จากนั้นอีกห้านาที อาร์เซน่อลก็ส่งอาบู ดิยาบี้ลงเล่นแทนวัลค็อตต์ที่ไม่มีบทบาทกับเกม และในนาทีที่ 73 อาร์ชาวินก็หาโอกาสสับไกจากริมเขตโทษด้านขวา แต่บอลเข้าซองเรน่าพอดี

ช่วงที่เหลือเร้ด แมชีนยังเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น แต่สุดท้ายก็ได้แค่เสียว หมดเวลาอาร์เซน่อลจึงบุกมาคว้าชัย 2-1 ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 แทนแอสตัน วิลล่า พร้อมยัดเยียดความปราชัยเป็นนัดที่หกในซีซั่นให้หงส์แดง


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า 6, เกล็น จอห์นสัน 6 (ฟิลิปป์ เดเก้น 5 น.82), เจมี่ คาร์ราเกอร์ 6, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ 6, ฟาบิโอ ออเรลิโอ 7, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 6 (อัลแบร์โต้ อควิลานี่ 5 น.65), ลูคัส เลว่า 6, เดิร์ค เค้าท์ 7, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 6, ยอสซี่ เบนายูน 5 (ดาวิด เอ็นก็อก 4 น.79), เฟร์นานโด ตอร์เรส 6
สำรองไม่ได้ใช้ : ดิเอโก้ คาวาเลียรี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอมิเลียโน่ อินชัว, อันเดรีย ดอสเซน่า
ใบเหลือง : ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลว่า

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย 6, บาการี่ ซานย่า 7, วิลเลี่ยม กัลลาส 6, โธมัส แฟร์มาเล่น 6, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ 6 (มิกาแอล ซิลแวสต์ 5 น.87), ธีโอ วัลค็อตต์ 6 (อาบู ดิยาบี้ 5 น.70), อเล็กซ์ ซง 7, เชส ฟาเบรกาส 7, เดนิลสัน 7, ซามีร์ นาสรี่ 6, อังเดร อาร์ชาวิน 8 (อารอน แรมซี่ย์ 5 น.90)
สำรองไม่ได้ใช้ : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, แจ็ค วิลเชียร์, คาร์ลอส เวล่า, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
ใบเหลือง : เชส ฟาเบรกาส, เดนิลสัน, อังเดร อาร์ชาวิน

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

แมน ออฟ เดอะแมตช์ : อังเดร อาร์ชาวิน (อาร์เซน่อล) เป็นปีที่สองติดต่อกันแล้วที่กองหน้ารัสเซียมาปล่อยทีเด็ดที่ แอนฟิลด์ เกมนี้แม้ไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากนัก แต่ประตูชัยที่ทำได้ก็เพียงพอแล้วที่จะกลายเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของเกมนี้

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ลิเวอร์พูล - อาร์เซน่อล ตอร์เรสคัมแบ็กช่วยหงส์ซดแข้งปืน




เฟร์นานโด ตอร์เรส เตรียมคัมแบ็กตัวจริงช่วย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่นำทัพมาโดย เชส ฟาเบรกาส และ อังเดร อาร์ชาวิน





ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2552

ลิเวอร์พูล - อาร์เซน่อล

สนาม : แอนฟิลด์

ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ หงส์แดง เตรียมส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่ง กลับมาเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ หลังหายเจ็บโคนขาหนีบเป็นที่เรียบร้อย ลงเล่นเป็นตัวสำรองในช่วง 25 นาทีสุดท้ายของเกมชปล. ที่แพ้ ฟิออเรนติน่า 1-2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

แดนกลาง อัลแบร์โต้ อควิลานี่ กองกลางตัวใหม่ ก็พร้อมลงตัวจริงเกมลีกเป็นนัดแรกด้วย หลังประเดิมสนามตั้งแต่ต้นเกมจนถึงนาทีที่ 75 ในเกมชปล. ส่วนในราย ไรอัน บาเบล ปีกความเร็วสูง ต้องรอทดสอบความฟิตจากอาการบาดเจ็บข้อเท้า

อย่างไรก็ตาม ในราย อัลเบิร์ต ริเอร่า, นาบิล เอล ซาร์ (ข้อเท้า) และ มาร์ติน เคลลี่ (ข้อเท้า) ต่างบาดเจ็บไม่มีชื่ออยู่ในทีมทั้งหมด

ระบบการเล่น 4-2-3-1 โฆเซ่ มานูเอล เรน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินชัว แดนกลางมี ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กับ อัลแบร์โต้ อควิลานี่ เป็นตัวรับ ส่วนตัวรุกมี เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ยอสซี่ เบนายูน หน้าเป้าใช้ เฟร์นานโด ตอร์เรส

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส กลายเป็นทีมที่มีนักเตะบาดเจ็บเยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว แต่ตัวหลักหลายคนน่าจะผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามทันเกมนี้ หลังจากผ่านเกมชปล. เมื่อกลางสัปดาห์ โดยใช้ดาวรุ่งชุดที่ทำศึกคาร์ลิ่ง คัพ ลงสนามทั้งทีม

อเล็กซ์ ซง พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว ส่วน เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา (ต้นขา) กับ อาบู ดิยาบี้ (น่อง) ก็น่าจะผ่านการทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ เชส ฟาเบรกาส (หลัง), อังเดร อาร์ชาวิน (ข้อเท้า), ธีโอ วัลค็อตต์ (ข้อเท้า), อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ (เอ็นหลังหัวเข่า), วิลเลี่ยม กัลลาส (เอ็นหลังหัวเข่า)

แต่ในราย นิคลาส เบนท์เนอร์ (โคนขาหนีบ), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ข้อเท้า), โทมัส โรซิชกี้ (โคนขาหนีบ), กาแอล กลิชี่ (หลัง), โยอัน ฌูรู (เข่า), เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (เอ็นหลังหัวเข่า), คีแรน กิ๊บบ์ส (ข้อเท้า) หมดสิทธิ์คืนสนามทั้งหมด

ระบบการเล่น 4-5-1 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้ หน้าเป้าใช้ อังเดร อาร์ชาวิน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินชัว - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อัลแบร์โต้ อควิลานี่ - เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ยอสซี่ เบนายูน - เฟร์นานโด ตอร์เรส

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้ - อังเดร อาร์ชาวิน

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (ตัดสินเกมพรีเมียร์ลีก 9 นัด ใบเหลือง 30, ใบแดง 0)

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) - อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก)




"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมขนผู้เล่นชุดใหญ่เต็มพิกัด นำทัพโดย เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ เคร็ก เบลลามี่ ด้าน "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สับเปลี่ยนผู้เล่นแบบยกชุดโดยให้โอกาสเด็กเหมือนในรอบที่ผ่านมา ส่วนอีกคู่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ดร็อป ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า โดยส่ง ซาโลมง กาลู เป็นหัวหอกตัวเป้า ศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ คืนนี้


แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) - อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก)
รอบก่อนรองชนะเลิศ


สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม




มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ เรือใบสีฟ้า กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เครียดจัดทีเดียว หลังทำผลงานเหลือเชื่อ เสมอในลีกมา 7 นัดรวด จนทำให้อันดับรูดลงมาอยู่ที่ 7 ของตารางแล้ว




อย่างไรก็ตาม สปาร์กี้ เอาจริงเอาจังกับถ้วยใบนี้ทีเดียว และพร้อมจัดชุดใหญ่ลงสนามเต็มสูบ จะขาดก็เพียง มาร์ติน เปตรอฟ ที่เจ็บเข่า




ส่วน โรบินโญ่ ที่เพิ่งกลับมาฟิตลงตัวจริงในนัดที่แล้วที่เสมอ ฮัลล์ 1-1 น่าจะได้พักเป็นตัวสำรอง กลับกัน แกเร็ธ แบร์รี่ ที่ได้พักในนัดที่แล้ว จะกลับมาเป็นตัวจริงเกมนี้




ระบบการเล่น 4-4-2 เชย์ กิฟเว่น ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้งาน ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์ แดนกลางมี ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ คู่หน้า เคร็ก เบลลามี่ ยืนคู่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์




ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส เจอปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บและไม่ฟิตเยอะทีเดียว ทำให้เกมนี้กุนซือชาวฝรั่งเศสจะพักใช้งานตัวหลักแบบยกทีมกันไปเลย




วิลเลี่ยม กัลลาส, มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซานย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่, เดนิลสัน, อเล็กซ์ ซง, ธีโอ วัลค็อตต์, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่, โทมัส โรซิชกี้, อังเดร อาร์ชาวิน, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา และ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ จะไม่มีชื่อในเกมนี้




ส่วน คีแรน กิ๊บบ์ส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, นิคลาส เบนท์เนอร์, อาบู ดิยาบี้, กาแอล กลิชี่ และ โยฮัน ฌูรู บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด




ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ เคอร์เรีย กิลเบิร์ต, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, มิกาแอล ซิลแวสต์, ฟร็องซิส โกเกแล็ง แดนกลางมี ฟราน เมริด้า, อารอน แรมซี่ย์, มาร์ค แรนดอลล์, แจ็ค วิลเชียร์ คู่หน้า ซานเชซ วัตต์ ยืนคู่ คาร์ลอส เวล่า


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น - ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์ - ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ - เคร็ก เบลลามี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์




อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - เคอร์เรีย กิลเบิร์ต, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, มิกาแอล ซิลแวสต์, ฟร็องซิส โกเกแล็ง - ฟราน เมริด้า, อารอน แรมซี่ย์, มาร์ค แรนดอลล์, แจ็ค วิลเชียร์ - ซานเชซ วัตต์, คาร์ลอส เวล่า




เรือใบเฝ้าบ้านดุ! อัดปืน 3 จาก 4 นัดหลัง




แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีผลงานในการพบกับ อาร์เซน่อล ที่ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม ค่อนข้างดีเยี่ยมทีเดียว เพราะ 4 นัดหลังสุดที่นี่ เรือใบสีฟ้า เก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัดในการพบกันที่สนามแห่งนี้




ฤดูกาล 2006/07 เรือใบสีฟ้า ชนะ 1-0, ฤดูกาล 2007/08 ปืนใหญ่ บุกชนะ 3-1, ฤดูกาล 2008/09 เรือใบสีฟ้า ถล่ม 3-0 และในฤดูกาลนี้ เรือใบสีฟ้า ก็ถล่มไปอีก 4-2




อย่างไรก็ตาม หากดูผลงานในบอลถ้วยนัดล่าสุด ปรากฏว่า เด็กปืนในยุคนั้น เคยบุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 ในศึกลีกคัพ รอบ 3 ฤดูกาล 2004/05