ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

เชสกู้ชีพ!ปืนฮึดตีเจ๊าบาร์ซ่า10ตัว2-2





"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมดังจาก อังกฤษ ฮึดไล่ตีเสมอ บาร์เซโลน่า ยอดทีมจาก สเปน 2-2 ชนิดที่โดนนำไปก่อน 2-0 ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 2 - 2 บาร์เซโลน่า (สเปน)


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน, อังกฤษ



"ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เจ้าบ้านได้ตัว เชส ฟาเบรกาส จอมทัพกัปตันทีมคนสำคัญ หายเจ็บเข่าลงเล่นได้ รวมทั้งได้ตัว โธมัส แฟร์มาเล่น เซนเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญ พ้นโทษแบนเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์กลับมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ วิลเลี่ยม กัลลาส ที่หายเจ็บน่องแล้ว แนวรุกเป็น ซามีร์ นาสรี่, นิคลาส เบนท์เนอร์ และ อังเดร อาร์ชาวิน ยืนเป็นสามประสานในแดนหน้า

ทางด้าน "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า แชมป์เก่ารายการนี้ หมดสิทธิ์ใช้งาน อันเดรส อิเนียสต้า กองกลางจอมพลิ้วเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าต้องพักประมาณ 10 วัน แต่ได้ ชาบี เอร์นานเดซ หายเจ็บน่องกลับมาลงสนาม รวมทั้งได้ เคราร์ด ปิเก้ หายเจ็บเข่าซ้ายกลับมา

สามประสานแดนหน้าจัดจ้านทีเดียวมีทั้ง ลีโอเนล เมสซี่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ เปโดร โรดริเกซ ส่วน เธียร์รี่ อองรี ที่กลับรังเก่าปืนมีชื่อแค่สำรองเท่านั้น

ออกสตาร์ทครึ่งแรกไปไม่ถึงนาที ทีมเยือนลุยใส่ทันที มีลุ้นก่อนจากจังหวะเตะมุมของ ชาบี เอร์นานเดซ บอลมาหน้าเขตโทษ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ แปเน้นๆ มานูเอล อัลมูเนีย นายทวารกันเนอร์ส ต้องปัดทิ้งไป

หลังจากนั้น 4 นาที เจ้าบุญทุ่ม ได้ลุ้นต่อเนื่องทีเดียว เมสซี่ พาบอลหนีกองหลังแล้วกดด้วยซ้ายตรงเส้นโทษ ทว่า อัลมูเนีย ใช้เท้าซ้ายเซฟไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

บาร์ซ่า กระหน่ำหนักทีเดียวนาทีที่ 8 มีโอกาสอีกเมื่อ ชาบี วางบอลออกทางขวาให้ ดาเนี่ยล อัลเวส เติมมารับบอลหลุดไปถึงเขตโทษแล้วตบให้ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แปแค่ 8 หลาข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

เกมสนุกทีเดียว แต่เป็น บาร์ซ่า ที่ลุยเข้าใส่ตลอด ซลาตัน หลุดเดี่ยวแล้วตัดสินใจยิงเองเข้าข้างตาข่ายในนาทีที่ 10

สองนาทีต่อมา เมสซี่ สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ของแชมป์เก่า ได้ยิงด้วยซ้ายตรงหน้าเขตโทษติดเซฟ อัลมูเนีย อีกแล้ว

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 14 บาร์ซ่า น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ ซลาตัน ยิงติด อัลมูเนีย นายทวารอาร์เซน่อล บอลมาทาง เปโดร โรดริเกซ เปิดให้ ชาบี ยิงติด อัลมูเนีย อีก บอลมาถึง เมสซี่ วอลเลย์ด้วยซ้ายจ่อๆ แต่ไปติด อเล็กซ์ ซง ก่อนจังหวะสุดท้าย อัลเวส หวดด้วยขวาหลุดกรอบไป

ถัดมา 4 นาที ทีมเยือนยังบุกกันอย่างเพลิดเพลิน อัลเวส วางบอลข้ามมาเสาสอง เคราร์ด ปิเก้ โหม่งตรงตัวอัลมูเนีย

อาร์เซน่อล ต้องรอจนถึงนาทีที่ 22 ถึงได้ลุ้นครั้งแรก ซามีร์ นาสรี่ ปั่นด้วยขวาจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลโค้งหลุดเสาสองไป

สถานการณ์เจ้าบ้านไม่สู้ดีต้องเปลี่ยนเอา อังเดร อาร์ชาวิน สตาร์รัสเซีย ที่เจ็บออกแล้วส่ง เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ลงมาแทนในนาทีที่ 26

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 37 เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้าง นิคลาส เบนด์เนอร์ ได้ยิงโล่งๆ ในเขตโทษติดเซฟบิคตอร์ บัลเดส ก่อนซ้ำด้วยซ้ายไปชนเสา แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 2 นาที เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่องเจ้าบ้านไปเสียบ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ จนโดนใบเหลือง ทำให้ เชส จะถูกแบนชวดลงสนามเกมนัดสองในถิ่น คัมป์ นู ของบาร์ซ่า

มาถึงนาทีที่ 44 อาร์เซน่อล ต้องเสีย วิลเลี่ยม กัลลาส ที่เจ็บไปอีกรายแล้วเปลี่ยนเอา เดนิลสัน ลงมาเล่นแทน หมดครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ที่บุกอยู่ข้างเดียวยังเสมอกับ อาร์เซน่อล เจ้าบ้านอยู่ 0-0

ล่วงเข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 25 วินาที ทีมเยือนออกนำจนได้จากจังหวะที่ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังวางบอลยาวจากแดนตัวเองให้กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หลุดเข้าไปกระดกด้วยขวาบอลบอลข้ามหัว มานูเอล อัลมูเนีย ที่ออกมาจากเส้นเยอะก่อนลอยเข้าประตูไปให้ บาร์เซโลน่า นำ 1-0

เกมของบาร์ซ่า ยังอันตรายสุดขั้วมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 53 จากจะงหวะที่ เมสซี่ ยิงฟรีคิกถูกสกัดได้บอลมาทาง บุสเก็ตส์ ซ้ำด้วยขวาไม่ผ่านมือของ อัลมูเนีย นายทวารอาร์เซน่อล

เจ้าบ้านมีโอกาสได้ประตูตีเสมอเเหมือนกันในนาทีต่อมา เมื่อ กาแอล กลิชี่ ครอสจากซ้ายให้กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ เทคตัวโหม่ง โดน บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่าปัดออกมาก่อนที่กองหลังเจ้าบุญทุ่มมาเคลียร์ทิ้งไปได้

จังหวะต่อมา บาร์ซ่า โต้กลับ อัลเวส เปิดจากขวาให้กับ ชาบี โหม่งเช็ดบอลออกเสาสองไป

อย่างไรก็ดี บาร์ซ่า มาได้ประตูที่สองจนได้ในนาทีที่ 59 จากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ วางบอลตัดแนวรับปืนใหญ่ให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หลุดเข้าไปตะบันเต็มเท้าขวาบอลพุ่งเสียบเสาแรกงามหยดให้ทีมเยือนหนีห่าง 2-0 และเป็นประตูที่สองของ ซลาตัน ในเกมนี้แล้ว

กันเนอร์ส ต้องปรับแท็คติกแล้วส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ปีกขวาความเร็วสูงลงมาเล่นแทน บาการี่ ซาญ่า แบ็คขวา ในนาทีที่ 67

แท็คติกนี้ได้ผลทีเดียว เมื่อเจ้าบ้านได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ ซามีร์ นาสรี่ ไหลให้กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ จ่ายออกขวาให้กับ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เติมขึ้นมาทางขวาแปด้วยขวาทันทีบอลโดนมือ บิคตอร์ บัลเดส ที่พยายามปัดนิดหนึ่งแต่ยังแรงพอเข้าประตูไปในนาทีที่ 69

สามนาทีต่อมา เครคาร์ด ปิเก้ กองหลังบาร์ซ่า ไปทำฟาวล์ ฟาเบรกาส ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ทันที ทำให้นัดสองในถิ่นคัมป์ นู ปิเก้ จะติดโทษแบนลงสนามไม่ได้ จากลูกฟรีคิกระยะ 23 หลา ฟาเบรกาส ปั่นข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น

ทีมเยือนปรับเกมบ้างในนาทีที่ 76 ส่ง เธียร์รี่ อองรี อดีตกองหน้าระดับตำนานของกันเนอร์ส ลงมาเล่นแทน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช คนทำสองประตูในเกมนี้ ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับ อองรี อย่างกึกก้องของแฟนบอลไอ้ปืนใหญ่

ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 84 เจ้าถิ่นก็มาได้ลูกจุดโทษ จังหวะที่ การ์เลส ปูโยล ไปทำฟาล์ว เชส ฟาเบรกาส ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เป่าเป็นลูกจุดโทษ แล้วก็ไล่ ปูโยล ด้วย แล้วก็เป็น พาเบรกาส ลุกขึ้นมาสังหารเอง ให้ ปืนใหญ่ ตามตีเสมอเป็น 2-2

ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ อาร์เซน่อล บุกหนักหวังเอาประตูชัย แต่ทำไม่สำเร็จ จบเกม เสมอกันไป 2-2 ก่อนไปบู๊กันต่อในนัดสองที่คัมป์ นู ถิ่นของบาร์ซ่า ในวันอังคารที่ 6 เมษายน นี้

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซาญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ - อเล็กซ์ ซง - เชส ฟาเบรกาส (กัปตันทีม), อาบู ดิยาบี้ - ซามีร์ นาสรี่, นิคลาส เบนท์เนอร์, อังเดร อาร์ชาวิน

สำรอง: ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู) - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โซล แคมป์เบลล์, เดนิลสัน, ธีโอ วัลค็อตต์, โทมัส โรซิคกี้, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล (กัปตันทีม), แม็กซ์เวลล์ - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซย์ดู เกอิต้า - ลีโอเนล เมสซี่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เปโดร โรดริเกซ

สำรอง: โฮเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - ราฟาเอล มาร์เกซ, กาเบรียล มิลิโต้, ยาย่า ตูเร่, เจฟเฟรน ซัวเรซ, โบยาน เกร์กิช, เธียร์รี่ อองรี

ผู้ตัดสิน : มัสซิโม่ บูซัคก้า (สวิตเซอร์แลนด์)

ปืนเฮ!เชสฟิตลุย,บาซ่าคึกจัด3หอกบู๊





"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ได้รับข่าวดี เมื่อจะได้ เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม หายเจ็บกลับมาลงสนามได้แล้ว ในขณะที่ บาร์เซโลน่า จะไม่มี อันเดรส อิเนียสต้า กองกลางจอมพลิ้วที่มีอาการรบาดเจ็บ ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนนี้


ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันพุธที่ 31 มีนาคม 2553
อาร์เซน่อล (อังกฤษ, 3) - บาร์เซโลน่า (สเปน, 2)


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม



อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ ปืนใหญ่ ยังต้องรอลุ้นระทึกกับสภาพความฟิตของ เชส ฟาเบรกาส จอมทัพกัปตันทีมคนสำคัญ หลังจากบาดเจ็บที่เข่าและขาระหว่างเกมที่เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ ล่าสุดก็ยังไม่ได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อช่วงเช้าวันอังคาร

อย่างไรก็ตาม แนวรับมีข่าวดี โธมัส แฟร์มาเล่น เซนเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญ จะกลับมาอยู่ในทีมตามปกติ หลังติดโทษแบนเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ ทำให้ปราการหลังทีมชาติเบลเยี่ยมจะยืนเซนเตอร์คู่ โซล แคมป์เบลล์

วิลเลี่ยม กัลลาส หายเจ็บน่องกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่เกมนี้ยังคงเร็วเกินไปสำหรับปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส ขณะที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ข้อเท้า), อารอน แรมซี่ย์ (ขาหัก), คีแรน กิ๊บบ์ส (เท้า) และ โยฮัน ฌูรู (เข่า) ยังพักฟื้นอยู่เหมือนเดิม

ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้งาน บาการี่ ซานย่า, โซล แคมป์เบลล์, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน กลับมาเป็นตัวจริงคู่ นิคลาส เบนท์เนอร์

ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ เจ้าบุญทุ่ม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อันเดรส อิเนียสต้า กองกลางจอมพลิ้วแน่นอนแล้ว หลังจากบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ามาจากเกมที่เฉือนชนะ เรอัล มายอร์ก้า 1-0 เมื่อวันเสาร์ และต้องพักประมาณ 10 วัน

แต่ข่าวดีตำแหน่งอื่นๆ ชาบี เอร์นานเดซ เพิ่งหายเจ็บน่องฟิตเต็มที่แล้ว และ ยาย่า ตูเร่ ที่เจ็บข้อเท้าจนถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมกับ มายอร์ก้า อาการไม่ได้หนักหนาอะไร ขณะที่ เกราร์ด ปิเก้ พลาดเกมลีกมาสองนัดติด เพราะเจ็บเข่าซ้าย ยังต้องแยกซ้อม แต่ก็มีชื่อไปลอนดอนด้วย

ในราย เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศส หายเจ็บต้นขาแล้ว หลังกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันจันทร์ แต่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย แม้ถูกหนีบร่วมทีมไปด้วย

ขณะเดียวกัน ดมิโทร ชิกรินสกี้ กองหลังยูเครน ลงเล่นรายการนี้ไม่ได้ เพราะเคยเล่นให้ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค สโมสรเก่ามาแล้ว

ระบบการเล่น 4-3-3 บิคตอร์ บัลเดส ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน ดาเนี่ยล อัลเวส, กาเบรียล มิลิโต้, การ์เลส ปูโญล, แม็กซ์เวลล์ แดนกลางมี ชาบี เอร์นานเดซ, เซย์ดู เกต้า, ยาย่า ตูเร่ ส่วนแนวรุกใช้สามประสาน เธียร์รี่ อองรี, ลิโอเนล เมสซี่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, โซล แคมป์เบลล์, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ - ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส - อังเดร อาร์ชาวิน, นิคลาส เบนท์เนอร์

บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนี่ยล อัลเวส, กาเบรียล มิลิโต้, การ์เลส ปูโญล, แม็กซ์เวลล์ - ชาบี เอร์นานเดซ, เซย์ดู เกต้า, ยาย่า ตูเร่ - เธียร์รี่ อองรี, ลิโอเนล เมสซี่, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ผู้ตัดสิน : มัสซิโม่ บูซัคก้า (สวิตเซอร์แลนด์)


เวนเกอร์มั่นใจเชสพร้อมลงสนาม



อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล มั่นใจว่า เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม จะฟิตพร้อมลงสนามในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก กับ บาร์เซโลน่า ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม วันพุธนี้

ฟาเบรกาส ได้รับบาดเจ็บเข่าในเกมที่เสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้รุนแรงแต่อย่างใด และ เวนเกอร์ ก็เชื่อว่ายอดดาวเตะทีมชาติสเปน ซึ่งซัดไปแล้ว 18 ประตูในฤดูกาลนี้ จะพร้อมลงเจอกับ บาร์ซ่า ในเกมวันพุธนี้

"ผมเชื่อว่าเขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น มันมีความเครียดน้อยลงในเรื่องการยิงประตูของเขา คุณรู้สึกได้ว่าก่อนหน้านี้เขาต้องใช้ความพยายามมาก แต่ตอนนี้เขาผ่อนคลายมากขึ้น"

"เขายังมีพละกำลังเพิ่มขึ้นด้วย คุณสามารถเห็นได้ว่าเขาปะทะกับคู่แข่งได้มากขึ้น และเขาก็มีพลังมากขึ้นในการวิ่ง มันคือ 2 องค์ประกอบสำคัญที่สร้างความแตกต่างอย่างมากมาย ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนระบบการเล่นส่งผลอย่างมากด้วย เขามีอิสระในการเล่นมากขึ้นตอนนี้" เวนเกอร์ กล่าว


มั่นใจแนวรับปืนจับเมสซี่อยู่หมัด



อย่างไรก็ตาม หัวหอกทีมชาติเดนมาร์ก มั่นใจว่า อาร์เซน่อล สามารถรับมือกับ เมสซี่ ได้ และจะไม่ปล่อยให้ยอดดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินามีอิสระในการเล่นแน่นอน

"ถ้าผมเป็นกองหลัง ผมจะพยายามทำให้แน่ใจว่าเขาไม่สามารถครองบอลได้ ทันทีที่เขาพลิกตัวเข้าหาปากประตูโดยมีบอลอยู่กับเท้า มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดเขา ข้อดีของเราคือเราเล่นในสไตล์ที่แตกต่างจากที่ บาร์เซโลน่า คุ้นเคยในลีกสเปน"

"การเล่นกับเรา เมสซี่ จะไม่มีพื้นที่และเวลาสำหรับการลากเลื้อยเหมือนเดิม ความเร็วของเกมในอังกฤษสูงกว่าสเปน มันจะเป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในการเล่นกับเรา ถึงแม้ว่าพวกเขาดูเหมือนเป็นต่อนิดหน่อย แต่ผมจะบอกว่ามันแทบไม่แตกต่างกันเลย" เบนท์เนอร์ กล่าว


เป๊ปยันบาร์ซ่าเน้นรุกแม้เกมเยือน



โจเซป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า ยืนยันว่า ทีมของเขาจะยังคงเล่นเกมรุกในแบบฉบับของทีมต่อไป ในเกมบุกเยือน อาร์เซน่อล เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ในวันพุธที่ 31 มี.ค.นี้

ทั้งสองทีมขึ้นชื่อเรื่องสไตล์การเล่นเกมรุกที่สวยงาม และแฟนบอลหวังจะได้เห็นการแลกเกมรุกที่น่าตื่นเต้น ซึ่ง กวาร์ดิโอล่า ก็ตั้งใจจะตอบสนองความต้องการนั้น โดยยืนยันว่า เขามุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ทั้งสองนัดเหย้า-เยือน "ตั้งแต่ผมเข้ามาคุมทีม จุดเด่นของเราคือความกล้าและเกมรุก บางครั้งเราน่าเกรงขาม และบางครั้งผมคิดว่าเล่นกันอย่างบ้าบิ่น"

"มันเป็นปรัชญาของฟุตบอล ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ผมต้องการให้เราแสดงให้เห็นว่าเราคือใคร และฟุตบอลแบบไหนที่พวกเราเชื่อมั่น ผมอยากให้พวกเขาลงสนาม และเป็นตัวของตัวเอง พวกเราที่โชคดีพอได้ทำงานระดับนี้ในสายอาชีพของเรา ต้องไม่ลืมว่านี่เป็นแค่กีฬา"

"เราอาศัยอยู่ในโลกที่ทุกอย่างล้วนเกี่ยวพันกันหมด ผู้คนจำนวนมากต้องเสียสละครั้งใหญ่เพื่อจะได้ไปชมเกมฟุตบอลสักหนึ่งเกม สำหรับผมทุกอย่างสามารถเข้าใจได้ ถ้าคุณทำในมันเพื่อผุ้คนเหล่านั้น รูปแบบที่เราเล่นแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่เรามีต่อแฟนบอลที่ซื้อตั๋วมาชมเกม หรือจ่ายมากกว่านั้นเพื่อดูผ่านโทรทัศน์"

วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

"ฟาน เพอร์ซี" เล็งคืนสนาม






โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดาวยิงของ อาร์เซนอล เปิดเผยว่าตนเริ่มกลับมาฝึกซ้อมเบาๆได้แล้วและตั้งเป้าจะกลับมาช่วย "ปืนโต" ให้ได้ก่อนจบฤดูกาลนี้

ฟาน เพอร์ซี ไม่สามารถลงสนามมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บข้อเท้าอย่างหนักในเกมรับใช้ทีมชาติฮอลแลนด์อุ่นเครื่องกับอิตาลี ตอนแรกมีความกลัวว่าดาวยิงวัย 26 ปีรายนี้น่าจะหมดสิทธิ์กลับมาช่วย อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้

ล่าสุด ฟาน เพอร์ซี ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ประเทศบ้านเกิดว่าตนหวังว่าจะกลับมาช่วย "เดอะกันเนอร์ส" ในเดือนเมษายน "ผมฟิตในทางการแพทย์ แต่ทางกายภาพแล้วผมต้องทำให้มันดีขึ้นอีก ผมยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ผมได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว ใน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมฝึกซ้อมกับลูกบอลและมันก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมยังหวังว่าจะสามารถกลับมาเล่นได้ในช่วงสุดท้ายของเกมลีกและยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ด้วย"

"เป้าหมายแรกของผมคือการกลับมาเล่นให้อาร์เซนอล ตอนที่ผมพูดถึงเป้าหมายนี้เมื่อ 2-3 เดือนก่อนมันฟังดูบ้า แต่ตอนนี้มันจะเกิดขึ้นแล้ว ส่วนเป้าหมายหลังจากนั้นคือการไปฟุตบอลโลก" ฟาน เพอร์ซี กล่าว

วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปืนยิ้มเชสคืนทัพเบนท์เนอร์ฮอตคู่ชาร์วิน




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล จะได้ เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมจอมทัพหายเจ็บกลับมาบัญชาเกมในแดนกลางอีกครั้ง ในศึกลอนดอนดาร์บี้ แมตช์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซน่อล - เวสต์แฮม


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม



อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส เตรียมได้ 3 กองกลางกลับสู่ทีม ทั้ง เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีม, โทมัส โรซิชกี้ และ อเล็กซ์ ซง ซึ่งพลาดเกมล่าสุดที่บุกชนะ ฮัลล์ 2-1 ทั้งหมด

ฟาเบรกาส เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าตั้งแต่เกมชนะ เบิร์นลี่ย์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. และ โรซิชกี้ ที่พลาดเกมล่าสุดเพราะเจ็บโคนขาหนีบ คาดว่าจะผ่านการทดสอบความฟิตกลับมาทั้งคู่ ขณะที่ ซง พ้นโทษแบน 2 นัดกลับมาแล้ว ส่วนแดนหน้า คาร์ลอส เวล่า ฟิตกลับมาสู่ทีมด้วย

อย่างไรก็ตาม แนวรับยังต้องห่วงอาการของ วิลเลี่ยม กัลลาส ที่เจ็บน่อง พลาดลงเล่นมาแล้วถึง 6 นัด และคงจะต้องหยุดพักอีกอย่างน้อย 2 นัด ทำให้ โซล แคมป์เบลล์ กับ มิกาแอล ซิลแวสต์ จะต้องแย่งตำแหน่งกันต่อไป

ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน บาการี่ ซานย่า, โซล แคมป์เบลล์, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้าเลือก อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ นิคลาส เบนท์เนอร์ เหมือนเดิม

ด้าน จานฟรังโก้ โซล่า กุนซือ ขุนค้อน ได้รับข่าวดีบ้าง เมื่อ เฮริต้า อิลุงก้า หายเจ็บเส้นเอ็น และ มาร์ค โนเบิ้ล กองกลาง ก็หายเจ็บแขนกลับมาลงซ้อมเต็มรูปแบบได้แล้วในช่วงสัปดาห์นี้

ฌูเลียง โฟแบร์ ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ใกล้จะกลับมาลงซ้อมแล้ว และใกล้เคียงกับการกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบอีกด้วย ขณะที่ มานูเอล ดา คอสต้า ยังติดโทษแบนเป็นนัดที่ 2 จาก 3 นัด กลับจากโดนไล่ออกในเกมทีมสำรองเมื่อเดือนที่แล้ว

แนวรุก เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ กลับมาลงซ้อมแล้วตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ก็จะต้องแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ กิเยร์โม่ ฟรังโก้, อาห์เหม็ด ฮอสซัม มิโด้ และ อิลาน เพื่อเป็นประสานงานร่วมกับ คาร์ลตัน โคล ที่น่าจะกลับมายึดตัวจริงในเกมนี้ด้วย

ระบบการเล่น 4-5-1 โรเบิร์ต กรีน ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ โจนาธาน สเป็คเตอร์, ดาเนี่ยล แก็บบิดอน, แม็ทธิว อัพสัน, เฮริต้า อิลุงก้า แดนกลางมี วาลอน เบห์รามี่, ราโดสลาฟ โควัช, สกอตต์ พาร์เกอร์, คีรอน ดายเออร์, อเลสซานโดร เดียมานติ หน้าเป้าใช้ คาร์ลตัน โคล

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, โซล แคมป์เบลล์, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, นิคลาส เบนท์เนอร์

เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน - โจนาธาน สเป็คเตอร์, ดาเนี่ยล แก็บบิดอน, แม็ทธิว อัพสัน, เฮริต้า อิลุงก้า - วาลอน เบห์รามี่, ราโดสลาฟ โควัช, สกอตต์ พาร์เกอร์, คีรอน ดายเออร์, อเลสซานโดร เดียมานติ - คาร์ลตัน โคล

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน

ซี้ด!ผีบู๊เสือ,ปืนฟัดบาร์ซ่า8ทีมชปล.





แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจองานหินในรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจับติ้วชน บาเยิร์น มิวนิค ทีมฟอร์มแรงจากเยอรมัน ขณะที่ อาร์เซน่อล แทบอ้วก ประกบเจอ "แชมป์เก่า" บาร์เซโลน่า และมีสิทธิ์เข้าไปปะทะ อินเตอร์ มิลาน ในรอบตัดเชือก



สรุปผลการจับสลากประกบคู่ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา
รอบ 8 ทีมสุดท้าย



โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) พบ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส)

บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) พบ บาร์เซโลน่า (สเปน)

อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) พบ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)


รอบรองชนะเลิศ


บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)/แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) พบ โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส)/ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส)

อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)/ ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) พบ อาร์เซน่อล (อังกฤษ)/บาร์เซโลน่า (สเปน)

หมายเหตุ : ทีมแรกเป็นเจ้าบ้านก่อน โดยรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกจะเล่นวันที่ 30-31 มี.ค. นัดสองเล่นวันที่ 6-7 เม.ย. ส่วนรอบรองชนะเลิศ นัดแรกเล่นวันที่ 20-21 เม.ย. นัดสองเล่นวันที่ 27-28 เม.ย. นี้

วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553

ฮัลล์10ตัว!โดนปืนโป้งทดเจ็บ2-1





"ปืนใหญ่" ต้องลุ้นเหนื่อยกว่าจะมาได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บ 2-1 พร้อมกับทำแต้มทาบจ่าฝูงเชลซี แต่ลูกได้เสียเป็นรองเลยต้องนั่งรองจ่าฝูง





ฮัลล์ 1 - อาร์เซน่อล 2

อีกคู่ที่เคซี สเตเดี้ยม ฮัลล์ซึ่งบุกไปโดนเอฟเวอร์ตันต้อนยับ 5-1 เมื่อนัดก่อนได้กลับมาเล่นในถ้ำเสือแต่เจองานหินต้อนรับการมาเยือนของอาร์เซน่อลที่เปิดรังบอมบ์ปอร์โต้กระเจิง 5-0 ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก

เกมนี้เจ้าบ้านเลือกใช้งานจิมมี่ บูลลาร์ดเป็นตัวจริง ขณะที่นิค บาร์มบี้ซึ่งมีปัญหาทะเลาะกันถูกดร็อปไปนั่งข้างสนาม

ด้านทีมเยือนปราศจากเชส ฟาเบรกาสที่ยังไม่สมบูรณ์ อีกทั้งอเล็กซ์ ซงติดโทษแบนจึงถูกแทนที่โดยเดนิลสันเช่นเดียวกับเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ที่ลงบู๊แทนโมทัส โรซิชกี้ซึชซึ่งเจ็บขาหนีบ

เริ่มดวลกันมาได้แค่ 14 นาที เดอะ ไทเกอร์สก็โดนสอยตาข่ายในจังหวะที่อังเดร อาร์ชาวินโชว์ความเหนือลากบอลแหวกสองตัวประกบทั้งจอร์จ บัวเต็งและแบร์กนาร์ เมนดี้เข้าเขตโทษดื้อๆไปซัดผ่านโบอาซ มายฮิลล์พาทีมปืนใหญ่ออกนำ 1-0

เจ้าถิ่นสลัดความผิดหวังทิ้งกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ และถึงนาทีที่ 28 ก็มีเฮงจากจังหวะที่บูลลาร์เปิดบอลยาวแล้วดีน มาร์นีย์ดีดเข้าเขตโทษอีกทอดโดยแยน เฟเนกอร์ ออฟ เฮลเซลิงก์ล้ำหน้าแต่ไม่มีธงยก โซล แคมป์เบลล์จึงวิ่งกลับไปกระแทกหอกดัตช์ล้มทำให้ผู้ตัดสินชี้นิ้วไปที่จุดโทษพร้อมทั้งมอบใบเหลืองให้กองหลังปืนใหญ่ก่อนที่บูลลาร์ดจะสังหารไม่พลาดพาฮัลล์ตีเสมอ 1-1

เท่านั้นเอง เดอะ กันเนอร์สก็ลุยแหลก และถึงนาทีที่ 39 แอนดี้ ดอว์สันก็โดนจดชื่อเมื่อเข้าเสียบเดนิลสันช้า จากนั้นอีกนาทีเดียวนิคลาส เบนด์เนอร์ก็มีปัญหากระทบกระทั่งกับบัวเต็ง ผู้ตัดสินจึงแจกใบเหลืองให้ทั้งคู่

และในที่สุดช่วงทดเวลาเจ็บ บัวเต็งก็ไปยกเท้าสูงยันใส่บาการี่ ซาญ่าจึงได้ใบเหลืองเพิ่มกลายเป็นใบแดงตามระเบียบก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะจบลงด้วยผลเสมอ 1-1

ครึ่งหลังฮัลล์เดินเกมรุกสู้แม้จะเหลือแค่สิบคน แต่ถึงนาทีที่ 51 คามิล ซายัตเต้ก็เจ็บจากจังหวะปั๊มบอลกับแคมป์เบลล์ และแม้จะพยามยามกลับมาเล่นต่อ แต่ก็ไม่ไหวต้องหามลงเปลออกไปในอีกห้านาทีต่อมาโดยมีเลียม คูเปอร์ได้เสียบแทน

ทำไปทำมา อาร์เซน่อลกลับอาศัยความได้เปรียบในเรื่องจำนวนผู้เล่นกดดันฮัลล์ไม่ได้เลย ทำให้ต้องเปลี่ยนเอบูเอ้ออกในนาทีที่ 66 โดยมีธีโอ วัลค็อตต์ได้ลงมาแทน

จากนั้นแค่อึดใจเดียว วัลค็อตต์ก็รับบอลจากเบนด์เนอร์พร้อมทั้งควบขึ้นกราบขวาไปจ่ายเข้าเขตโทษ แม้ซามีร์ นาสรี่จะจับหลุดเท้า บอลก็ยังหลุดไปเข้าทางปืนอาร์ชาวินที่เสาไกล ทว่าดาวเตะหมีขาวซัลโวเต็มแรงจาก 12 หลาชนิดไม่มีใครประกบออกนอกกรอบไปเป็นกิโล

นับจากนั้น เกมก็ตกเป็นของทีมเยือนอย่างสิ้นเชิง บีบให้เสือโคร่งต้องเตะทิ้งเตะขว้างออกจากพื้นที่อันตรายโดยตลอด กระทั่งนาทีที่ 73 เจ้าถิ่นก็เปลี่ยนริชาร์ด การ์เซียลงไปแทนเฟเนกอร์ ออฟ เฮลเซลิงก์

ด้านทีมจากเมืองกรุงส่งเอดูอาร์โด้ ดา ซิลวาลงไปแทนนาสรี่ในนาทีที่ 76 และน่าจะได้เฮในอีกสี่นาทีให้หลังจากจังหวะที่อาร์ชาวินเลื้อยตะบึงขึ้นมาจนถึงหน้าเขตโทษแล้วป้ายออกทางขวาให้วัลค็อตต์ปาดเข้ามาหน้าปากประตูอีกที แต่เบนด์เนอร์เข่นเหน่งๆจาก 12 หลาไปติดบล็อคของคูเปอร์

นาทีที่ 83 ฮัลล์เลือกใช้บริการเควิน คิลบานแทนโจซี่ อัลติดอร์ และช่วยกันตั้งรับได้ดีกระทั่งนาทีที่ 92 ของการทดเวลาบาดเจ็บทั้งหมดหกนาที กาแอล กลิชี่ก็ลุยขึ้นมากระทุ้งจาก 18 หลาถูกมายฮิลล์รับเข้าซองได้

อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาเดนิลสันก็ลองตะบันจาก 30 หลาเต็มข้อทำเอามายฮิลล์ต้องทุบออกมา และเป็นเบนด์เนอร์ที่เข้าซ้ำจาก 12 หลาพาเดอะ กันเนอร์สนำ 2-1

ช่วงที่เหลือเจ้าบ้านพยายามฮึดสู้ แต่ก็ไม่ทันกาลซะแล้ว จบเกมอาร์เซน่อลจึงซิวสามแต้มกลับบ้านด้วยชัยชนะ 2-1 กระโดดแซงนำแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นรองจ่าฝูงชั่วคราวโดยมีแต้มเท่าเชลซีแต่ประตูได้เสียเป็นรอง

วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปืนไร้เชส!เบนท์ฮอตคู่ชาร์วินบุกถ้ำเสือ





"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ยังคงไม่มี เชส ฟาเบรกาส จอมทัพกัปตันทีม ที่ยังมีอาการบาดเจ็บไม่สามารถลงสนามได้ ในเกมที่จะบุกไปเยือน ฮัลล์ ซิตี้ ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คืนนี้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2553
ฮัลล์ - อาร์เซน่อล


สนาม : เคซี สเตเดี้ยม



ฟิล บราวน์ กุนซือ เดอะ ไทเกอร์ส จะได้ เคร็ก เฟแกน พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว แถม โจวานนี่ ก็หายเจ็บเข่า ฟิตพร้อมลงตัวจริงแล้วด้วย ทำให้ บราวน์ ต้องคิดหนักกับการจัดแนวรุกเกมนี้

แนวรับไม่มี แอนโธนี่ การ์ดเนอร์ ที่เจ็บข้อเท้า ต้องพักประมาณ 6 สัปดาห์ ขณะที่ สตีเฟ่น ฮันท์ กับ ดีน มาร์นี่ย์ สองกองกลางต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเกมนี้

ระบบการเล่น 4-4-1-1 โบซ มายฮิลล์ ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ พอล แม็คเชน, สตีเว่น มูโยโคโล่, คามิล ซายัตเต้, แอนดี้ ดอว์สัน แดนกลางมี เคร็ก เฟแกน, จิมมี่ บุลลาร์ด, จอร์จ บัวเต็ง, ทอม แคร์นี่ย์ แนวรุกมี โจวานนี่ เป็นหน้าต่ำ อาเมอร์ ซากี้ เป็นหน้าเป้า

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส ยังคงไม่มี เชส ฟาเบรกาส จอมทัพกัปตันทีมต่อไปอีกนัด เพราะยังเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเหมือนที่พลาดลงเล่นในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ถล่ม ปอร์โต้ 5-0 เมื่อวันอังคาร

โทมัส โรซิชกี้ ก็มีอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ บาการี่ ซานย่า ที่เจ็บข้อเท้าด้วย ขณะที่ โซล แคมป์เบลล์ ซึ่งเป็นตะคริวจากเกมเมื่อกลางสัปดาห์ คาดว่าจะพร้อมลงเล่นไม่มีปัญหา

อเล็กซ์ ซง กลับมาติดโทษแบนเกมลีกเป็นนัดที่สอง ขณะที่ วิลเลี่ยม กัลลาส (น่อง), อารอน แรมซี่ย์ (ขาหัก), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ข้อเท้า) และ โยฮัน ฌูรู (เข่า) บาดเจ็บทั้งหมด

ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน บาการี่ ซานย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิกาแอล ซิลแวสต์, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ นิคลาส เบนท์เนอร์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ฮัลล์ : โบซ มายฮิลล์ - พอล แม็คเชน, สตีเว่น มูโยโคโล่, คามิล ซายัตเต้, แอนดี้ ดอว์สัน - เคร็ก เฟแกน, จิมมี่ บุลลาร์ด, จอร์จ บัวเต็ง, ทอม แคร์นี่ย์ - โจวานนี่ - อาเมอร์ ซากี้

อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิกาแอล ซิลแวสต์, กาแอล กลิชี่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, นิคลาส เบนท์เนอร์

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์


เวนเกอร์คอนเฟิร์ม! เชสยังชวดเกมบุกฮัลล์



อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล เปิดเผยว่า เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมคนเก่ง คงจะไม่ได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก นัดบุกไปเยือนฮัลล์ ซิตี้ วันเสาร์ที่ 20 มี.ค. นี้ หลังยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าตั้งแต่แมตช์ชนะเบิร์นลี่ย์ 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้พลาดเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไล่ถล่มเอฟซี ปอร์โต้ จากโปรตุเกส 5-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

นอกจากนี้ เวนเกอร์ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บอีกหลายราย อาทิ โทมัส โรซิชกี้ กองกลางทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ที่มีอาการโคนขาหนีบตึง และ บาการี่ ซาญ่า แบ็กขวาชาวฝรั่งเศส ที่มีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้า ทำให้ทั้งคู่อาจจะพลาดเกมบุกรังเคซี สเตเดี้ยม เช่นกัน

กุนซือชาวเมืองน้ำหอม กล่าวว่า "เมื่อพิจารณาจากในเวลานี้ เชสจะไม่ได้ลงเล่นในเกมวันเสาร์นี้แน่ โอกาสที่เขาจะได้ลงสนามมีอยู่แค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น นั่นหมายความว่า หากไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เขาคงจะไม่ได้ลงเล่นแน่นอน ขณะเดียวกัน เรายังมีปัญหาให้ต้องกังวลเล็กน้อยกับ โทมัส โรซิชกี้ ที่บาดเจ็บโคนขาหนีบ แต่เราจะเช็กอาการอีกทีในเช้าวันศุกร์นี้"

"ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ยังไม่มีใครกลับมา รวมทั้งเราจะไม่มี อเล็กซ์ ซง ที่ติดโทษแบน ส่วนซาญ่ามีปัญหาที่ข้อเท้า เราจะประเมินเขาอีกที เรารู้ว่า เรามีเวลาอีก 48 ชั่วโมง ในการเตรียมความพร้อมสำหรับเกมนี้ และมันก็จำเป็นจริงๆ" เวนเกอร์ กล่าว


เสือโคตรเซ็ง! บูลลาร์ดฟาดปากบาร์มบี้



ฮัลล์ ซิตี้ และกุนซือฟิล บราวน์ กลับมีเรื่องฉาวโฉ่ให้ปวดหัว เมื่อ เดอะ ซัน แท็บลอยด์เล่มดังเมืองผู้ดี ตีข่าวว่า จิมมี่ บูลลาร์ด มิดฟิลด์คนสำคัญ ก่อเรื่องฟาดปากกับ นิค บาร์มบี้ รุ่นพี่ร่วมทีม ต่อหน้าต่อตาผู้เฒ่าผู้แก่ ระหว่างการซ้อมในสวนสาธารณะ เผย เหม็นขี้หน้ากันมาตั้งแต่เกมแพ้เอฟเวอร์ตันเละเทะ 5-1 แล้ว

ตามข่าวระบุว่า นักเตะฮัลล์ ซิตี้ มาซ้อมกันที่สวนสาธารณะ และเกิดเรื่องไม่คาดฝันระหว่าง บูลลาร์ด กับ บาร์มบี้ ที่สืบเนื่องมาตั้งแต่เกมแพ้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กระจุย 1-5 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งบูลลาร์ดนั้นเรียกความฟิตกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงได้ เช่นเดียวกับบาร์มบี้ที่ได้โอกาสเช่นกัน โดยทั้งคู่ทะเลาะกันตั้งแต่ในห้องแต่งตัวแล้ว และลามปามมาจนวันนี้

พยานที่เห็นเหตุการณ์เผยว่า "มันค่อนข้างฉาวโฉ่เลยทีเดียว ที่นั่นมีคนชราเยอะแยะ บางคนมีพยาบาลมาช่วยพาเดิน และพวกเขาคิดว่ามีพวกนักเลงตีกัน และมีคนนึงที่ตะโกนให้เรียกตำรวจ พวกเขากำลังซ้อมกันอยู่ในสวนสาธารณะตอนที่บาร์มบี้หาเรื่องบูลลาร์ดด้วยการเรียกเขาว่าไอ้คนขี้เกียจ"

"บูลลาร์ดพับแขนเสื้อ และพูดว่า "นี่มาเคลียร์กันหน่อยสิ" ซึ่ง บาร์มบี้ ตอบไปว่า "อย่าทำตัวงี่เง่าน่า โตๆ กันแล้ว" แต่บูลลาร์ดผลักเขา เท่านั้นแหละเหตุการณ์ชุลมุนก็เกิดขึ้น และพวกนักเตะคนอื่นๆ ต้องมาแยกพวกเขาออกจากกัน"

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปืนรัวยิง5-0!เบนท์เนอร์กด3ฉลุย8ทีม




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านไล่ถล่ม เอฟซี ปอร์โต้ 4-0 รวมผลสองนัด พลิกกลับมาเอาชนะ 5-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา


ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมนัดสอง
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 5 - 0 เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
(รวมผลสองนัด อาร์เซน่อล เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-2)


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม



อาร์เซน่อลบุกไปพลาดท่าแพ้มา 1-2 ในนัดก่อน และเกมนี้ไม่มีเชส ฟาเบรกาสซึ่งบาดเจ็บ ปลอกแขนกัปตันจึงตกอยู่กับมานูเอล อัลมูเนีย ขณะที่ธีโอ วัลค็อตต์มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง

ด้านเอฟซี ปอร์โต้ซึ่งผลงานในนัดเยือนเมืองผู้ดีย่ำแย่แม้จะปราศจากแฟร์นานโด แต่ก็ส่งคีย์แมนที่ได้พักในเกมลีกนัดล่าสุดหลายชีวิตลงบู๊ครบครันโดยเฉพาะกองหน้าฮัลค์ที่ถูกแบนในลีกฝอยทองสี่เดือน

หลังได้เริ่มเขี่ยบอล อาร์เซน่อลก็เปิดฉากลุยทันที และได้เสียวในนาทีที่ 7 เมื่อซามีร์ นาสรี่ทำชิ่งกับโธมัส โรซิชกี้จนกองกลางฝรั่งเศสหลุดไปเข่นในกรอบเขตโทษระยะ 10 หลา แต่ถูกแผงหลังทีมเยือนเข้าบล็อคได้ทัน

ถัดมาอีกสองนาที แฟนปืนโตก็ต้องกุมศีรษะด้วยความเสียดายเมื่อบาการี่ ซาญ่าเปิดลูกยาวจากกราบขวาไปเสาไกลให้อังเดร อาร์ชาวินโถมโขกระยะหกหลา ทว่าเอลตันปัดทิ้งได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 10 เจ้าบ้านก็คลำเป้าจนได้เมื่อนาสรี่ไหลบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษ แม้อาร์ชาวินจะสปีดเข้าชาร์จถูกบล็อคได้ แต่เอลตันก็ออกมาชนกับฟูซิเล่พอดี จึงเปิดทางให้นิคลาส เบนด์เนอร์เข้าเก็บตกส่งบอลจาก 12 หลาเข้าประตูพาอาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0

สถานการณ์ของเอฟซี ปอร์โต้ยังไม่สู้ดี และนาทีที่ 18 จากลูกเตะมุมด้านขวาของปืนใหญ่ อาบู ดิยาบี้ก็ได้วอลเลย์จาก 15 หลา แต่จังหวะไม่ดีพอบอลจึงโด่งข้ามคาน

จากนั้นในนาทีที่ 23 ฟัลเกาไปเข้ารวบอเล็กซ์ ซงแถวกลางสนามจึงได้ใบเหลือง แถมอีกสองนาทีต่อมา กองหลังอาคันตุกะก็พลาดง่ายๆจ่ายบอลในแดนตัวเองไปเข้าทางอาร์ชาวินเลยถูกสตาร์รัสเซียโชว์ความสามารถเฉพาะตัวแหวกด่านแนวรับปอร์โต้จนหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะป้ายบอลมาหน้าประตูให้เบนด์เนอร์เข้าชาร์จสบายบรื๋อจากสี่หลาพาเดอะ กันเนอร์สหนีห่าง 2-0

อาร์เซน่อลยังเดินหน้าเอาใจสาวกต่อ และนาทีที่ 32 นาสรี่ก็ลากบอลขึ้นกราบซ้ายไปทำชิ่งกับดิยาบี้จนหลุดไปถึงเส้นหลังก่อนจะจ่ายบอลทะลุไปเสาไกล แต่อาร์ชาวินเข้าซัดระยะ 15 หลาโด่งออกไปอย่างน่าเสียดาย

เข้าสู่นาทีที่ 38 โธมัส แฟร์มาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าบ้านก็รับใบเหลืองข้อหาเข้าสอยฟัลเกา

กระทั่งนาทีที่ 42 เบนด์เนอร์ก็หวังทำแฮททริค จึงลองตั้งป้อมซัดลูกโค้งจากหน้าเขตโทษกระดอนตกพื้นพุ่งเข้าหาเสาไกล ถูกเอลตันทะยานไปปัดได้

และจากลูกเตะมุมด้านขวาหนนี้ของทีมปืนใหญ่ ดิยาบี้ก็ขวิดจากระยะ 12 หลา แต่บอลพุ่งไปชนโคนเสาแรกกระดอนออกมา ก่อนที่เบนด์เนอร์จะรับใบเหลืองในนาทีที่ 44 จากจังหวะเสียบใส่ฟูซิเล่

เข้าสู่ช่วงทดเวลาเจ็บ อาร์เซน่อลยังไม่ยอมเพลาเกมรุก และมีเสียวอีกเมื่อโรซิชกี้เคาะบอลจากกราบขวาขวางสั้นๆมาให้นาสรี่สับไกจากหน้าเขตโทษ ทำเอาเอลตันต้องออกแรงพุ่งไปปัดอีก จบครึ่งแรกเจ้าบ้านจึงนำหน้า 2-0

ครึ่งหลัง ทีมจากลีกฝอยทองเปลี่ยนคริสเตียน โรดริเกซลงไปแทนนูโน่ โคเอลโญ่ และขึ้นเกมรุกได้ดีขึ้นกระทั่งมีโอกาสในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ฟัลเกาได้ลูกผ่านจากกราบซ้ายเข้าเข่นระยะ 14 หลาถูกอัลมูเนียเซฟได้

กระนั้นนาทีที่ 57 เจ้าบ้านก็เกือบทิ้งห่างเมื่อกองหลังปอร์โต้โขกสกัดลูกฟรีคิกด้านขวาออกมาเข้าทางปืนให้อาร์ชาวินพักอกแล้วตะบันเต็มข้อจากริมเขตโทษด้านซ้าย แต่เอลตันยังตะครุบได้ทัน

ถัดจากนั้นอาร์เซน่อลก็ส่งเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ลงไปแทนโรซิชกี้ และถึงนาทีที่ 60 อัลวาโร่ เปไรร่าก็โดนจดชื่อจากการทำฟาวล์

ขยับมาอีกสองนาที ทีมเยือนได้เตะมุมด้านขวาแล้วโรลันโด้โดดโขกไปให้นาสรี่ที่คุมเสาอยู่สกัดได้อย่างเฉียดฉิว

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 63 ทีมเจ้าบ้านก็ได้เฮอีกเมื่อนาสรี่โชว์ลีลาเลื้อยหนีสามกองหลังเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะกดตูมจากมุมแคบแฉลบขาเอลตันทะลักไปชนเสาไกลเข้าประตูเพิ่มสกอร์ให้ทีมลอนดอนนำเป็น 3-0

เท่านั้นไม่พอ ล่วงมาอีกสามนาทีอาร์ชาวินก็แทงบอลให้เอบูเอ้หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปแตะหลบเอลตันได้ก่อนจะซัดมุมแคบไม่เหลือ จึงเป็นอันว่าทีมเมืองผู้ดีหนีห่างเป็น 4-0

นาทีที่ 73 ทีมปืนใหญ่เปลี่ยนนาสรี่ออกให้เดนิลสันลงไปเสียบแทน และอีกสองนาทีต่อมาอาร์ชาวินก็โดนเปลี่ยนออกให้วัลค็อตต์ลงสนาม

พร้อมกันนี้ทีมเยือนก็ใช้งานเฟร็ดดี้ กวารินกับมาเรียโน่ กอนซาเลซแทนซิลแวสตร์ วาเรล่ากับรูเบน มิเชล

เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดท้าย จากการยิงลูกโทษของ นิคลาส เบนท์เนอร์ และก็เป็นแฮตทริกของเจ้าตัว จบเกม อาร์เซน่อล ถล่ม ปอร์โต้ขาดลอย 5-0 เข้ารอบสบายด้วยสกอร์รวม 6-2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล: มานูเอล อัลมูเนีย (กัปตันทีม) - บาการี่ ซาญ่า, โซล แคมป์เบลล์, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ - อเล็กซ์ ซง - ซามีร์ นาสรี่, อาบู ดิยาบี้ - โทมัส โรซิคกี้, อังเดร อาร์ชาวิน - นิคลาส เบนท์เนอร์

สำรอง: ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู) - มิกาแอล ซิลแวสตร์, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่, เดนิลสัน, ธีโอ วัลค็อตต์, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

เอฟซี ปอร์โต้: เฮลตัน - ฮอร์เก้ ฟูซิเล่, โรลานโด้, บรูโน่ อัลเวส, อัลวาโร่ เปเรร่า, นูโน่ โคเอลโญ่, รูเบน มิชาเอล, ราอูล เมยเรเลส - ซิลเวสเตร้ วาเรล่า, ฮัลค์ - ราดาเมล ฟัลเกา

สำรอง: นูโน่ (ผู้รักษาประตู) - เฟรดี้ กวาริน, เฟอร์นานโด เบลลุชชี่, คริสเตียน โรดริเกซ, มาเรียโน่ กอนซาเลซ, ไมค่อน, มิเกล โลเปส

ผู้ตัดสิน: ฟร้องก์ เดอ บลีกแกร์ (เบลเยี่ยม)

จะเอาใครมายิง?




เกิดปัญหาใหญ่ให้อาร์เซน เวนเกอร์ต้องมึนตึบกันเสียแล้ว เมื่อเชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมคนเก่งของเขา ลงเล่นในเกมนัดชี้ชะตากับปอร์โต้ คืนวันอังคารนี้ไม่ได้









จากตอนแรกที่เวนเกอร์บอกว่าเขาอาจจะยอม"เสี่ยง"หรือว่า"เดิมพัน"กับโอกาสเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ ลีกของทีมปืนใหญ่ในคืนนี้ ด้วยการส่งกัปตันทีมคนเก่งของเขาลงสนาม




กลายเป็นว่ากุนซือปืนโตจะต้องไร้กัปตันทีมคนเก่งของเขา อย่างแน่นอนแล้วในเกมนัดชี้ชะตากับปอร์โต้ในค่ำคืนนี้




ฟาเบรกาสได้รับบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า มาจากเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์กับเบิร์นลี่ย์ ซึ่งเวนเกอร์เปลี่ยนตัวเขาออกทันทีตั้งแต่ในน.39 เพื่อหวังที่จะบรรเทาอาการบาดเจ็บให้น้อยลง




จากคำพูดของเวนเกอร์ต่อโอกาสลงสนามของฟาเบรกาส เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กัปตันทีมของเขายังมีโอกาสลงเล่นในเกมนี้เกินกว่า50เปอร์เซนต์ ทำให้แฟนปืนโตยังคงมีความหวังที่จะได้เห็นกัปตันทีมของพวกเขา เดินนำหน้าลูกทีมลงสู่สนาม




สาเหตุเพราะฟาเบรกาสเป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างของอาร์เซน่อลในเวลานี้ ซึ่งสถิติที่มิดฟิลด์จอมทัพชาวสเปนรายนี้ทำเอาไว้ บ่งบอกถึงความสำคัญของที่มีทีมได้อย่างชัดเจน




กับตำแหน่งมิดฟิลด์ ฟาเบรกาสทำประตูได้ในฤดูกาลนี้ไปแล้วถึง 14ประตู




และตัวเลขที่สำคัญอีกอย่างคือ เขาเป็นคนที่เปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้อีกถึง15ลูก!




เมื่อนำตัวเลขทั้งสองอย่างมารวมกันแล้ว นั่นหมายความว่าฟาเบรกาสมีส่วนต่อการได้ประตูของทีมในฤดูกาลนี้ร่วม30ประตู



ใครที่ได้เห็นผลงานของฟาเบรกาสในฤดูกาลนี้ ต้องบอกว่าเขากำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม และเล่นได้เกินอายุ22ของเขา




และที่สำคัญเขามักจะเป็นคนทำประตูสำคัญๆ ที่ทีมกำลังต้องการได้อยู่เสมอ




ดังนั้นในเกมกับปอร์โต้ซึ่งอาร์เซน่อลจำเป็นต้องยิงประตูให้ได้ เพื่อพลิกสถานการณ์จากที่เป็นฝ่ายออกไปพ่ายมาในเกมแรก2-1 นักเตะอย่างฟาเบรกาสจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง




แต่เมื่อไม่มีเงาของจอมทัพในสนามคืนนี้อย่างแน่นอนแล้ว จึงเป็นปัญหาใหญ่ของเวนเกอร์ที่ว่าจะหวังพึ่งใครในการทำประตู




ถ้าใครเห็นฟอร์มการเล่นของ นิคลาส เบนท์เนอร์ในเกมกับเบิร์นลี่ย์ คงต้องกาชื่อของหัวหอกเดนมาร์กรายนี้ออกไปเลย เพราะเกมนั้นโอกาสของเขามีมากถึงขนาดน่าจะทำแฮตทริกได้ แต่สุดท้ายต้องโดนเปลี่ยนตัวออก เพราะยิงทิ้งยิงกว้างไปหมด




ส่วนรายอื่นๆผมว่ายังไว้ใจใครไม่ได้สักราย ไม่ว่าจะเป็นธีโอ วัลค็อตต์ที่ก็ใช้โอกาสเปลืองไม่แพ้กัน ก่อนที่จะยิงได้แค่ลูกเดียว จากโอกาสที่มีไม่ได้น้อยไปกว่าเบนท์เนอร์เลย




เช่นเดียวกับตัวรุกรายอื่นๆอย่าง ซามีร์ นาสรี่ หรือโทมัส โรซิคกี้ ที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้เหมือนกัน




ดังนั้นคนเดียวที่น่าจะเป็นที่พึ่งของสาวกเดอะ กันเนอร์สในคืนนี้ก็คือ อังเดร อาร์ชาวินที่เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้พอดีในเกมกับเบิร์นลี่ย์




ต้องบอกว่าทีมปืนใหญ่ยังโชคดีตรงที่อาร์ชาวินกลับมาลงสนามได้ทันเวลา เพราะถ้าพูดถึงความชัวร์ในการทำประตู ต้องบอกว่ามิดฟิลด์รายนี้ก็ไม่ได้เป็นรองฟาเบรกาสแต่อย่างใด




จอมเทคนิครัสเซียถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่61 และมาทำประตูปิดท้ายของเกมได้ในช่วงท้ายเกม จึงถือเป็นนักเตะที่ดูจะไว้เนื่อเชื่อใจได้มากที่สุดของทีมปืนใหญ่ ในเรื่องของการทำประตูสำหรับเกมคืนนี้




แต่ตัวคนเดียวอย่างอาร์ชาวิน จะช่วยให้อาร์เซน่อลผ่านด่านปอร์โต้ไปได้หรือไม่ เห็นทีว่าสาวกปืนโตคงต้องตามลุ้นกันหนักอย่างแน่นอน!

อาร์เซน่อล-เอฟซี ปอร์โต้ ปืนไร้เชสชี้ชะตาปอร์โต้





"ปืนโต" อาร์เซน่อลจะไร้ เชส ฟาเบรกาส ที่เจ็บซ้ำบริเวณเอ็นหลังหัวเข่า แต่ อังเดร อาร์ชาวิน จะกลับมาเป็นตัวจริงในเกมรับมือ เอฟซี ปอร์โต้




ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2009/10
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง
วันอังคารที่ 9 มีนาคม 2553
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) - เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
(ผลนัดแรก เอฟซี ปอร์โต้ ชนะ อาร์เซน่อล 2-1)
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล เพิ่งลงเตะเกมพรีเมียร์ลีกมาเมื่อวันเสาร์ โดยเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 และสำหรับเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดนี้ก็ต้องการชัยชนะเหนือ เอฟซี ปอร์โต้ อีกเช่นกัน และต้องการ 1-0 เป็นอย่างน้อยเพื่อเข้ารอบด้วยอะเวย์โกล

ทว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล จะไม่สามารถใช้งาน เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีมคนสำคัญ ในเกมวันอังคารนี้ได้ หลังเจ็บมาจากเกมลีกนัดล่าสุด

ฟาเบรกาส เจ็บซ้ำบริเวณเอ็นหลังหัวเข่า ซึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อตอนต้นซีซั่นนัดพบ แอสตัน วิลล่า และทำให้ต้องพักแข้งยาวพอสมควรในตอนนั้น และแม้ว่า เวนเกอร์ จะให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ว่า จะขอลองเสี่ยงส่ง ฟาเบรกาส ลงสนาม แต่ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่า กัปตันทีมปืนโตไม่ฟิตพอลงช่วยทีมได้ในเกมนี้

เวนเกอร์ ต้องเลือกสลับนักเตะมาลงเล่นแทนตำแหน่งของกัปตันทีมชาวสแปนิช ซึ่งน่าจะเป็น อาบู ดิยาบี้ กองกลางฝรั่งเศส ได้โอกาสเสียบแทนที่

เวนเกอร์ ยังเสีย อารอน แรมซี่ย์ กลางดาวรุ่งเวลช์ ที่ขาหักปิดฉากฤดูกาลนี้ไปก่อนเพื่อนแล้ว แต่ในราย อเล็กซ์ ซง กองกลางแคเมอรูน จะพ้นโทษแบนในประเทศ ลงเล่นได้ในเกมยุโรป

โซล แคมป์เบลล์ ปราการหลังอดีตทีมชาติอังกฤษ ร่วมซ้อมมื้อล่าสุดกับต้นสังกัดแล้ว หลังจากบาดเจ็บโคนขาหนีบไปก่อนหน้านี้ และสามารถลงสนามวันอังคารนี้ได้

บาการี่ ซานย่า แบ็กขวาฝรั่งเศส ได้พักไม่ต้องเล่นเกมกับเบิร์นลี่ย์ และน่าจะกลับมายึดตัวจริงคืนในเกมนี้

อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ ยังขาด วิลเลี่ยม กัลลาส ที่เจ็บน่อง, คีแรน กิ๊บส์ กระดูกเท้าแตก, โรบิน ฟาน เพอร์ซ๊ ข้อเท้าพัง และ โยฮัน ฌูรู เจ็บเข่า

ระบบ 4-2-3-1 มานูเอล อัลมูเนีย เฝ้าเสา แนวรับมี บาการี่ ซานย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, โซล แคมป์เบลล์, กาแอล กลิชี่ กลางรับใช้ เดนิลสัน กับ อเล็กซ์ ซง ขยับขึ้นไปเป็น ธีโอ วัลค็อตต์, อาบู ดิยาบี้, อังเดร อาร์ชาวิน ส่วนหน้าเป้าเป็น นิคลาส เบนท์เนอร์

ด้าน เอฟซี ปอร์โต้ ของ เชซูอัลโด้ แฟร์เรยร่า รั้งอันดับ 3 ในลีกโปรตุเกสเวลานี้ โดยผลงานล่าสุดคือการเสมอกับ โอลฮาเนนเซ่ 2-2

ในเกมล่าสุด แฟร์เรยร่า สั่งพักตัวหลักๆ หลายรายทีเดียว ซึ่งรวมถึงกองกลาง ราอูล เมยเรเลส และเซนเตอร์แบ๊ก โรลันโด้ เพราะหวังให้สดเต็มที่สำหรับเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

แฟร์นานโด กองกลางตัวรับหมดสิทธิ์แน่นอน เพราะมีอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขาซ้าย นอกจากนี้ เออร์เนสโต้ ฟารีอาส (หัวเข่า), คริสเตียน โรดริเกวซ (ต้นขา) และ ออร์ลันโด้ ซา (หัวเข่า) ก็ไม่พร้อมเป็นตัวเลือก เช่นเดียวกับ ดีเอโก้ วาเลรี่ ที่ไม่สามารถเล่นถ้วยนี้ได้

เชื่อว่า แฟร์เรยร่า จะยึดเอาตัวหลักๆ จากชุดที่เอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1 ในนัดแรกเป็นแกนหลักต่อไป นำโดยสามประสานในแดนหน้าอย่าง จิวานิลโด้ เดอ ซูซ่า "ฮัลค์" ดาวยิงร่างยักษ์ชาวบราซิเลี่ยน, มาเรียโน่ กอนซาเลซ และ รามาเดล ฟัลเกา ดาวซัลโวที่กดไป 21 ประตูในฤดูกาลนี้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : มานูเอล อัลมูเนีย - บาการี่ ซานย่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, โซล แคมป์เบลล์, กาแอล กลิชี่ - เดนิลสัน, อเล็กซ์ ซง - ธีโอ วัลค็อตต์, อาบู ดิยาบี้, อังเดร อาร์ชาวิน - นิคลาส เบนท์เนอร์
เอฟซี ปอร์โต้ (4-3-3) : เฮลตัน - จอร์จ ฟูซิเล่, โรลันโด้, บรูโน่ อัลเวส, อัลวาโร่ เปเรยร่า - แฟร์นานโด เบลลุสชี่, โทมาส คอสต้า, ราอูล เมยเรเลส - จิวานิลโด้ เดอ ซูซ่า "ฮัลค์", รามาเดล ฟัลเกา, มาเรียโน่ กอนซาเลซ
ผู้ตัดสิน : แฟร้งค์ เดอ บลีคแกร์ (เบลเยียม)

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

ปืนอัดเบิร์นลี่ย์กระจาย3-1ขึ้นทาบเชลซี





ประตูสำหรับแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่ายังเปิดกว้างพอกับทุกทีม โดยล่าสุด อาร์เซน่อล กลายเป็นอีกหนึ่งผู้ท้าชิงเต็มตัว เมื่อพวกเขาจัดการเปิดบ้านเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 เก็บสามแต้มพร้อมกับขึ้นเป็นรองจ่าฝูงมีแต้มเท่ากับ เชลซี ที่ 61 คะแนนเข้าให้แล้ว






ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ


วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 2553


อาร์เซน่อล 3 - 1 เบิร์นลี่ย์

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม



ปืนใหญ่ไม่มี อเล็กซ์ ซง ที่ติดโทษแบน กับ อารอน แรมซี่ย์ ที่บาดเจ็บหนัก แต่ได้ เดนิลสัน ฟิตกลับมาคุมแดนกลาง ส่วนแนวรุก อังเดร อาร์ชาวิน ฟิตกลับมาเป็นแค่สำรอง นิคลาส เบนท์เนอร์ จึงต้องรับบทหนักในแดนหน้า

ด้านทีมเยือนได้ เกรแฮม อเล็กซานเดอร์ กัปตันทีมหายเจ็บกลับคืนสนาม ขณะที่แดนหน้าไม่มี สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ ที่กระดูกมือแตก ทำให้ เดวิด นิวเจนท์ กลับมาเป็นตัวจริงคู่ มาร์ติน พาเตอร์สัน

เริ่มเกมขึ้นมาแค่ 3 นาที ปืนใหญ่น่าได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เชส ฟาเบรกาส ชิพบอลให้ นิคลาส เบนท์เนอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ไบรอัน เยนเซ่น แล้ว แต่กว่าจะง้างเท้ายิง ถูกกองหลังเบิร์นลี่ย์แหย่สกัดออกไปได้ก่อน

นาทีถัดมา ยังเป็นจังหวะเสียวๆ ของเจ้าบ้าน โทมัส โรซิชกี้ เก็บตกจากลูกเตะมุม แล้ววอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้ายจากหน้ากรอบโทษ บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

อาร์เซน่อลครองบอลบุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่หลายจังหวะที่ขึ้นเกมรุกทางขวา ธีโอ วัลค็อตต์ หลุดถึงเส้นหลัง แต่เปิดบอลไม่เข้าเป้าหมายเลย

หลังจากนั้น มีจังหวะปะทะหนักๆ ของ ซามีร์ นาสรี่ กับ ไบรอัน เยนเซ่น ให้แฟนบอลได้หวาดเสียว แต่หลังจากปฐมพยาบาลแล้ว ทั้งคู่ก็กลับมาเล่นต่อได้

ในที่สุด เจ้าถิ่นก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 34 เชส ฟาเบรกาส ได้บอลนอกเขตโทษ จ่ายให้ ซามีร์ นาสรี่ แล้วนาสรี่ก็ชิพเข้าไปในเขตโทษคืนให้ฟาเบรกาสที่วิ่งทะลุเข้าไปไม่ล้ำหน้า ก่อนแปด้วยขวาจังหวะเดียวลอดขา เยนเซ่น ตุงตาข่ายง่ายๆ

นาทีที่ 39 ปืนใหญ่ ต้องเจอปัญหาเสียแล้ว เมื่อ เชส ฟาเบรกาส บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง อาบู ดิยาบี้ ลงแทน จบครึ่งแรก อาร์เซน่อลนำ 1-0

เริ่มครึ่งหลังมานาทีเดียว อาร์เซน่อลเกือบได้ประตู ธีโอ วัลค็อตต์ เปิดจากริมเขตโทษด้านขวาไปให้เบนท์เนอร์โขกโล่งๆ ที่เสาสอง แต่บอลเฉี่ยวเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.48 อาร์เซน่อลอีก วัลค็อตต์ตบบอลจากเกือบสุดเส้นหลัง กลับมาให้เบนท์เนอร์ตามเข้าชาร์จเผาขน แต่บอลยังข้ามคานไปเหมือนเดิม

แต่นาทีถัดมาเบิร์นลี่ย์ตามตีเสมอเป็น 1-1 ลีออน คอร์ต โหม่งบอลย้อนกลับมาหน้าประตุให้ เดวิด นิวเจนท์ หลุดกับดักล้ำหน้าไปกระดกบอลข้ามหัว มานูเอล อัลมูเนีย เข้าประตูไป

อาร์เซน่อลลุยหนักขึ้น น.56 เดนิลสันไหลให้วัลค็อตต์หลุดเดี่ยวไปยิงในเขตโทษ แต่เจนเซ่นปัดออกหลังไปได้

สามนาทีถัดมาอาร์เซน่อลนำ 2-1 เบนท์เนอร์จ่ายบอลให้วัลค็อตต์ ลากบอลตัดมายิงด้วยซ้ายที่หน้าเขตโทษ บอลพุ่งเรียดเข้าประตูไป

อาร์เซน่อลเปลี่ยนตัวทันที ส่งอาร์ชาวินลงมาแทน โทมัส โรซิชกี้

เกมมาถึง น.62 อาร์เซน่อลได้ลุ้นอีก วัลค็อตต์จ่ายบอลให้อาร์ชาวินวิ่งเข้ามายิงในเขตโทษ แต่บอลข้ามคานไป

น.64 วัลค็อตต์ผ่านบอลจากริมเขตโทษด้านขวา มาให้เบนท์เนอร์ยิงโล่งๆ กลางประตู แต่กลับยิงหลุดเสาสองไปเหลือเชื่อ


ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อาร์เซน่อล มาได้ประตูที่สามจนได้เมื่อ อังเดร อาร์ชาวิน ตัวสำรองที่ลงมาแทน เบนท์เนอร์ ได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนยิงยัดเสาแรกให้ ปืนใหญ่ ชนะขาด 3-1 ขึ้นเป็นรองจ่าฝูงเรียบร้อย


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย ; เอ็มมานูแอล เอบูเอ้, มิกาแอล ซิลแวสตร์, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ ; ธีโอ วัลค็อตต์, โทมัส โรซิชกี้, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่ ; นิคลาส เบนท์เนอร์
สำรอง : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, อาบู ดิยาบี้, บาการี่ ซาญ่า, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, อังเดร อาร์ชาวิน, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่, เคร็ก อีสต์มอนด์

เบิร์นลี่ย์ : ไบรอัน เยนเซ่น ; ไทโรน เมียร์ส, คล้าร์ก คาร์ไลส์, ลีออน คอร์ท, แดเนี่ยล ฟ็อกซ์ ; มาร์ติน เพ็ตเตอร์สัน, เกรแฮม อเล็กซานเดอร์, เควิน แม็คโดนัลด์, แจ็ค คอร์ก, คริส อีเกิ้ลส์ ; เดวิด นิวเจนท์
สำรอง : นิคกี้ วีเวอร์, ไมเคิ่ล ดัฟฟ์, เวด เอลเลียตต์, ร็อบบี้ เบล็ค, อ็องเดร บิเกย์, สตีเฟ่น จอร์แดน, สตีเว่น ธอมป์สัน

ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย

วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553

เวนเกอร์ปลื้มฟอร์ม ตี๋ปาร์ค





อาร์เซน เวนเกอร์ ออกมากล่าวชื่นชมกองกลางโสมพลังม้าของ แมนฯยูฯ ปาร์ค จี-ซอง

"ผมรู้ว่านักตะเกาหลีบางคนทำผลงานได้ดีในอังกฤษ และแน่นอนที่สุดมันกระตุ้นให้คุณอยากรู้อยากเห็น" เวนเกอร์กล่าว

"มีนักเตะเอเชียน้อยมากที่เล่นในยุโรป และโดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก แต่คนเกาหลีดูจะปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้ดี"

"ปาร์คเริ่มต้นได้ดีมาก และผมคิดว่าเขาดังมาจาก ไอน์โฮเฟ่น ก่อนแล้ว และในแชมเปี้ยนส์ลีกเขาก็น่าดึงดูด เมื่อคุณต้องเจอกับเขา เขาคือนักเตะที่ทำงานหนักมากๆซึ่งเสียสละเพื่อทีม แต่เขาก็มีทักษะที่ดีและทำประตูสำคัญได้"

"ผมเชื่อในศักยภาพของเขา เขามีทัศนะคติที่ดี"