ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปืนเซ่นชัยเสียเชสก์บุกวีแกน




วีแกน แอธเลติก (18) vs อาร์เซน่อล (3)


สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม
ความจุ : 25,138 ที่นั่ง
ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : C. Richards & B. Smallwood
ผู้ตัดสินที่ 4 : ไมค์ ดีน
นักเตะที่น่าจับตามอง : ฮูโก้ โรดาเยก้า vs เชส ฟาเบรกาส
ผลที่คาด : วีแกน 0:2 อาร์เซน่อล
เวลาเตะ : 02.45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 5 (105)
สภาพอากาศ : มีหิมะตก อุณภูมิ 2°C~5°C ความชื้น 93%
อัตราต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อ 1ลูก-10
ติดโทษแบน : เชส ฟาเบรกาส (อาร์เซน่อล)
บาดเจ็บ : วีแกน>เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, วิคเตอร์ โมเซส, เจมส์ แม็คคาร์ธี่
บาดเจ็บ : อาร์เซน่อล>มานูเอล อัลมูเนีย, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บส์, เอมมานูเอล ฟริมปง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของทั้งสองทีม

วีแกน แอธเลติก ระบบ 4-5-1 : อาลี อัล ฮับซี, รอนนี่ สตัม, แกรี่ คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลการาซ, มายนอร์ ฟิเกรัว, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, เฮนดรี้ โธมัส, จอร์ดี้ โกเมซ, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, ฮูโก้ โรดาเยก้า

อาร์เซน่อล ระบบ 4-3-3 : ลู คัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โยฮัน โฌรู(เซบาสเตียง สกิลลาชี่), กาแอล กลิชี่, อเล็กซ์ ซง, อาบู ดิยาบี้, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่, ธีโอ วัลค็อตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปืนโชว์เหนือ!ตบสิงห์ดิ้น3-1ขึ้นรองฝูง




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มเยี่ยมเปิดรังไล่อัด "สิงห์บลูส์" เชลซี 3-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงอีกครั้ง โดยมีคะแนนตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 53
อาร์เซน่อล 3 - 1 เชลซี


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


ศึกลอนดอน ดาร์บี้ แม็ตช์ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาร์เซน่อลเน้นรุกเต็มที่ส่งทั้งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ , แจ็ค วิลเชียร์ , ธีโอ วัลค็อตต์ และเชส ฟาเบรกาสที่ฟิตสมบูรณ์ลงบู๊เป็นตัวจริงโดยดร็อปมารูอาน ชามักลงไปเป็นตัวสำรอง

พร้อมกันนี้ โยฮัน ฌูรูก็ถูกเลือกลงเล่นในแนวรับก่อนหน้าเซบาสเตียง สกิลลาชี่ซึ่งอยู่ในซุ้มข้างสนามร่วมกับอังเดร อาร์ชาวิน

ด้านเชลซีที่ฟอร์มฝืดอย่างต่อเนื่องไม่ชนะมาหลายเกมได้แฟร้งค์ แลมพาร์ดฟิตลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. แต่นิโกล่าส์ อเนลก้าหลุดโผเนื่องจากเจ็บเข่า

เกมเริ่มต้นโดยเจ้าบ้านเปิดฉากบุกก่อน ทว่าถึงนาทีที่ 6 ดิดิเยร์ ดร็อกบากองหน้าตัวแสบของทีมเยือนก็ทำเอากองเชียร์ท๊อปกันผวาเมื่อพาบอลบุก ขึ้นมาทางขวาแล้วตัดสินใจกดเรียดจาก 20 หลาส่งบอลเฉี่ยวเสาไกลไปแบบได้ลุ้น

แม้จะบุกน้อยกว่า แต่นาทีที่ 15 เชลซีก็โต้แบบได้น้ำได้เนื้ออีกครั้งเมื่อไมเคิ่ล เอสเซียงโยนบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้ดร็อกบาโถมโขกหลุดกรอบออกไป

ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 อาร์เซน่อลได้ลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายระยะ 30 หลาหลังฟลอร็องต์ มาลูด้าทำแฮนด์บอล ซามีร์ นาสรี่จึงวิ่งเข้าซัด แต่ปีเตอร์ เช็กรับได้อย่างไม่ยากเย็น

กระทั่งนาทีที่ 29 ใบเหลืองแรกของเกมก็ตกเป็นของแอชลีย์ โคลอดีตกองหลังปืนใหญ่ในจังหวะรวบวัลค็อตต์ล้มแถวริมสนาม

เกมส่วนใหญ่ตกอยู่ในความครอบครองของเจ้าบ้าน กระนั้นนาทีที่ 33 ฟาน เพอร์ซี่ก็มีใบเหลืองติดตัวเช่นกันข้อหาอัดใส่จอห์น โอบี มิเกลหลังสูญเสียการครองบอล

ถัดมาอีกสองนาที เดอะ กันเนอร์สต่อเกมกันดีโดยฟาเบรกาสป้ายบอลขึ้นหน้าให้นาสรี่ไหลเข้าเขตโทษด้าน ซ้ายอีกทอด แต่ฟาน เพอร์ซี่กดเต็มข้อส่งบอลโด่งข้ามคานชนิดไร้ราคา

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก อาร์เซน่อลกดดันผู้มาเยือนหนักขึ้น และนาทีที่ 39 ซาโลมง กาลูก็รับใบเหลืองในจังหวะกระโดดยันใส่กาแอล กลิชี่น่าเกลียด

นาทีต่อมา เจ้าบ้านได้เสียวอีกหน คราวนี้เป็นวัลค็อตต์ที่หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านจากเส้น หลังไปที่เสาแรก แต่เช็กขยับมาบล็อคได้

จากนั้นในนาทีที่ 41 ทีมท๊อปกันก็พลาดขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อบาการี่ ซาญ่าจ่ายบอลจากกราบขวาเข้ามาตรงกลางให้นาสรี่ชิพจาก 20 หลา ถูกเช็กถลันกลับไปสปริงตัวปัดพ้นคานได้ทัน

กระนั้นก็ดี นาทีที่ 44 แฟนเจ้าบ้านก็ได้ระเบิดเสียงไชโยจนได้เมื่ออเล็กซ์ ซงพาบอลบุกขึ้นมาจ่ายให้วิลเชียร์ไหลเข้าเขตโทษแล้วฟาเบรกาสโดนเปาโล แฟร์ไรร่าตามไปดักล้ม แต่ซงไม่รอให้สิงห์เชิ้ตดำเป่าเป็นลูกโทษ วิ่งเข้าเก็บตกระยะ 10 หลาตุงตาข่ายพาปืนใหญ่นำ 1-0 ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะสิ้นสุดลงไป

ครึ่งหลังสิงห์บลูส์แก้ลำด้วยการเปลี่ยนมิเกลออกให้รามิเรซลงไปแทน แต่อาร์เซน่อลไม่สนใจสำแดงความดุดันโจมตีต่อเนื่องอย่างบ้าคลั่ง

และในที่สุดนาทีที่ 51 สิงโตน้ำเงินครามก็โดนกระตุกหนวดอีกเมื่อฟาน เพอร์ซี่รับลูกแทงยาวจากแดนกลางแล้วพลิกจ่ายออกทางขวาให้วัลค็อตต์หลุดเข้า เขตโทษไปแตะหลบเช็คที่ขยับออกมาปิดมุม ก่อนที่ฟาเบรกาสจะปรี่เข้าเช็คบิลนิ่มๆระยะ 14 หลาทำให้เจ้าบ้านนำเพิ่มเป็น 2-0

เท่านั้นไม่พอ อีกสองนาทีต่อมา แนวรับเชลซีก็ก่อความผิดพลาดอีกโดยจอห์น เทอร์รี่ผ่านบอลสั้นแบบจวนตัวให้มาลูด้าเลยถูกวัลค็อตต์แย่งได้แล้วฟาเบรกา สตามไปเก็บตกไหลให้วัลค็อตต์ซัลโวจากริมเขตโทษด้านขวาเสียบเสาไกลพาเจ้าบ้าน นำ 3-0

นาทีที่ 56 ทีมเยือนปรับทัพอีกหนโดยส่งกาแอล กากูต้าลงเล่นแทนมาลูด้า และแค่นาทีเดียวทีมของคาร์โล อันเชล็อตติก็ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ดร็อกบาจึงโยนเข้าเขตโทษโดยบรานิสลาฟ อิวาโนวิชโดดโขกจากแปดหลาสวนลูคัส ฟาเบียนสกี้ที่ออกมาไม่ถึงบอลตุงตาข่ายให้สิงห์บลูส์ตามมา 1-3

กระนั้นนาทีที่ 60 แลมพาร์ดออกลูกโหดไล่กวดซงแล้วสอยกองกลางผิวสีร่วงจึงโดนจดชื่อตามระเบียบ

ให้หลังอีกสองนาที เชลซีทิ้งไพ่ใบสุดท้ายปล่อยโชเซ่ โบซิงวาลงไปแทนแฟร์ไรร่า ก่อนที่ฟาเบรกาสจะโดนจดชื่อในนาทีที่ 68 หลังเล่นสะเพร่าถูกเอสเซียงแย่งบอลแล้วตามไปฉุดไหล่ดาวเตะกาน่าล้ม

แต่แล้วนาทีต่อมา เจ้าบ้านน่าจะคลำเป้าได้อีกเมื่อนาสรี่สบโอกาสทะลุเข้าเขตโทษด้านซ้ายแบบ หลุดเดี่ยวจากจังหวะที่กากูต้าแตะอกคืนหลังให้เช็กแย่ แต่มิดฟิลด์ฝรั่งเศสกระดกยิงไม่ผ่านนายทวารเชลซี

นาทีที่ 73 ทีมปืนใหญ่เปลี่ยนวัลค็อตต์ออกโดยมีอาบู ดิยาบี้ลงไปแทน ตามด้วยการใช้งานชามักแทนฟาน เพอร์ซี่ในนาที่ 76

ช่วงที่เหลือเจ้าบ้านต้านเกมรุกของทีมเยือนได้สำเร็จ จบเกมจึงขยี้เชลซีไปอย่างสวยหรู 3-1 ขยับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง โดยมีคะแนนตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โยฮัน ฌูรู, กาแอล กลิชี่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สำรอง : วอจเซียช ซิซเซสนี่ (ผู้รักษาประตู), อาบู ดิยาบี้, โทมัส โรซิคกี้, เซบาสเตียง สกิลลาซี่, อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค, นิคลาส เบนท์เนอร์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์เรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), แอชลี่ย์ โคล - มิชาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร็งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู
สำรอง: รอสส์ เทิร์นบูลล์ (ผู้รักษาประตู), รามิเรส, โชเซ่ โบซิงวา, พาทริค ฟาน อานโฮลท์, เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, กาแอล กากูต้า, โจชัว แม็คอีชแรน

ผู้ตัดสิน: มาร์ค แคล็ตเตนเบิร์ก

เซบาสเตียง สกิลลาชี่ (Sebastien Squillaci)




ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม เซบาสเตียง สกิลลาชี่

วันเกิด 11 สิงหาคม 1980 ( อายุ 31 )

สถานที่เกิด Toulon, France

ส่วนสูง 1.87 m /(6 ฟุต 2 นิ้ว)

ตำแหน่ง กองหลัง

หมายเลข 18

ประวัติ เซบาสเตียง สกิลลาซี่ (ฝรั่งเศส: Sébastien Squillaci) เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1980 นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส ปัจจุบันเล่นกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ตำแหน่งกองหลัง Arsenal sign Sebastien Squillaci from Sevilla

โลรองต์ กอสชิแอลนี (Laurent Koscielny)




ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม โลรองต์ กอสชิแอลนี

วันเกิด 10 กันยายน 1985 ( อายุ 25 )

สถานที่เกิด Tulle, France

ส่วนสูง 1.86 m / 6.1 ft

ตำแหน่ง กองหลัง

หมายเลข 6

Laurent Koscielny - Complete defender [11/12] Laurent Koscielny-I'm A Boss (2012)

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปืนเฮเชส-อาร์วีพีคัมแบ็กฟัดสิงห์ที่ได้แลมพ์คืนทีม




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ได้รับข่าวดี เมื่อสองคีย์แมน เชส ฟาเบรกาส กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หายบาดเจ็บลงกลับมาช่วยทีมเดอะกันเนอร์ส เปิดบ้านต้อนรับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่ได้กองกลางคนสำคัญอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด คัมแบ็กกลับมาช่วยทีมเช่นกัน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อล - เชลซี


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส พร้อมส่ง เชส ฟาเบรกาส จอมทัพชาวสเปน กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงดัตช์ ลงเล่นตัวจริงพร้อมกันเป็นนัดแรกนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา


แม้ว่าทั้ง ฟาเบรกาส กับ ฟาน เพอร์ซี่ จะฟิตสมบูรณ์กลับมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก เวนเกอร์ เท่าที่ควร เช่นเดียวกับ ธีโอ วัลค็อตต์ และ นิคลาส เบนท์เนอร์


ผู้รักษาประตู ลูคัส ฟาเบียนสกี้ มือ 2 หายเจ็บสะโพกกลับมาฟิตแล้ว ทำให้ วอยเช็ก เซสนี่ ประตูมือ 3 ซึ่งเป็นชาวโปลิชบ้านเดียวกันจะกลับไปเป็นตัวสำรองตามเดิม ขณะที่มือ 1 มานูเอล อัลมูเนีย ยังเจ็บข้อเท้า


ในราย อาบู ดิอาบี้ หายเจ็บข้อเท้ากลับมาซ้อมแล้ว และน่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้ แต่ในราย โธมัส แฟร์มาเล่น ที่เจ็บเอ็นร้อยหวาย ก็คาดว่าจะกลับมาเดือนมกราคม, คีแรน กิ๊บบ์ส แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ก็ยังเจ็บข้อเท้าด้วย


ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เฝ้าเสา แนวรับใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์ คู่หน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยืนคู่ มารูอาน ชามัค


ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม เตรียมส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางคนสำคัญ ลงเล่นเป็นตัวจริงในรอบ 3 เดือนครึ่ง หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ และเพิ่งกลับมาเป็นตัวสำรองในเกมก่อนที่เสมอ สเปอร์ส 1-1 ในช่วง 13 นาทีสุดท้าย


ข่าวดี โชเซ่ โบซิงวา แบ็กขวาหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าฉีก กลับคืนทีมแล้ว หลังพักตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วน อเล็กซ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟอีกคนผ่าตัดเข่า, ยูริ เซียร์คอฟ แข้งสารพัดประโยชน์ก็ยังเจ็บน่อง และ ยอสซี่ เบนายูน เจ็บเอ็นร้อยหวายเหมือนเดิม


ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลังใช้ เปาโล แฟร์ไรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด แดนหน้า ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กลับคืนตัวจริง โดยเล่นร่วมกับ ฟลอร็องต์ มาลูด้า และ นิโกล่าส์ อเนลก้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, มารูอาน ชามัค
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์ไรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก

สถิติกินขาด! ปืนสู้สิงห์ไม่ได้



สถิติในช่วงหลังของเกมดาร์บี้แมตช์กรุงลอนดอนระหว่าง อาร์เซน่อล กับ เชลซี กลายเป็น สิงโตน้ำเงินคราม ที่ได้เฮอยู่เป็นประจำ เพราะตลอด 18 นัดหลังสุด รวมทุกรายการ พ่ายให้ ปืนใหญ่ เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น แถมผลงาน 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ เชลซี ยังเก็บชัยชนะรวดด้วย


นับเฉพาะผลงานในพรีเมียร์ลีก เชลซี กวาดชัยชนะมารวด 4 นัดหลัง ซัลโวแหลก 11 ประตู เสียประตูให้ อาร์เซน่อล เพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น แถม ปืนใหญ่ ยังยิงประตู สิงห์บลูส์ ไม่ได้มาเป็นเวลา 290 นาทีแล้วด้วย นับตั้งแต่ นิคลาส เบนท์เนอร์ ยิงประตูเป็นคนล่าสุด


ที่สำคัญ 3 นัดหลังในพรีเมียร์ลีก ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าไอวอรี่โคสต์ของ สิงห์บลูส์ ยังกดไปคนเดียว 5 ประตูด้วย ถูกโฉลกกับการยิงปืนใหญ่ทีเดียว

ดร็อกเต็งยิงลูกแรกลอนดอนดาร์บี้



ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งของ เชลซี ถูกยกเป็นเต็ง 1 ยิงประตูแรกของเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม ที่จะบุกไปเยือน อาร์เซน่อล วันจันทร์นี้ จากการเปิดราคาของ สกายเบท ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ


ดร็อกบา เป็นตัวเต็งของเกมที่ราคา 5/1 (แทง 1 จ่าย 5) เต็ง 2 เป็น มารูอาน ชามัค ของอาร์เซน่อล 6/1 (แทง 1 จ่าย 6), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ของอาร์เซน่อล 13/2 (แทง 2 จ่าย 13), นิโกล่าส์ อเนลก้า ของเชลซี 7/1 (แทง 1 จ่าย 7), ซามีร์ นาสรี่ กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ ของอาร์เซน่อล และ ซาโลมง กาลู ของเชลซี ราคาเท่ากัน 15/2 (แทง 2 จ่าย 15)


ถัดจากนั้นถึงเป็นสองจอมทัพของทั้งสองทีม เชส ฟาเบรกาส ของอาร์เซน่อล กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี ราคาเท่ากันที่ 8/1 (แทง 1 จ่าย 8), อังเดร อาร์ชาวิน ของอาร์เซน่อล และ ฟลอร็องต์ มาลูด้า กับ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ราคาเท่ากัน 9/1 (แทง 1 จ่าย 9)

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ป๋านำบรรดาแข้งปืนใหญ่อวยพรปีใหม่ให้เหล่ากันเนอร์

ชามัคตั้งเป้าเทียบชั้นรูนี่ย์,ดร็อกบาเพื่อเป็นสุดยอดดาวยิงให้ได้




มารูยาน ชามัค หอกจอมสังหารทีมอาร์เซนอลตั้งปณิธานจะไม่เป็นสองรองใครในโลกแห่งอนาคตขอ พัฒนาฝีเท้าเทียบเท่า ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงเชลซีและ เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ได้

สตาร์ทีมชาติโมร็อกโกยอมรับตอนนี้ตนยังตาม ดร็อกบา และ รูนี่ย์ อยู่หลายก้าวและพยายามเรียนรู้เพื่อก้าวเป็นสุดยอดดาวยิงในวันข้างหน้า

"ผมคิดว่าผมยังไม่ทะลุถึงขีดระดับเท่ากับ ดร็อกบา และ รูนี่ย์ แต่สักวันนึงผมจะไปให้ถึงให้ได้" จอมสังหารปืนใหญ่ประกาศ

"แต่ผมไม่รู้สึกว่าด้อยไปกว่าทั้งสองคนเลย พวกเขาทุ่มเทอย่างหนักมากกว่าจะมายืนจุดสูงสุดได้"

"ผมรู้ผมก็มีศักยภาพและหวังทุ่มเทเต็มที่เพื่อยกระดับของตัวเองเทียบเท่าพวกเขาในวันข้างหน้า"

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผลการจับสลากประกบคู่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย



ผลการจับสลากประกบคู่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554
โรม่า vs ชาร์คเตอร์ โดเน็ตส์
เอซี มิลาน vs ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554
บาเลนเซีย vs ชาลเก้ 04
อินเตอร์ มิลาน vs บาเยิร์น มิวนิค

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554
โอลิมปิก ลียง vs รีล มาดริด
อาร์เซน่อล vs บาร์เซโลน่า

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554
โอลิมปิก มาร์กเซย์ vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โคเปนเฮเก้น vs เชลซี


วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผีฉลุยหลอกปืนโต1-0 ตี๋พาร์คโขกพุ่งรั้งจ่าฝูง



"ผีแดง" แมนฯ ยูฯ เบียด "ปืนโต" อาร์เซน่อล หวุดหวิด 1-0 "ตี๋พาร์ค" โขกงงๆ เป็นประตูโทนของเกม เก็บ 3 แต้มเต็ม ถีบ "ปืนใหญ่" ร่วงจากบัลลังก์ และขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแทนที่เรียบร้อย ในศึก "มันเดย์ ไนท์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "มันเดย์ ไนท์" ประจำค่ำคืนวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. 2553 เป็นศึก "ซุปเปอร์แมตช์" ประจำปี ระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พบกับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล

สำหรับอันดับในตารางก่อน เกมการแข่งขัน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้าน รั้งอยู่ในอันดับที่ 4 แข่ง 15 นัด ชนะ 8 เสมอ 7 ยังไม่แพ้ใคร มีอยู่ 31 คะแนน เท่ากับ เชลซี แต่ประตูได้เสียแย่กว่า

ส่วน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงของตาราง แข่งมา 16 นัด ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 4 มี 32 คะแนน เท่ากับ "เดอะ ซิตี้" แมนฯ ซิตี้ แต่ประตูได้เสียดีกว่า ซึ่งหากทีมใดเก็บชัยในนัดนี้ได้ก็จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที

ผลงานล่า สุดของทั้งสองทีม ถือว่าไม่ได้แตกต่างกันมาก โดย "ผีแดง" แมนฯ ยูฯ เล่นเกม "ยูซีแอล" ล่าสุด เสมอกับ "ค้างคาว" บาเลนเซีย ในบ้าน 1-1 สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์ของกลุ่ม ซี ส่วนเกมลีก ถือว่าฟอร์มดีทีเดียว เก็บได้ถึง 11 แต้ม จาก 5 นัดหลังสุด ซัดได้ถึง 13 เสียไป 4 เม็ด โดยนัดล่าสุด เปิดบ้านถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม สุดท้ายใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นเดียวกัน โดยเป็นอันดับที่สองของกลุ่ม เอช โดยนัดล่าสุด ถล่ม ปาร์ติซาน เบลเกรด 3-1 ขณะที่เกมลีก 5 นัดหลังสุด เก็บชัยได้ถึง 4 นัด และพ่ายเพียงนัดเดียวต่อ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-3

สภาพ ทีมของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือว่าสมบูรณ์มากทีเดียว เมื่อได้ทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ผ่านความฟิตมีชื่อลงสนามเป็นตัวจริง โดยวันนี้ "ผีแดง" มาในระบบ 4-5-1 ใช้ เวย์น รูนี่ย์ เป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียว ดร็อป เบอร์บาตอฟ เป็นเพียงแค่สำรอง ส่วนแผงกลาง 5 คน มี ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ คอยคุมเกม และให้ นานี่ และ พาร์ค ชี-ซอง คอยสร้างสรรค์เกมรุกทางกราบ ขณะที่กองหลัง 4 ตัว ถือว่าแน่นปึ้ก มี ริโอ จับคู่กับ วิดิช ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ แบ็กขวาเป็น ราฟาเอล และแบ็กซ้ายเป็น เอวร่า เช่นเคย

ส่วน "เดอะ กันเนอร์ส" อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังไม่มีทั้ง อาบู ดิอาบี้ และ แฟร์มาเล่น ที่ยังบาดเจ็บ ส่วน เชส ฟาเบรกาส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ธีโอ วัลค็อตต์ มีชื่อเป็นเพียงแค่สำรอง โดย อาร์เซ น่อล มาในระบบ 4-4-1-1 ห้อย มารูยาน ชามัคห์ ไว้แดนหน้าคนเดียว ส่วน อาร์ชาวิน ยืนหน้าต่ำ และมี นาสรี่ กับ โรซิซกี้ คอยสนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางเป็นหน้าที่ของ อเล็ก ซ์ ซง กับ แจ็ค วิลเชียร์ ขณะที่แผงแบ็กโฟร์ใช้นักเตะชาว ฝรั่งเศส ล้วนๆ โดย สกิลลาชี่ จับคู่กับ กอสเซียลนี่ ตำแหน่งตัวกลาง และมีแบ็กสองข้างอย่าง ซาญ่า กับ กลิชี่ เช่นเคย ส่วนตำแหน่งผู้รักษา ประตู จำเป็นต้องใช้มือ 3 วอจเซียช เซสซ์นี่ ดาวรุ่งชาว โปแลนด์ วัย 20 ปี เนื่องจาก ทั้ง อัลมูเนีย และ ฟาเบียนสกี้ ต่างก็ยังมีอาการบาดเจ็บทั้งคู่

เริ่มเกมขึ้นมาไม่นาน น.8 "ผีแดง" ได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ รูนี่ย์ หาจังหวะพลิกตัวนอกกรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 30 หลา ก่อนสับไกยิงด้วยขวา บอลพุ่งไปตรงตัว วอจเซียช เซสซ์นี่ นายทวารหนุ่มที่รับเข้าซองไว้ได้

น.22 แมนฯ ยูฯ เกือบได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กระดกบอลจากทางกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ จังหวะแรก กาแอล กลิชี่ โหม่งสกัดออกมาพลาด ไปเข้าทาง นานี่ ที่วิ่งมาล้มตัวปาดบอลด้วยขวา บอลพุ่งผ่านเสาสองออกไปนิดเดียว ชนิดที่ วอจเซียช เซสซ์นี่ ได้แต่ยืนมองเท่านั้น

น.30 จากจังหวะเปิดครอสบอลทางฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษของ นานี่ บอลไปโดนมือ ชามัคห์ เต็มๆ แต่ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่ได้เป่าให้เป็นลูกโทษแก่เจ้าบ้าน แต่อย่างใด

น.40 เจ้าบ้าน "ผีแดง" แมนฯ ยูฯ มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ นานี่ กระชากขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดเข้ากลาง บอลไปแฉลบขา กลิชี่ ในจังหวะแรก ก่อนที่จะลอยโด่งเข้ากรอบเขตโทษ ไปตกลงหัว พาร์ค ชี-ซอง ที่สะบัดหัวโหม่งแบบผิดจังหวะ บอลลอยไปเบียดโคนเสาสอง ผ่านมือของ วอจเซียช เซสซ์นี่ เข้าประตูไปแบบงงๆ

น.43 มีใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นจนได้ เมื่อ ชามัคห์ ไปสกัดใส่ นานี่ อย่างแรงน่าเกลียด ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่รอช้า เป่าให้เป็นลูกฟาวล์ และแจกใบเหลืองให้กับ มารูยาน ชามัคห์ ทันที

หลังจากนั้น ในช่วงครึ่งแรก ทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ แมนฯ ยูฯ ออกนำ อาร์เซน่อล อยู่ 1-0

เริ่มเกมครึ่งหลังขึ้นมาไม่นาน น.53 เป็น แมนฯ ยูฯ ที่เกือบได้ประตูที่สองเป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่ รูนี่ย์ เลี้ยงจี้หน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 18 หลา ก่อนแทงทะลุช่องไปให้กับ อันแดร์สัน หลุดไปดวลเดี่ยวกับ วอจเซียช เซสซ์นี่ แต่ อันแดร์สัน กลับซัดไปติดตัว เซสซ์นี่ ที่ออกมาเร็ว ปิดมุมได้ดีอย่างเหลือเชื่อ

น.56 เกมบุกแลกอย่างเมามันส์ จังหวะนี้เป็น "ไอ้ปืนใหญ่" บ้าง ที่ได้โอกาสทำประตู จากจังหวะที่ นาสรี่ เลี้ยงทะลุขึ้นมาแล้วลองสับไกด้วยซ้าย ระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งเรียดเข้ากรอบ แต่ ฟาน เดอ ซาร์ ล้มตัวปัดไปได้ ก่อนบอลจะไปเข้าทาง ชามัคห์ ในจังหวะสอง ล้มตัวกวาดบอลด้วยขวา บอลกำลังจะเข้าอยู่แล้ว แต่ วิดิช พุ่งมาสไลด์บอลออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ

น.59 แมนฯ ยูฯ เกือบได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะโต้กลับ และเป็น นานี่ ที่กระชากบอลจากทางฝั่งขวา แล้วเลี้ยงผ่าน กลิชี่ เข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา แต่จังหวะสุดท้ายกลับซัดด้วยขวาโด่งข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น

น.64 อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นก่อน โดยถอด โทมัส โรซิซกี้ และ แจ็ค วิลเชียร์ สองกองกลาง ออก และส่ง เชส ฟาเบรกาส กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี สองตัวรุกตัวจริงลงมาเล่นแทนที่

น.73 เกิดเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น เมื่อ "ปีศาจแดง" มาได้ลูกโทษ จากจังหวะที่ นานี่ พยายามเปิดบอลในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา บอลพุ่งไปโดนแขนของ กลิชี่ ที่ล้มอยู่ แบบเต็มๆ ทำให้ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่ มีทางเลือก เป่าให้เป็นลูกโทษกับ แมนฯ ยูฯ ทันที แต่ก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้น เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ที่รับหน้าที่สังหารลูกนี้ กลับซัดด้วยขวาพลาดเป้าไปไกล โด่งข้ามคานออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น พลาดโอกาสขึ้นนำ 2-0 ไปอย่างน่าเสียดาย

น.77 เวนเกอร์ ตัดสินใจเปลี่ยนไม้ตายสุดท้ายลงมาในสนาม โดยส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงมาเล่นแทนที่ของ อังเดร อาร์ชาวิน

น.85 แมนฯ ยูฯ เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกของเกม โดย "เซอร์เฟอร์กี้" ตัดสินใจถอด อันแดร์สัน ออก และส่งตัวเก๋าอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาแทนที่

หลัง จากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มเติมได้ จบเกม "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูฯ เชือด "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ พาร์ค ชี-ซอง คว้าสามแต้มเต็ม เก็บเพิ่มเป็น 34 คะแนน พุ่ง ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของตาราง แถมยังลงเตะน้อยกว่าทีมอื่นที่อยู่ใน "บิ๊กโฟร์" อยู่ 1 นัด ส่วน อาร์เซน่อล มี 32 แต้ม เท่าเดิม ตกลงไปรั้งอันดับที่สองของตาราง

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-5-1
เอ็ด วิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (ผู้รักษาประตู), ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน (ไรอัน กิ๊กส์ 85), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, หลุยส์ นานี่, พาร์ค ชี-ซอง, เวย์น รูนี่ย์
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อาร์เซน่อล : ระบบ 4-4-1-1
วอ จเซียช เซสซ์นี่ (ผู้รักษาประตู), เซบาสเตียน สกิลลาชี่, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, บาการี่ ซาญ่า, กาแอล กลิชี่, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์ (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 64), ซามีร์ นาสรี่, โทมัส โรซิซกี้ (เชส ฟาเบรกาส 64), อังเดร อาร์ชาวิน (ธีโอ วัลค็อตต์ 77), มารูยาน ชามัคห์
ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผีเต็มสูบ!ชุดใหญ่ครบ,ปืนยังไร้เชสวางนาสรี่จอมทัพ




"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมขนผู้เล่นชุดใหญ่เต็มสูบลงสนาม ในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ใน "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2553
แมนฯ ยูไนเต็ด - อาร์เซน่อล


สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีศาจแดง ไม่มีคิวลงเตะเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่เกมที่ถล่ม แบล็คเบิร์น 7-1 วันที่ 27 พฤศจิกายน แต่ในช่วงระหว่างนั้น แพ้ เวสต์แฮม 0-4 ในคาร์ลิ่ง คัพ และเสมอ บาเลนเซีย 1-1 ในถ้วยยุโรป

ริโอ เฟอร์ดินานด์, พอล สโคลส์ และ ปาทริซ เอวร่า จะฟิตกลับคืนทีมในเกมนี้ หลังจาก เฟอร์ดินานด์ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าในช่วงต้นครึ่งหลังเกมกับ บาเลนเซีย, สโคลส์ เจ็บโคนขาหนีบพลาดมา 3 นัดติด ชวดซ้อมก่อนเกมกับ บาเลนเซีย เช่นเดียวกับ เอวร่า

ในราย จอนนี่ อีแวนส์ และ เวส บราวน์ สองกองหลังตัวสำรอง ที่มีอาการป่วยติดเชื้อไวรัสทั้งคู่ จะฟิตกลับคืนทีมตามเดิม ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ มีตัวเลือกอย่างเต็มที่

ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เฝ้าเสา แนวรับใช้ ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน, พาร์ค ชี-ซอง คู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส ต้องประเมินสภาพความฟิตของกัปตันทีม เชส ฟาเบรกาส จนถึงนาทีสุดท้าย แม้จะมีโอกาสสูงที่จอมทัพชาวสเปนจะฟิตไม่ทันเกมนี้ เพราะอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า

แผงหลังจะกลับมาใช้งาน กาแอล กลิชี่ ในตำแหน่งแบ็กซ้ายอีกครั้ง เพราะหายป่วยกลับมาแล้ว ซึ่งทำให้ต้องพลาดเกมยุโรปที่เจอ ปาร์ติซาน เบลเกรด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่วน โยฮัน ฌูรู เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ก็หายเจ็บต้นขาด้วย

ล่าสุด แบ็กซ้ายตัวสำรอง คีแรน กิ๊บบ์ส วัย 21 ปี ที่ลงเล่นเกมยุโรปแทน กลิชี่ ดันมาเจ็บข้อเท้าเพิ่มไปอีก ต้องพักประมาณ 3 สัปดาห์ด้วยกัน

ส่วนนักเตะที่บาดเจ็บอยู่ก่อนอย่าง มานูเอล อัลมูเนีย (ศอก), โธมัส แฟร์มาเล่น (เอ็นร้อยหวาย) และ อาบู ดิอาบี้ (ข้อเท้า) ยังคงพักฟื้นอยู่

ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เฝ้าเสา แนวรับใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ มารูอาน ชามัค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน, พาร์ค ชี-ซอง - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์


ผีดุ! 5 นัดหลังไม่มีแพ้ปืนใหญ่



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผลงานที่ดีในการเจอกับ อาร์เซน่อล ตลอด 5 นัดหลังสุด เพราะ ปีศาจแดง เก็บชัยชนะได้ถึง 4 นัด และเสมอ 1 ไม่แพ้ให้ทีม ปืนใหญ่ เลยทั้งเหย้าและเยือนในลีกและถ้วยยุโรป

ถ้านับรวมตลอด 3 ฤดูกาลหลัง ทั้งสองทีมพบกันทั้งหมด 9 นัด เป็นเกมพรีเมียร์ลีก 6 นัด, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 นัด และ เอฟเอ คัพ 1 นัด ปรากฏว่า ปีศาจแดง เอาชนะมากถึง 6 นัด เสมอกัน 2 นัด และ ปืนใหญ่ ชนะนัดเดียว ซึ่งเป็นเกมพรีเมียร์ลีกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ฤดูกาล 2008-09

ผลงานการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ อาร์เซน่อล ก็ย่ำแย่จริงๆ 9 ครั้งที่มาเยือนที่นี่ทั้งในลีกและบอลถ้วย ปืนใหญ่ แพ้กลับออกไปถึง 7 นัด

ฤดูกาลที่แล้ว เจอกันแค่ในพรีเมียร์ลีก 2 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะได้ทั้งไป-กลับ โดยเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ชนะก่อน 2-1 จากประตูชัยการทำเข้าประตูตัวเองของ อาบู ดิอาบี้ ส่วนอีกนัด ปีศาจแดง บุกชนะ 3-1 ลูกแรก มานูเอล อัลมูเนีย ปัดเข้าประตูตัวเอง ที่เหลือ เวย์น รูนี่ย์ กับ พาร์ค ชี-ซอง ช่วยกันยิง


สถิติดวลตัวตัวป๋าเหนือเวนเกอร์



การเผชิญหน้ากันระหว่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เจอกันมาแล้วมากถึง 43 นัด เฟอร์กี้ คว้าชัยชนะได้มากกว่าเล็กน้อย

นับตั้งแต่ปี 1996 ที่ เวนเกอร์ เข้ามาคุมทีม ปืนใหญ่ ดวลฝีมือกับ เซอร์ อเล็กซ์ มาแล้ว 43 นัด กุนซือชาวสกอตต์ เอาชนะได้ 17 นัด ส่วนกุนซือชาวฝรั่งเศส เอาชนะ 14 นัด ที่เหลือ 11 นัดเสมอกัน โดย 2 นัดในจำนวนนั้นต้องดวลจุดโทษเป็นการตัดสิน


นาสรี่หยันผีไม่น่ากลัวเหมือนก่อน



ซามีร์ นาสรี่ กองกลางตัวเก่งของ อาร์เซน่อล ออกโรงหยัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนสมัยที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ คาร์ลอส เตเวซ อยู่แล้ว โดยเฉพาะการเล่นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ไม่ได้น่าเกรงขามเหมือนสมัยก่อน

"เดอะ กันเนอร์ส" ชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ครั้งสุดท้ายเดือนกันยายน 2006 แต่ นาสรี่ หยันว่า "ปีศาจแดง" ก็ไม่ได้น่าเกรงขามเหมือนยุคที่มี่ทั้ง โรนัลโด้ และเตเวซ อยู่เหมือนกัน "ผมว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่เป็นทีมแบบเมื่อก่อน การมาเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะน่าเกรงขามมากสมัยที่พวกเขามี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเตเวซ อยู่ ตอนนี้ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะดุดันแบบเมื่อก่อน แต่แน่นอน พวกเขายังเป็นทีมที่ดี และพอพวกเขานำ 1-0 ก็แทบเป็นประตูแพ้ได้เลย เราจะได้รู้กัน แต่เรามั่นใจมากว่าจะได้ผลการแข่งขันที่ดีจากเกมนี้"

มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 23 ปี ฟอร์มจัดจ้านมากในฤดูกาลนี้ ยิงไปแล้ว 12 ลูก แม้จะผ่าเข่าจนต้องพักไปช่วงหนึ่งตอนต้นฤดูกาล โดย นาสรี่ เชื่อว่าเขาได้ประโยชน์จากการโดน เรย์มงด์ โดเมเน็ค เมินเรียกตัวไปเล่นฟุตบอลโลก ที่ แอฟริกาใต้ ปี 2010 "ผมได้พักช่วงซัมเมอร์อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรกในชีวิต ผมได้พักร่วม 2 เดือน ตอนนี้ผมชินกับการเล่นพรีเมียร์ลีกแล้ว ผมแสดงฝีเท้า และผมมั่นใจ เพื่อนร่วมทีมทุกคนก็มั่นใจในตัวผม ผมจึงรู้สึกดีเยี่ยม"


BPL 08/09 ARSENAL 2-1 manchester united




Manchester United 2 1 Arsenal 2009/2010

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เชสเร่งฟิตหวังบู๊ผีแต่ไม่ขอเสี่ยงถ้าไม่ทัน




เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์กัปตันทีม อาร์เซน่อล รับอยากหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าฟิตทันเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. นี้ แต่ถ้าไม่หายจริงๆ ก็จะไม่เสี่ยง เนื่องจากหวั่นเจ็บซ้ำที่เดิมอีก ทำให้ต้องรอดูกันไปก่อน

ฟาเบรกาส ต้องประสบกับฤดูกาลที่ยากลำบาก เมื่อเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนมาตลอด และเดินกะเผลกออกจากสนามในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกไปแพ้ บราก้า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งระหว่างช่วงที่เขาไม่อยู่ "ปืนใหญ่" เอาชนะ ฟูแล่ม 2-1 จนแซงหน้า "ปีศาจแดง" ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงแทน เมื่อสุดสัปดาห์ หลังจากเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเยือน แบล็คพูล มีอันต้องยกเลิกไป

ด้วยเหตุนี้ เกมในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม จึงมีเดิมพันสูง เนื่องจาก 2 ทีมมีคะแนนต่างกันเพียงแต้มเดียวเท่านั้น แต่ ฟาเบรกาส ไม่ขอรับรองอะไรว่าเขาจะฟิตทันบิ๊กแมตช์ที่โรงละครแห่งความฝัน โดยกล่าวว่า "เรื่องที่ผมจะกลับมาลงสนาม เราต้องรอนานกว่านี้อีกหน่อยกว่าจะรู้อะไรเพิ่มเติม ผมออกไปวิ่งมา 2 วันแล้ว และมันก็รู้สึกดี ความรู้สึกถือว่าโอเคทีเดียว แต่ผมยังทำไม่ได้เต็มร้อย สำหรับตอนนี้เราต้องทำงานกันต่อไป"

กัปตัน ทีม อาร์เซน่อล ลงเล่นเป็นตัวจริง 9 นัดจาก 16 เกมลีกของ อาร์เซน่อล ฤดูกาลนี้ และไม่อยากเจ็บซ้ำจนต้องหยุดพักไปรักษาตัวอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า "ผมรู้สึกดีขึ้นทุกวัน แต่ประเด็นคือหาทางแก้ไข ปัญหาบาดเจ็บนี้จะได้ไม่กลับมาอีก เพราะฉะนั้นเรากำลังพิจารณาหลายๆ อย่าง บางทีการพักน่าจะช่วยได้ แต่ก็ต้องหาต้นตอด้วย ผมอยากฟิตทันเกมพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เราจะได้รู้กัน ผมจะลงเล่นต่อเมื่อเอ็นหลังหัวเข่าของผมหายสนิทแล้วเท่านั้น เพราะผมไม่อยากลงไปและเจ็บซ้ำอีก"

ปืนรัวปาร์ติซานฯ3-1เข้าที่สองของกลุ่มศึกชปล.




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มปิดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม แบบทำแฟนบอลระทึก ด้วยรัวยิง ปาร์ติซานฯ จาก เซอร์เบีย 3-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่,ธีโอ วัลคอตต์ และ ซามีร์ นาสรี่ พาเหรดช่วยกันยิง เก็บสามคะแนนที่ต้องการ ตีตั๋วผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอับดับสองของกลุ่ม ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
กลุ่มเอช
อาร์เซน่อล(อังกฤษ) 3-1 ปาร์ติซานฯ(เซอร์เบีย)


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


เกมนี้ อาร์เซน เวนเกอร์ ส่งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงล่าตาข่ายคู่กับ มารูอาน ชามัค หวังคว้าชัยชนะเพื่อผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ส่วนปาร์ติซานฯ ที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ยังคงส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม


เริ่มเกมมา นาทีที่ 12 เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน จากจังหวะโหม่งโล่งๆของ มารูอาน ชามัค แต่บอลกลับเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดาย


นาทีที่ 24 คีแรน กิ๊บบ์ส ซึ่งโดนเข้าปะทะอย่างหนัก จนบาดเจ็บในจังหวะก่อนหน้านี้ ฝืนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา เอ็มมานูเอล เบูเอ้ ลงมาแทน


เจ้าบ้านที่บุกอย่างหนักตั้งแต่ต้นเกม มาปลดล็อคความกดดันสำเร็จในนาทีที่ 29 จากจังหวะที่ ฟาน เพอร์ซี่ โดน มาร์โก โยวาโนวิช สกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ ดาวยิงดัตช์ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด อาร์เซน่อลนำ 1-0


ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านได้ลุ้นบวกเพิ่มเมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ เก็บตกบอลได้จากความผิดพลาดของ มลาเดน เคิร์สตายิช แต่ดันจ่ายเข้าในย้อนหลัง ชามัค ที่สอดขึ้นมาคนเดียวโล่งๆ อย่างน่าเสียดาย


หมดครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล นำ ปาร์ติซานฯอยู่ 1-0


เริ่มครึ่งหลังมานาทีเดียว เจ้าบ้านได้เสียวก่อนเลย จากจังหวะที่ เดนิลสัน แทงทะลุช่องให้ ชามัค หลุดเข้าเขตโทษ แต่บอลสุดปลายเท้าดาวยิงโมร็อกโก ทำให้ สตอยโกวิช ออกมาบล็อกได้ทัน


แต่ถัดมาในนาทีที่ 52 แฟนเจ้าบ้านต้องเงียบกริบทั้งสนาม เมื่อ เคลโอ ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนพลิกยิงแฉลบขา เซบาสเตียน สกิลลาชี่ บอลเปลี่ยนทางลอยข้ามตัว ฟาเบียนสกี้ เข้าประตูไป ให้ปาร์ติซานฯ ตามตีเสมอเป็น 1-1


หลังถูกตีเสมอ เวนเกอร์ ต้องแก้เกมโดยการส่ง ธีโอ วัลคอตต์ ลงมาแทน อังเดร อาชาวิน ในนาทีที่ 67
และ ก็เป็นวัลคอตต์ที่ทำให้แฟนเจ้าบ้านได้เฮสนั่น ในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่ ซานญ่า เปิดจากด้านขวาเข้าเขตโทษ โยวาโนวิช โหม่งสกัดไม่ขาด บอลมาเข้าทางวัลคอตต์ กดเต็มข้อบอลเสียบเสาสอง ให้อาร์เซน่อลนำอีกครั้งเป็น 2-1


เจ้าบ้านมาลอยตัวนำห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 77 อเล็ก ซง โชว์สเต็ปพาบอลหลบกองหลังปาร์ติซานฯ ก่อนจ่ายให้ นาสรี่ พลิกยิงในกรอบเขตโทษบอลเสียบตาข่าย


ช่วงท้ายเกม บาการี่ ซาญ่า แบ๊กขวาอาร์เซน่อลมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามหลังไปเตะราโดซาฟ เปโตรวิช กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ


จบเกมอาร์เซน่อล เอาชนะ ปาร์ติซานฯ อย่างสุดระทึก 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้ม แต่ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ในฐานะอันดับสองของกลุ่มเอช

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซาญ่า, เซบาสเตียน สกิลลาชี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, ซามีร์ นาสรี่, อังเดร อาชาวิน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, มารูอาน ชามัค
สำรอง : วอยเซียค เซซนี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, แจ็ค วิลเชียร์, โธมัส โรซิคกี้, ธีโอ วัลคอตต์, คาร์ลอส เวล่า, นิคลาส เบนท์เนอร์
ปาร์ติซาน : วลาดิเมียร์ สตอยโกวิช, สเตฟาน ซาวิช, มาร์โก โยวาโนวิช, มลาเดน เคิร์สตายิช, อเล็คซานด้า ลาเซฟสกี้, เมโด้, อัลมามี่ โมเรร่า, ราโดซาฟ เปโตรวิช, สเตฟาน บาโบวิช, ซาซ่า อิลิช, เคลโอ
สำรอง : ราดิซ่า อิลิช, วอยจ์สลาฟ สแตนโกวิช, ดาร์โก้ บราซานัช, อเล็คซานด้า ดาวิดอฟ, โจเซป กิซิโต้, อิวิก้า อิลิเยฟ, มิลาน สมิลายิช
ผู้ตัดสิน : เปาโล ทาเกลียเวนโต้

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จัดไป!ปืนตบโบนัสงามๆต่อสัญญา "นาสรี่"




อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือขงเบ้งเมืองน้ำหอมยืนยัน อาร์เซนอล พร้อมเปิดเจรจากับ ซามีร์ นาสรี่ ขยายเวลาค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมออกไปแถมเพิ่มค่าเหนื่อยเทียบเท่ากับซูเปอร์สตาร์ในทีมคนอื่นๆ

เวนเกอร์ประทับใจ นาสรี่ กลายเป็นจิ๊กซอว์คนสำคัญช่วย "ปืนใหญ่" รั้งตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกโดยสามารถทดแทนการขาดหายไปของ เชสก์ ฟาเบรกัส ได้เป็นอย่างดี

"เราพยายามต่อสัญญาฉบับใหม่อยู่นะ ผมเชื่อมั่นว่า 90 เปอร์เซนต์ตลอดชีวิตค้าแข้งของนักเตะจะผูกพันอยู่กับทีมที่พวกเขาตัดสินใจ ย้าย" กุนซือหน้าเหี่ยวเอ่ยถึง นาสรี่ ตอนย้ายจาก มาร์กเซย์ เมื่อปี 2008

"สำหรับผมเขาตัดสินใจได้อย่างถูกต้องที่ยอมร่วมทีมกับเรา ดังนั้นมันก็เหมาะสมแล้วที่เขาควรอยู่กับเราต่อไป"

ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเอช อาร์เซน่อล vs ปาร์ติซาน




ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/2011

รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย

วันพุธที่ 8 ธันวาคม 2553

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) vs ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย)

กลุ่มเอช


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ความจุ : 60,355 ที่นั่ง
ผู้ตัดสิน : เปาโล ตาญาเวนโต้ (อิตาลี)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : Paolo Calcagno (ITA), Massimiliano Grilli (ITA), Daniele Orsato (ITA), Andrea De Marco (ITA)
ผู้ตัดสินที่ 4 : Emidio Morganti (ITA)
นักเตะที่น่าจับตามอง : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ vs สเตฟาน บาโบวิช
ผลที่คาด : อาร์เซน่อล 2:0 ปาร์ติซาน
เวลาเตะ : 02.45 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3
สภาพอากาศ : มีเมฆหนา อุณภูมิ 0°C~1°C ความชื้น 96%
อัตราต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อ2ลูกครึ่ง
ติดโทษแบน : ไม่มี
บาดเจ็บ : อาร์เซน่อล>โยฮัน ฌูรู, โธมัส แฟร์มาเล่น, เชส ฟาเบรกาส

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล ระบบ 4-4-2 : ลู คัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซานย่า, โยฮัน ฌูรู, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, ซามีร์ นาสรี่, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, นิคลาส เบนท์เนอร์

ปาร์ติซาน เบลเกรด ระบบ 4-5-1 : วลา ดิเมียร์ สตอยโควิช, มาร์โก โยวาโนวิช, อเล็กซานดาร์ ลาเซฟสกี้, มลาเด้น เคอร์สตายิช, อิวาน สเตฟาโนวิช, ราโดซาฟ เปโตรวิช, อัลมานี่ โมไรร่า, ซาซ่า อิลิช, สเตฟาน บาโบวิช, มิลาน สมิลยานิช, เคลโอ

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

นาสรี่เบิ้ล!ปืนบี้ฟูแล่ม2-1แซงผีนำฝูงทิ้งแต้มเดียว




อาร์เซน่อลผงาดนำจ่าฝูงหลังบดเอาชนะฟูแล่ม2-1เก็บชัยทิ้งแมนฯ ยูไนเต็ดแค่แต้มเดียวแต่แข่งมากกว่า 1 นัด


อาร์เซน่อล 2-1 ฟูแล่ม

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล เปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พบกับ ฟูแล่ม โดยเกมนี้ อาร์เซน เวนเกอร์ วาง ซามีร์ นาสรี่ ปั้นเกมแทน เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมที่บาดเจ็บ ส่วนทางด้าน ฟูแล่ม วาง ดิโอม็องซี่ กามาร่า ยืนเป็นหอกเดี่ยว

เริ่มเกมมา 6 นาที เจ้าบ้านเดินหน้าลุยใส่ ตามสไตล์และน่าได้ประตูขึ้นนำ จากฟรีคิกริมเส้นด้านขวาเปิดเข้าเขตโทษทีมเยือน เซบาสเตียน สกิลลาชี่ โหม่งตั้งให้ ให้อังเดร อาชาวินได้วอลเล่ย์จ่อๆ แต่บอลตรงตัว มาร์ค ชวาร์เซอร์

นาที 14 "ปืนใหญ่" นำ 1-0 เมื่อกองหลังฟูแล่มเสียบอลให้ อาชาวิน ก่อนสตาร์รัสเซีย จ่ายให้นาสรี่ ล็อคหลบ 2 กองหลัง ในเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเหนือชั้น

แต่ทีมเยือนกลับตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 30 จากจังหวะที่ สองกองหลังเจ้าบ้านชนกันเอง เปิดโอกาสให้ คลินท์ เดมซี่ย์ ดีดทะลุช่องให้ ดิโอม็องซี่ กามาร่า หลุดไปยิงผ่านตัว ฟาเบียนสกี้ เข้าไป

จากจังหวะชนกันเอง ทำให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่งโยฮัน ฌูรู ลงมาเล่นแทน

ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนเกือบขึ้นนำ กามาร่า หลุดเดี่ยว แต่ยิงไม่ผ่าน ฟาเบียนสกี้ หมดครึ่งแรก เสมอกัน 1-1

ครึ่งหลังน.75ปืนโตนำ 2-1เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แตะบอลให้ซามีร์ นาสรี่แตะบอลหนีกองหลังฟูแล่มเข้าไปในกรอบแล้วแตะหลบมาร์ค ชวาร์เซอร์ ก่อนหมุนตัวตวัดยิงด้วยขวาตุงตาข่ายิย่างสวยงาม

น.78 ดิ๊คสัน เอตูฮู ได้ล้มตัวซัดด้วยขวาแถวจุดโทษแบบเต็มๆแต่บอลพุ่งถากเสาออกหลังไป

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มทำให้อาร์เซน่อล ชนะ ฟูแล่ม 2-1 แซงขึ้นนำฝูงทิ้งแมนฯ ยูไนเต็ดแค่แต้มเดียวแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ; บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่,เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์ ; ซามีร์ นาสรี่, โทมัส โรซิชกี้, อังเดร อาร์ชาวิน ; มารูอาน ชามัค

สำรอง : วอยเซียช เชสนี่, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ธีโอ วัลค็อตต์, เดนิลสัน, คีแรน กิ๊บบ์ส, นิคลาส เบนท์เนอร์

ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ ; จอห์น แพนท์ซิล, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, แม็ทธิว บริกก์ส, ไซม่อน เดวิส, แดนนี่ เมอร์ฟี่, ดิ๊คสัน เอตูฮู, คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ ; โซลตัน เกร่า ; ดิโอม็องซี่ กามาร่า

สำรอง : เดวิด สต๊อคเดล, สตีเฟ่น เคลลี่, แอนดรูว์ จอห์นสัน, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, เอ็ดดี้ จอห์นสัน, โจนาธาน กรีนนิ่ง, คริส แบร์ด

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เชสยังชวด!นาสรี่จอมทัพปืนบู๊เจ้าสัว




อาร์เซน่อล ยังคงไม่มี เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม ในการเปิดบ้านรับการมาเยือน ฟูแล่ม ศึก "ลอนดอนดาร์บี้" คืนนี้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2553
อาร์เซน่อล - ฟูแล่ม


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ ปืนใหญ่ จะเรียกตัวหลักหลายคนกลับมาเป็นตัวจริงเกมลีกอีกครั้ง หลังส่งสำรองและดาวดังที่อยู่ในช่วงเรียกความฟิต ลงสนามในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่เอาชนะ วีแกน 2-0 เมื่อวันอังคาร

ปัญหาเดิมของทีมอยู่ที่ เชส ฟาเบรกาส จอมทัพสเปน เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ยังหมดสิทธิ์ลงเล่นเกมสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับ มานูเอล อัลมูเนีย มือ 1 ที่กลับมาซ้อมแล้ว แต่ดันมีปัญหาที่ข้อศอกกำเริบอีก ชวดเฝ้าเสาแน่นอนแล้ว

ซามีร์ นาสรี่ กับ เซบาสเตียง สกิลลาชี่ หายเจ็บเข่ากลับมาแล้ว น่าจะยึดตัวจริงคืน แต่ในราย อาบู ดิอาบี้ (ข้อเท้า) และ โธมัส แฟร์มาเล่น (เอ็นร้อยหวาย) ยังพลาดลงเล่นเหมือนเดิม

ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เฝ้าเสา แผงหลังใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ มารูอาน ชามัค

ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ เจ้าสัวน้อย ถูกดูดลงไปอยู่โซนท้ายตารางแล้ว แม้ผลงานจะแพ้น้อยแค่ 4 นัด แต่ก็ชนะน้อยแค่ 2 นัดเท่านั้น หนักไปทางเสมอถึง 9 นัด รวมถึงเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 ด้วย

สภาพทีม ฮิวจ์ส จะได้ แอนดี้ จอห์นสัน กองหน้าหัวโล้น กลับคืนทีมแล้ว หลังไม่มีชื่อนัดก่อนเพราะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าไปอีก ทั้งที่เพิ่งกลับมาเป็นตัวจริงนัดแรกในสองนัดก่อนที่แพ้ แมนฯ ซิตี้ หลังพักยาวร่วม 10 เดือน

คาร์ลอส ซัลซิโด้ แบ็กซ้ายเม็กซิกัน เพิ่งฟิตกลับมานัดก่อน แต่ก็ดันเจ็บข้อเท้าไปอีก ทำให้ต้องพักร่วมกับ มุสซ่า เดมเบเล่ (ข้อเท้า), บ็อบบี้ ซาโมร่า (ขาหัก), ราฟิค ฮัลลิเช่ (ต้นขา), เฟรเดริก สตูร์ (โคนขาหนีบ) และ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส (เอ็นร้อยหวาย) ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนแล้ว

ระบบการเล่น 4-4-2 มาร์ค ชวาร์เซอร์ เฝ้าเสา แนวรับ คริส แบร์ด, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, จอห์น พานท์ซิล แดนกลางมี ไซม่อน เดวี่ส์, ดิ๊กสัน เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ คู่หน้า โซลตาน เกร่า ยืนคู่ แอนดี้ จอห์นสัน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค

ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - คริส แบร์ด, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, จอห์น พานท์ซิล - ไซม่อน เดวี่ส์, ดิ๊กสัน เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ - โซลตาน เกร่า, แอนดี้ จอห์นสัน

ใครดีใครได้ ปืน-ผีแย่งเซ็นฟรีนายด่านเม็กซิโก




งานนี้ใครดีใครได้ หลังมีข่าวว่าทางอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสองยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ ลีกกำลังให้ความสนใจกีเยอร์โม่ โอโชอาผู้รักษาประตูทีมชาติเม็กซิโกที่จะหมดสัญญากับต้นสังกัดในช่วง ซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพิ่งจะเซ็นสัญญากับอันเดรส ลินเดการ์ดผู้รักษา
ประตูที่ได้รับการขนานนามว่ามีฝีไม้ลายมือคล้ายกับปีเตอร์ ชไมเคิ่ล แต่ด้วยสถิติในพักหลังเกี่ยวกับการว่าจ้างนายทวารบวกกับโธมัส คุสแช็คนายทวารโลกลืมที่อาจจะขอย้ายทีมในเร็ววันนี้อาจทำให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันต้องคอยหาตัวเลือกคนอื่นไว้ด้วย

ส่วนอาร์เซนอลซึ่งถึงแม้ว่าลูคัส ฟาเบียนสกี้จะเริ่มโชว์ผลงานให้เห็นแต่อาร์แซน เวนเกอร์ก็ต้องการคนที่ไว้ใจได้มาไว้ใช้งานในยามฉุกเฉินเช่นกัน

โอโชอาลงเฝ้าเสาให้เม็กซิโกไปแล้ว 40 เกมส์แต่ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาเขาไม่ได้มีส่วนร่วมเพราะทางผู้จัดการทีม ไว้ใจออสการ์ เปเรซมากกว่า

ปืนพบม้าขาวคาร์ลิ่ง คัพตัดเชือก




"ปืน ใหญ่"อาร์เซนอลขยับเข้าใกล้ถ้วยรางวัลหนแรกในรอบ 5 ปีหลังผลการจับฉลากคาร์ลิ่ง คัพรอบรองชนะเลิศพบอิปสวิช ทาว์นหนึ่งเดียวจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

"ม้าขาว"ของรอย คีนเบียดเอาชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบียนเหนาะๆ 1-0 และต้องเจอของแข็ง+เต็งหนึ่งรายการนี้อย่างอาร์เซนอล

ในขณะเดียวกันเวสต์แฮมที่พลิกล็อกชนะแมนฯยูไนเต็ดมา 4-0 จะฟาดปากกับเบอร์มิงแฮมที่โค่นแอสตัน วิลล่ามาหมาดๆ

รอบรองชนะเลิศจะทำการแข่งขันกันสองนัดโดยเลกแรกเตะในวันที่ 10 มกราคมส่วนเลกสองจะมีขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา


ที่มา http://www.soccersuck.com and www.arsenal.in.th

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปืนลิ่วตัดเชือก!กดวีแกนนิ่ม2-0คาร์ลิ่งฯ




อาร์เซน่อล ทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ เรียบร้อบ หลังจากที่เปิดรังเอาชนะ วีแกน สบายๆ 2-0 ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพรอบก่อนรองชนะเลิศ
วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2553
อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ ลีก) 2 - 0 วีแกน (พรีเมียร์ ลีก)


สนาม: เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน


"ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ขนผู้เล่นดาวรุ่งลงสนามยกชุด โดยแดนหน้าเรียก นิคลาส เบนท์เนอร์ กลับมาลงล่าตาข่ายร่วมกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ พร้อมได้ คาร์ลอส เวล่า ดาวเตะเม็กซิกัน กับ ธีโอ วัลค็อตต์ มาทำเกมตามริมเส้น
โดยมี แจ็ค วิลเชียร์ ที่กำลังฟอร์มสดเดินเกมรุกจากกลางสนาม

ด้าน "เดอะ ลาติกส์" วีแกน ให้ เมาโร่ โบเซลลี่ ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ วิคเตอร์ โมเซส พร้อมได้ เฮนดรี้ โธมัส ดาวเตะฮอนดูรัส คุมเกมกลางสนาม

เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 2 นาที ปืนใหญ่ มาได้ลุ้นจากจังหวะที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โยนลูกฟรีคิกมาเสาไกลให้ นิคลาส เบนท์เนอร์ ขึ้นโหม่ง แต่โดนไม่เต็มบอลหลุดออกข้างไป

หลังจากนั้นเจ็ดนาที ทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง วิคเตอร์ โมเซส ลากตะลุยพาบอลเข้าเขตโทษ ก่อนแตะหลบ เอบูเอ้ แล้วตัดสินใจซัดด้วยซ้ายเข้าข้างตาข่าย

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 27 อาร์เซน่อลต่อบอลกันมาได้สวยอีกครั้ง วิลเชียร์ ทำชิ่งกับ ฟาน เพอร์ซี่ ก่อนบอลจะมาถึง คาร์ลอส เวล่า ได้กดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่เหินข้ามคานออกไป

ผ่านมา 40 นาที วีแกน จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา วิคเตอร์ โมเซส ที่มีอาการบาดเจ็บออกมาแล้วส่ง ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย ลงมาเล่นแทน

นาทีเดียวกันนั้น ทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะที่ เดนิลสัน โยนให้กับ
คาร์ลอส เวล่า เทคตัวโขกจ่อๆแค่ 6 หลาบอลออกเสาซ้ายไป

ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 3 นาที อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ ธีโอ วัลค็อตต์ โยนลูกเตะมุมมาหน้าประตู อันโตลิน อัลคาราซ กองหลังชาวปารากวัยของวีแกน โหม่งสกัดผิดเหลี่ยมบอลเข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย หมดครึ่งแรกเจ้าบ้านนำก่อน 1-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 8 นาที อาร์เซน่อล บุกต่อเนื่อง นิคลาส เบนท์เนอร์ ได้เทคตัวโขกจากระยะแค่ 6 หลาหลุดเสาขวาไป

อย่างไรก็ตาม พลพรรคกันเนอร์ส มาได้ประตูที่สองหนีห่างออกไปอีกในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ คาร์ลอส เวล่า ดาวเตะเม็กซิกัน จ่ายบอลจากด้านซ้ายของเขตโทษให้กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ ที่ยืนอยู่เสาสอง ตะบันด้วยขวาบอลเรียดเข้ากลางประตูไปให้อาร์เซน่อล นำสบาย 2-0

เขยิบมานาทีที่ 72 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง คาร์ลอส เวล่า ซัดด้วยซ้ายจากระยะ 18 หลา ทว่าบอลเบาไปทำให้ อาลี อัล ฮับซี่ นายทวารชาวโอมานของวีแกนเซฟได้ไม่ยาก

นาทีต่อมา อาร์เซน่อล เก็บตัวแล้วถอด แจ็ค วิลเชียร์ ออกแล้วเปลี่ยนเอา ซามีร์ นาสรี่ ดาวเตะชาวฝรั่งเศส ลงมายืดเส้นยืดสายบ้าง พร้อมให้ เคร็ก อีสต์มอนด์ เล่นแทน ฟาน เพอร์ซี่ย์

เกมยังเป็นของไอ้ปืนใหญ่ นาทีที่ 77 ธีโอ วัลค็อตต์ ตะบันด้วยขวาบอลหลุดเสาแรกไปชนิดได้ลุ้น

ช่วงท้ายเกมทำอะไรกันไม่ได้เพิ่ม จบเกม อาร์เซน่อล เอาชนะไปได้ 2-0 ตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ แล้ว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล: วอจเซียช เซสนี่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โยฮัน ฌูรู, คีแรน กิ๊บบ์ส - ธีโอ วัลค็อตต์, เดนิลสัน, แจ็ค วิลเชียร์, คาร์ลอส เวล่า - นิคลาส เบนท์เนอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์
สำรอง: เจมส์ เชีย (ผู้รักษาประตู) - บาการี่ ซาญ่า, ซามีร์ นาสรี่, อังเดร อาร์ชาวิน, เคร็ก อีสต์มอนด์, เจย์ เอ็มมานูเอล-โธมัส, ฮาวาร์ด นอร์ดท์เวท

วีแกน: อาลี อัล ฮับซี่ - สตีฟ โกห์อูรี่, สตีเว่น คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลคาราซ, รอนนี่ สตัม - เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เฮนดรี้ โธมัส, เบน วัตสัน, มายนอร์ ฟิเกอรัว - เมาโร โบเซลลี่, วิคเตอร์ โมเซส
สำรอง: ไมเคิล พอลลิตต์ (ผู้รักษาประตู) - ฟรานโก้ ดิ ซานโต้, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, ฆอร์ดี้ โกเมซ, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, คัลลั่ม แม็คมานามาน, จอร์แดน มัสโท

ผู้ตัดสิน: มาร์ติน แอ็ตกินสัน

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปืนบุกอัดวิลล่าสุดมันส์4-2นั่งรองฝูง




"ปืนโต" อาร์เซน่อลแซงขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราวหลังยกพลบุกไปเชือด "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า ดับคาถิ่นแบบสุดมันส์4-2



แอสตัน วิลล่า 2-4 อาร์เซน่อล

"สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า เปิดสนามวิลล่า พาร์ค รับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โดยเจ้าถิ่นส่งโรแบร์ ปิแรส อดีตกองกลางอาร์เซน่อลปั้นเกมรุกวางยอห์น คาริว ยืนหิกเดี่ยว

ฝั่งทีมเยือนขาดเชส ฟาเบรกาสที่เจ็บส่งทมัส โรซิคกี้ ลงมารับบทกัปตันทีมปั้นเกมแดนกลางร่วมกับ ซามีร์ นาสรี่ และ แจ็ค วิลเชียร์ แทน

น.3 ปืนโตหวิดได้เมื่อโทมัส โรซิคกี้ ซัดด้วยขวาในกรอบฝั่งขวาแบอลพุ่งผ่านมือแบร็ด ฟรีเดล ไปแล้วแต่หลุดเสาไกลออกหลังไป

น.25 เป็นโอกาสของวิลล่าบ้างเมื่อสจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ที่โยกมาอยู่ฝั่งขวาเปิดบอลเข้าไปหน้าประตูโรแบร์ ปิแรส ทรอดเข้าไปฆม่งแต่โดนไม่เต็มบอลกระดอนไปที่เสาไกลแอชลี่ย์ ยัง วิ่งเข้ากระโดดแปด้วยซ้ายแต่ยิงไม่ถนัดข้ามคานออกหลังไป

น.39 อาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0 เมื่อกองหลังวิลล่าพลาดกั๊กกันสกัดบอลเลยไปเข้าทางอังเดร อาร์ชาวิน พาจากกลางสนามขึ้นไปทางฝั่งซ้ายแล้วเลี้ยงตัดเข้าไปในกรอบก่อนซัดด้วยขวา เต็มข้อแม้แบร็ด ฟรีเดล จะปัดได้แต่โดนแค่ปลายมือก่อนบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย

นาทีต่อมาปืนหวิดได้อีก อังเดร อาร์ชาวิน แทงบอลทะลุให้ซามีร์ นาสรี่ หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายแล้วแตะหนีแบร็ด ฟรีเดล ไปได้แล้วแต่กองกลางเฟร้นช์แมนยิงเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียวปืนนำ 2-0 อังเดร อาร์ชาวิน เปิดมุมจากฝั่งซ้ายไปตรงกรอบโทษฝั่งขวาซามีร์ นาสรี่ วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งเบียดเสาแรกตุงตาข่ายอย่างสวยงามและจบ ครึ่งแรกอาร์เซน่อลนำ2-0

ครึ่งหลังวิลล่าส่งนาธาน เดลฟูเนโซ่ กองหน้าดาวรุ่งลงสนามแทน โรแบร์ ปิแรสและมาได้ประตูตีไข่แตก1-2 น.52 เมื่อกองหลังปืนโตโหม่งสกัดบอลไม่ขาดไปเข้าทางเคียแรน คล้าร์ก พักอกเอาบอลลงตรงกรอบโทษแล้วซัดด้วยซ้ายเต็มๆบอลพุ่งตุงตาข่าย

น.56 ปืนโตนำ 3-1 โทมัส โรซิคกี้ แทงบอลเข้ากรอบโทษให้มารูอาน ชามัค สลัดหนีริชาร์ด ดันน์ เข้าไปในกรอบโทษแล้วจิ้มสวนตัว แบร็ด ฟรีเดล ตุงตาข่าย

น.70 วิลล่าไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 เมื่อแอชลี่ย์ ยังเปิดมุมฝั่งขวาให้ริชาร์ด ดันน์ โหม่งจากกรอบโทษเสาไกลบอลย้อยกลับไปที่เสาแรกเคียแรน คล้าร์ก ถอยหลังโหม่งเช็ดบอลไปเช็ดคานเข้าประตูไป

จากนั้นวิลล่าโหมบุกหนักแต่ก็ยิงตีเสมอไม่แถมยังเกือบโดนจังหวะโต้กลับของทีมเยือนเล่นงานหลายหนแต่รอดตัวไป

กระทั่งช่วงทดเจ็บแจ็ค วิลเชียร์ โหม่งให้ปืนโตปิดกล่องเป็นลูกที่ 4 ทำให้จบเกมอาร์เซน่อล บุกชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แอสตัน วิลล่า : แบร็ด ฟรีเดล,ลุค ยัง,ริชาร์ด ดันน์,เจมส์ คอลลินส์,สตีเฟ่น วอร์น็อค,สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง,เคียแรน คล้าร์ก,แบร์รี่ แบนแนน,โรแบร์ ปิแรส,แอชลี่ย์ ยัง,ยอห์น คาริว

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้,บาการี่ ซานญ่า,โลร็องต์ กอสซิแอลนี่,เซบาสเตียง สกิลลาชี่,กาแอล กลิชี่,ซามีร์ นาสรี่,อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์,โทมัส โรซิคกี้,อังเดร อาร์ชาวิน,มารูอาน ชามัค

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปืนบุกยิงทอฟฟี่ดับคาถิ่น2-1แซงผีขึ้นรองฝูง




ทัพ"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลเครื่องยังแรงต่อเนื่องยกพลบุกไปไล่ถลุง "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน คา กูดิสัน พาร์ค 2-1 เก็บสามแต้มแซงผีแดงขึ้นรั้งรองจ่าฝูง



เอฟเวอร์ตัน 1-2 อาร์เซน่อล

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ไม่มี มารูอาน เฟลไลนี่ ที่ติดโทษแบน แต่ได้ จอห์นนี่ ไฮติงก้า ฟิตกลับคืนสนาม ขณะที่ เชมัส โคลแมน กลับคืนตัวจริง และแดนหน้ายังเลือก หลุยส์ ซาฮา เล่นตั้งแต่ต้นเกมเหมือนเดิม

ทางฝั่ง ปืนใหญ่ ปรับทัพตำแหน่งเดียว ซามีร์ นาสรี่ กลับมาเป็นตัวจริงแทน โทมัส โรซิชกี้ ส่วนแนวรับยังไม่มี โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ติดโทษแบน ทำให้ โยฮัน ฌูรู ยังต้องยืนเซนเตอร์คู่ เซบาสเตียง สกิลลาชี่

เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกหมัดกันทันที นาทีที่ 10 เป็นโอกาสของ อาร์เซน่อล ก่อน ซามีร์ นาสรี่ หลุดขึ้นทางกราบขวา ลากจี้ ซิลแว็ง ดิสแต็งจนถึงเขตโทษ แต่สุดท้ายมิดฟิลด์เฟร้นช์ซัดไปติดบล็อคกองหลังรุ่นพี่ชาติเดียวกัน

ให้หลังนาทีเดียว เป็นโอกาสทองที่ เอฟเวอร์ตัน น่าจะใส่สกอร์ แต่กลับพลาดเป้า จากจังหวะที่ เชมัส โคลแมน ลากบอลหนี เชส ฟาเบรกาส จากครึ่งสนาม ก่อนชิพไปหน้าประตูให้ ทิม เคฮิลล์ ที่รออยู่โล่งๆ แต่กลับโหม่งข้ามคานออกไปเหลือเชื่อ

รูปเกมของทั้งสองทีมค่อนข้างเคลื่อนที่เร็วทุกจังหวะ นาทีที่ 16 ปืนใหญ่ มีเสียวจังหวะเข้าทำ แจ็ค วิลเชียร์ พักบอลคืนหลังให้ อังเดร อาร์ชาวิน วิ่งเข้ามาวอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 25 หลา บอลติดไซด์ก้อยเลี้ยวหนีเสาสอง

นาทีที่ 21 เป็นจังหวะประสานงานสวยๆ ของทีมเยือนอีกครั้ง ชามัค ป้ายบอลเข้าเขตโทษให้ นาสรี่ ไขว้หลังไปถึง แจ็ค วิลเชียร์ ที่สอดขึ้นมาพอดี พยายามลากหนี ดิสแต็ง ในเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ยังซัดด้วยขวาแฉลบออกหลัง

นาที 36 อาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0 เริ่มจาก นาสรี่ ยิงไกลด้วยเท้าซ้าย ฮาวเวิร์ด พุ่งปัดออกมา อาร์ชาวิน เก็บได้ตรงสุดเส้นหลังด้านขวาแล้วจ่ายสั้นๆ ให้ บาการี่ ซานย่า แบ็กขวาที่เติมขึ้นมาในกรอบโทษ จับแล้วยิงเท้าขวามุมแคบ บอลพุ่งแสกหน้า ฮาวเวิร์ด ยัดเสาแรกเสียบเพดานตาข่ายเข้าไปอย่างสุดสวย

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกออกไป 1 นาที เจ้าบ้านมีลุ้นจากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย มิเกล อาร์เตต้า โยนลึกโค้งไปที่เสาสอง หลุยส์ ซาฮา พยายามโหม่งกลับเข้ามาแต่บอลไปชนเสา ซึ่งผู้ช่วยผู้ตัดสินสะบัดธงว่าออกไปแล้ว ทั้งที่บอลยังออกไปไม่เต็มใบจบครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มได้สองนาทีเศษอาร์เซน่อล ออกนำ 2-0 เมื่อเดนิลสันไหลบอลให้เชส ฟาเบรกาส สะกิดต่อให้มารูยาน ชามัคห์ในกรอบฝั่งขวาก่อนที่ชามัคห์แทงบอลให้ฟาเบรกาสซัดด้วยขวาบอลลอดขาฟิล จาเกียลก้า ที่พุ่งมาบล็อคหนีมือทิม ฮาวเวิร์ด เสียบเสาไกลตุงตาข่าย

นาที 49 ทอฟฟี่ได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้ากรอบโทษกลางประตู25 หลาเลห์ตัน เบนส์ รับหน้าที่สังหารปั่นด้วยซ้ายแต่ลูคัส ฟาเบียนสกี้ นายด่านทีมเยือนยังไม่พลาดรับได้หนึบ

นาที 60 นาสรี่ พาบอลจากครึ่งสนามเข้าไปถึงหน้ากรอบประตูเอฟเวอร์ตันก่อนกระชากหนีจาเกีย ลก้า เข้าไปในกรอบฝั่งขวาแล้วซัดด้วยขวาเต็มๆแต่ทิม ฮาวเวิร์ดทุบออกไปได้

นาทีต่อมาปืนโตได้ลุ้นอีกเมื่อนาสรี่ แทงบอลให้เชส ฟาเบรกาส หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งขวาแล้วเปิดยัดไปหน้าประตูมารูอาน ชามัค พุ่งชาร์ตจ่อๆ 4 หลาข้ามคานเหลือเชื่อ

นาที 80 เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด หัวหอกตัวสำรองเจ้าถิ่นได้หมุนตัวซัดด้วยขวาเต็มๆตรงจุดโทษแต่ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ยังพุ่งปัดออกหลังไปได้

นาที 89 เจ้าถิ่นตีไข่แตก 1-2 เมื่อสตีเว่น พีนาร์ เปิดจากซ้ายไปหน้าประตูหลุยส์ ซาฮา โหม่งที่เสาไกลให้ทิม เคฮิลล์ ซัดจ่อๆตุงตาข่าย

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มทำให้จบเกมอาร์เซน่อล บุกชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 แซงแมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นรั้งรองจ่าฝูง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด,ฟิล เนวิลล์,ฟิล จาเกียลก้า,ซิลแว็ง ดิสแต็ง,เลห์ตัน เบนส์,เชมัส โคลแมน,จอห์นนี่ ไฮติงก้า,มิเกล อาร์เตต้า,สตีเว่น พีนาร์,ทิม เคฮิลล์,หลุยส์ ซาฮา

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้,บาการี่ ซานย่า,โยฮัน ฌูรู,เซบาสเตียง สกิลลาชี่,กาแอล กลิชี่,ซามีร์ นาสรี่,อเล็กซ์ ซง,แจ็ค วิลเชียร์,เชส ฟาเบรกาส,อังเดร อาร์ชาวิน,มารูอาน ชามัค

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ชามัคห์อย่างหล่อ!!กดเบิ้ลพาปืนบุกโซ้ยหมาป่า 2-0




ชามัคห์อย่างหล่อ!!กดเบิ้ลพาปืนบุกโซ้ยหมาป่า 2-0

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2010-11
วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2553

วูลฟ์แฮมป์ตัน 0:2 อาร์เซน่อล

สนาม : โมลินิวซ์ กราวด์
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์
สภาพอากาศ : ท้องฟ้าสดใส อุณภูมิ 0C~10C ความชื้น 87%
ผู้ทำประตู : [0:1]ชามัคห์ น.1, [0:2]ชามัคห์ น.90
ผู้ชม : 27,329 คน

เริ่มเกมมาได้เพียง 1 นาที อาร์เซน่อล ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจาก อเล็กซ์ ซง เปิดบอลให้กับ มารูยาน ชามัคห์ เข้าโขกจมตาข่าย 1:0

จากนั้นเกมเป็นของปืน ที่ครองบอลได้ดีกว่าและนาที 23 อังเดร อาร์ชาวิน ได้โอกาสยิงแต่ก็แรงข้ามคาน ถัดมา 3 นาทีโอกาสของเจ้าบ้านจาก มิลิยาส ทว่ายิงไปตรงตัว ฟาเบียนสกี้

นาที 36 อาร์ชาวิน มีโอกาสเข้าทำหน้าประตูแต่จังหวะชาร์จไม่โดนบอลเสีย จากนั้นสองนาที ฮันท์ ได้โอกาสส่อง ฟาเบียนสกี้ ต้องออกแรงปัดบอลทิ้ง

ช่วงท้ายครึ่งแรกต่างยังทำอะไรกันไม่ได้มาก หมด 45 นาที อาร์เซน่อล ยังนำวูลฟ์แฮมป์ตัน อยู่ 1:0

กลับมาเล่นกันต่อนาที 56 เจ้าบ้านน่าได้ประตูจาก คาร์ล เฮนรี่ ได้โอกาสสับไกทว่าบอลไม่ตรงประตู

นาที 60 เควิน ดอยล์ มีโอกาสบ้างแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ ฟาเบียนสกี้ ปัดบอลได้ทัน ถัดมา 4 นาทีเป็นโอกาสของทีมเยือน สกิลลาชี่ ได้โหม่งก่อนโดน ดอยล์ เคลียร์ทิ้ง

ช่วงท้ายเกม!! อาร์เซน่อล มาได้ประตูตอกฝาโล่งจากเจ้าเก่า มารูยาน ชามัคห์ ยิงผ่าน ฮาห์นีมันน์ เข้าไปจนจบเกมการแข่งขัน อาร์เซน่อล บุกมาเอาชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน ไปได้ 2:0


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

วูลฟ์แฮมป์ตัน ระบบ 4-5-1
ผู้รักษาประตู : มาร์คัส ฮาห์นีมันน์
กองหลัง : เควิน โฟลี่ย์, ริชาร์ด สเตียร์แมน, คริสตอฟ เบอร์ร่า, สตีเฟ่น วอร์ด(เฟลทเชอร์ น.88)
กองกลาง : เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์(ฮันท์ น.8), แมนเซียนน์(เบล็ค น.80), คาร์ล เฮนรี่, เนนาด มิลิยาส, แม็ทธิว จาร์วิส
กองหน้า : เควิน ดอยล์

อาร์เซน่อล ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ลูคัส ฟาเบียนสกี้
กองหลัง : บาการี่ ซานญ่า, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, โยฮัน ฌูรู, กาแอล กลิชี่
กองกลาง : อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์(เดนิสัน น.68) - โทมัส โรซิคกี้, เชส ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน(นาสรี่ น.90)
กองหน้า : มารูยาน ชามัคห์(เบนด์เนอร์ น.90)

นาที 77 วูล์ฟ ได้เตะฟรีคิกเปิดไปหน้าประตูให้ ฮันท์ แต่กรรมการเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปืนติ๊ดชึ่งจนพัง!สาลิกาบุกเชือดคาถิ่น1-0




อาร์เซน่อลมัวแต่เล่นบอลสวยงามแถมโดนซูเปอร์เซฟ ทิม ครูลเลยยิงไม่ได้ซะทีสุดท้ายโดนแอนดรูว์ แคร์โรลล์โหม่งประตูชัยพานิวคาสเซิ่ลบุกเชือดดับคาถิ่น1-0



อาร์เซน่อล 0- นิวคาสเซิ่ล 1

สนาม : เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเดอะ กันเนอร์ส ปรับแนวรุกเล็กน้อยส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงเล่นแทน อังเดร อาร์ชาวิน มี มารูอาน ชามัค ยืนค้ำแดนหน้า ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยังใว้ใจในคู่หัวหอก แอนดรูว์ คาร์โรลล์ กับ โชล่า อเมโอบี้

น.12 อาร์เซน่อลพลาดได้ประตูขึ้นนำจากลูกยิงฟรีคิก 30 หลาของเชส ฟาเบรกาส ปั่นไปแฉลบกำแพงผ่านมือ ทิม ครูล ไปแล้วแต่บอลชนคานอย่างน่าเสียดาย

น.18 เดอะ กันเนอร์สมีลุ้นต่อเนื่อง ฟาเบรกาส อาศัยความสามารถเฉพาะพาบอลเข้าเขตโทษก่อนพลิกตัวยิงระยะ 15 หลาบอลพุ่งตรงกรอบแต่ไปติดบล็อกออกหลัง

น.39 ทีมเยือนพลาดเสียบอลในแดนตัวเองเกือบทำให้ตามหลัง เมื่อ ซามีร์ นาสรี่ ไหลเข้าช่องให้ เชส ฟาเบรกาส หลุดเข้าเขตโทษด้านขวายิงยัดเสาแรกติดเซฟ ทิม ครูล

น.40 จังหวะต่อเนื่อง ฟาเบรกาสเล่นเตะมุมสั้นรับบอลคืนกลับมาก่อนบรรจงไหลใส่พานให้ นาสรี่ ตวัดยิงแถวเส้นโทษบอลกำลังเสียบใต้คานแต่ ครูล พุ่งปัดได้ปลายมืออย่างยอดเยี่ยม

นาทีสุดท้ายเป็นนิวคาสเซิ่ลที่บุกมานำ 1-0 จากจังหวะที่ โจอี้ บาร์ตัน เปิดฟรีคิกกลางสนามไปหน้าประตู แอนดรูว์ คาร์โรลล์ ขึ้นโหม่งตัดหน้า ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ตุงตาข่ายโล่งๆ เข้าไป

ครึ่งหลังนาที 48 แจ็ค วิลเชียร์ แทงบอลทะลุแนวรับทีมเยือนเข้าไปในกรอบโทษฝั่งขวาธีโอ วัลค็อตต์ แตะบอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวาเต็มๆบอลพุ่งชนคานกระดอนอย่างจัง

น.67 ทีมเยือนได้ลุ้นเมื่อกองหลังเจ้าถิ่นโหม่งเคลียร์ลูกเตะมุมไม่ขาดแอนดี้ แคร์โรลล์ ได้ซัดในกรอบแต่บอลแฉบลนักเตะอาร์เซน่อลออกหลังไป

น.81 อังเดร อาร์ชาวิน แตะบอลหนีกูเตียร์เรซพาเข้าไปในกรอบแล้วบรรจงเปิดให้เชส ฟาเบรกาส พุ่งโหม่งตรงจุดโทษแต่บอลตรงตัว ทิม ครูล

น.83 นิวคาสเซิ่ลได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกราว 30 หลาโจอี้ บาร์ตัน วิ่งเข้าซัดด้วยขวาบอลทะลุกำแพงแต่ตรงตัวลูคัส ฟาเบียนสกี้ ล้มตัวรับเข้าซองหนึบ

ช่วงทดเจ็บโลร็องต์ กอสซิแอลนี่ไปเหนี่ยวเรนเจอร์สที่กำลังจะแตะบอลหลุดเดี่ยวล้มลง ไมค์ ดีน เป่าฟาวล์พร้อมควักใบแดงไล่กอสซิแอลนี่ออกจากสนามไปจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมอาร์เซน่อล พ่าย นิวคาสเซิ่ลคาบ้าน0-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้,บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่,ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, เชส ฟาเบรกาส,ซามีร์ นาสรี่,มารูอาน ชามัค

นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล,แดนนี่ ซิมพ์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้,โจอี้ บาร์ตัน, ชีค ติโอเต้, เควิน โนแลน, โฮนาส กูเตียร์เรซ ,โชล่า อเมโอบี้, แอนดรูว์ แคร์โรลล์

วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปืนน้ำลายเหนียวบี้ค้อนหืด1-0




"ปืนโต" อาร์เซน่อล หวิดแย่เปิดเกมบดอยู่นานต้องรอท้ายเกมจึงจะได้ประตูชัยดับเวสต์แฮม 1-0 ขณะที่แมนฯ ซิตี้บุกพ่ายวูล์ฟส์ 1-2


อาร์เซน่อล 1 - เวสต์แฮม 0

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อลยังวางชุดใหญ่นำโดย เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม หน้าเป้าเป็น มารูอาน ชามัค โดยมี อังเดร อาร์ชาวิน กับ ซามีร์ นาสรี่ เป็นแนวรุกร่วม ด้านเวสต์แฮมวาง เฟรเดริค ปิกิยอน เป็นหอกเดียว แล้วอัดกลางแน่น 5 ตัว

น.7 ปืนใหญ่ทักทายก่อน จากจังหวะที่ อังเดร อาร์ชาวิน เลี้ยงเข้ากรอบโทษด้านซ้ายก่อนจะล็อกมายิงหักข้อด้วยขวาหลุดเสาแรกไป

น.24 น่าได้สุดๆ สำหรับอาร์เซน่อล ลูกนี้ บาการี่ ซาญ่า ได้บอลในเขตโทษไปถึงสุดเส้นแล้วหักเข้ากลางมาที่ เชส ฟาเบรกาส แปเน้นๆ ติดมือ โรเบิร์ต กรีน ที่พุ่งเซฟได้เอย่างเหลือเชื่อ

น.36 โอกาสของเวสต์แฮมบ้าง มาร์ค โนเบิ้ล ลองตั้งป้องยิงไกลจากนอกเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว ลูคัสซ์ ฟาเบียนส์กี้ รับเข้าซอง

น.45 ปืนสวนมาอีกทีเกือบได้เหมือนกัน จากลูกเตะมุม ซามีร์ นาสรี่ เปิดมาให้ เซบาสเตียง สกิลลาชี่ โหม่งเจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ กรีน ยังบินปัดได้อีก หมดครึ่งแรกยังไม่มีสกอร์

ครึ่งหลังน.49 ปือังเดร อาร์ชาวิน ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งขวาแต่ซัดด้วยซ้ายออกเสาไกลไป

น.53 ซามีร์ นาสรี่ ซัดฟรีคิกด้วยขวาเต็มๆบอลพุ่งข้ามกำแพงไปชนคานบนกระดอนออกหลังอย่างน่าเสียดาย

น.71 ปืนโตน่าได้สุดๆเมื่อธีโอ วัลค็อตต์ หลุดเข้าไปซัดในกรอบฝั่งขวาบอลผ่านมือโรเบิร์ต กรีน ไปแล้วแต่ชนเสาไกลกระเด้งกลับไปเข้าซองกรีนที่เสาแรกหน้าตาเฉย

น.73 ทีมเยือนหวิดได้เหมือนกันมาร์ค โนเบิล เปิดมุมเข้าไปหน้าประตูมานูเอล ดา คอสต้า ขึ้นโหม่งเหน่งๆแต่บอลเด้งเข้าซองลูคัส ฟาเบียนสกี้

น.87 อาร์เซน่อลนำ 1-0 เมื่อกาแอล กลิชี่ เปิดบอลจากริมกรอบฝั่งซ้ายไปหน้าประตูอเล็กซ์ ซง พุ่งโหม่งที่เสาไกลตุงตาข่าย

จากนั้นเจ้าถิ่นยังครองเกมบุกได้มากกว่าแต่ยิงประตูไม่ได้ทำให้จบเกมอาร์เซน่อล ชนะ เวสต์แฮม 1-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : ลู คัส ฟาเบียนสกี้,บาการี่ ซาญ่า,โลร็องต์ กอสซิแอลนี่,เซบาสเตียง สกิลลาชี่,กาแอล กลิชี่,ซามีร์ นาสรี่,อเล็กซ์ ซง,เดนิลสัน,เชส ฟาเบรกาส,อังเดร อาร์ชาวิน,มารูอาน ชามัค

เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน,ลาร์ส ยาค็อบเซ่น,มานูเอล ดา คอสต้า,แดนนี่ แก็บบิดอน,เอร์ริต้า อิลุงก้า,วาลอน เบห์รามี่, สกอตต์ พาร์เกอร์,มาร์ค โนเบิล,หลุยส์ บัวม็อต,วิคเตอร์ โอบินน่า,เฟรเดริค ปิกิยอน

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วัลค็อตต์กดเบิ้ล!ปืนบุกถล่มสาลิกา4-0ลิ่ว8ทีมคาร์ลิ่ง




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล บุกไปเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล คู่ปรับร่วมลีกสบาย 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ เรียบร้อย


ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบสี่
วัน พุธ ที่ 27 ตุลาคม 53
นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก) 0 - 4 อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก)


สนาม : เซนต์ เจมส์พาร์ค


เกมคู่ใหญ่ที่เซนต์ เจมส์พาร์ค นิวคาสเซิ่ลซึ่งแผลงฤทธิ์บุกไปเขี่ยเชลซีตกรอบสามปรับทีมหลายตำแหน่งจากนัด บุกไปชนะเวสต์แฮม 2-1 ในพรีเมียร์ลีกโดยคงแค่ทิม ครูลกับไมค์ วิลเลี่ยมสันเอาไว้ในโผตัวจริงซึ่งมีอลัน สมิธกัปตันทีม และปีเตอร์ โลเวนครานด์สได้ร่วมบู๊

ด้านอาร์เซน่อลก็เปลี่ยนผู้เล่นเก้ารายเหลือแค่โยฮัน ฌูรูกับเดนิลสันจากนัดบุกสยบแมนฯ ซิตี้ 3-0 โดยมีนายทวารวัย 20 ปีวอยเซียจ เซคเซสนีย์ได้ลงเฝ้าเสา ขณะที่โลร็องต์ กอสซิแอลนี่กองหลังที่สมบูรณ์แล้วก็ได้ลงเล่นเช่นเดียวกับธีโอ วัลค็อตต์

ขณะเดียวกัน เดอะ กันเนอร์สยังใส่ชื่อฮาร์วาร์ด นอร์ดวีตกองหลังดาวรุ่งชาวนอรเวย์เอาไว้ที่ซุ้มม้านั่งสำรองด้วย

เริ่มเกมมาได้แค่ 15 วินาทีทีมเมืองกรุงก็มีเสียวเมื่อคาร์ลอส เวล่าสบโอกาสหลุดเข้าไปตะบันระยะ 12 หลา ทว่าครูลโชว์เหนียวเซฟได้เยี่ยม

และจากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ลอยไปเสาไกล นิคลาส เบนด์เนอร์ก็ได้สับไกเหน่งสองหนติดบล็อคของวิลเลียมสันทั้งสองครั้ง และครั้งที่สามกองหน้าเดนส์ก็เข่นไปถูกครูลรับได้

จากนั้นในนาทีที่ 2 นิวคาสเซิ่ลก็ได้ลุ้นบ้างเมื่อฮาริส วุคคิชพาบอลบุกขึ้นริมสนามและฝ่าเข้าเขตโทษด้านซ้ายได้ แต่จังหวะตะบันส่งบอลตุงตาข่ายด้านข้าง

ผ่านมาถึงนาทีที่ 4 เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ได้กดจาก 20 หลาถูกครูลรับได้อีก และนาทีต่อมาโทมัส โรซิชกี้ก็จ่ายบอลให้เบนด์เนอร์หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปซัลโวส่งบอลหลุดเสา ไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น

กระทั่งนาทีที่ 14 กองเชียร์ทูน อาร์มี่ก็เกือบได้ไชโยจากการโต้ยาวที่ทำให้ไนล์ เรนเจอร์หลุดไปแตะหลบเซคเซสนีย์ที่วิ่งออกมาถึงหน้าเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายกลับเงื้อง่าราคาแพงเลยเข่นจาก 12 หลาไปติดบล็อคของกอสซิแอลนี่หลุดออกเส้นข้าง

และจากลูกทุ่มด้านขวาของเจ้าบ้านที่ปืนโตเคลียร์กันไม่ขาด สมิธก็ได้กระทุ้งเต็มแรงจาก 25 หลา ทว่าเซสนีย์ปัดได้ด้วยปลายนิ้วทำให้บอลพุ่งชนคานอย่างน่าเสียวไส้

ผ่านมาถึงนาทีที่ 19 คีแรน กิ๊บบ์สที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนก็เล่นต่อไม่ไหว ต้องเดินออกจากสนามไปทำให้บาการี่ ซาญ่าถูกส่งลงไปแทน

และนับจากนั้นก็เป็นทีมเยือนที่ทำเกมบุกได้ดีกว่า แต่จังหวะจะโคนยังไม่น่ากลัว ต้องรอจนถึงนาทีที่ 38 ก่อนที่เบนด์เนอร์จะโยกพาบอลตัดจากกราบซ้ายลุยเข้าเขตโทษไปซัดระยะ 14 หลา แต่ไม่มีน้ำหนักจึงถูกครูลรับกินสบาย

ขยับมาอีกสองนาที เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ก็เลื้อยขึ้นทางซ้ายไปแตะหลบไรอัน เทย์เลอร์ทะลุเข้าเขตโทษได้ แต่ตัดสินใจสับไกจากสุดเส้นหลังหมายยัดเสาแรก ทำให้บอลพุ่งเข้าอัดหน้าต่าง

นาทีที่ 43 ทีมปืนใหญ่ซึ่งเร่งเกมเต็มสูบมีลุ้นอีกหนจากจังหวะที่เดนิลสันทำชิ่งคืนให้ เบนด์เนอร์ซัลโวจาก 20 หลา ทว่ายังเบาหวิวเหมือนเดิมจึงไม่ผ่านมือครูล

อย่างไรก็ดี เข้าสู่ช่วงทดเวลาเจ็บ ตาข่ายของเจ้าบ้านก็ขาดจนได้จากลูกเตะมุมด้านซ้ายของอาร์เซน่อลที่ครูลขยับ ออกไปชกทิ้ง แต่ทีมปืนใหญ่หนุนลูกโด่งกลับเข้าไปโดยเบนด์เนอร์ได้โขกจาก 12 หลาไปที่หน้าประตูแล้วเทย์เลอร์โขกสกัดจากบนเส้นไปชนหลังศีรษะของครูลกระดอน เข้าสู่ก้นตาข่าย จึงเป็นอันว่าอาร์เซน่อลนำในครึ่งแรก 1-0 จากการพังประตูตัวเองของนายทวารเดอะ แม็คพายส์

เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงสองนาที สมิธก็ปรี่เข้าสอยวัลค็อตต์ที่อาศัยสปีดเลื้อยขึ้นทางริมเส้นจึงรับใบเหลืองตามระเบียบ

จากนั้นในนาทีที่ 53 กองเชียร์สาลิกาก็ต้องเซ็งเมื่อแนวรับดันกันขึ้นสูงเพื่อหนุนเกมรุกแล้วโดน อาร์เซน่อลโต้ยาวขึ้นมา แม้เบนด์เนอร์จะล้ำหน้าแต่กองหน้าร่างยักษ์ไม่เล่นบอล ปล่อยให้วัลค็อตต์ควบไปหาบอลแล้วลากหนีสองกองหลังเข้าเขตโทษไปชิพจาก 14 หลาผ่านครูลตุงตาข่ายเพิ่มสกอร์ให้เดอะ กันเนอร์สนำ 2-0

เข้าอีหรอบนี้ เจ้าถิ่นจึงอยู่เฉยไม่ได้ ต้องเปลี่ยนทั้งแอนดรูว์ แคร์โรลล์และโฮนาส กูตียร์เรซลงไปแทนเวย์น เราท์เลดจ์ และปีเตอร์ โลเวนครานดส์ในนาทีที่ 57

ถึงกระนั้น ทีมเยือนยังคงพับสนามบุกอย่างสนุกเท้า แถมส่งเชส ฟาเบรกาสลงไปแทนเวล่าในนาทีที่ 71 ขณะที่ทีมอีสานปล่อยโจอี้ บาร์ตันลงไปแทนสมิธ

เจ้าถิ่นบุกอยู่เพลินๆ กลับต้องมาสังเวยประตูที่ 3 ในนาทีที่ 82 จากจังหวะโต้กลับ เชส ฟาเบรกาส จ่ายบอลให้กับ นิคลาส เบนด์เนอร์ แตะหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดด้วยขวาในกรอยเขตโทษ บอลพุ่งเข้าประตูอย่างสวยงาม

เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 88 ปืนโต ก็มาได้ประตูปิดท้ายเป็น 4-0 ธีโอ วัลค็อตต์ ได้บอลหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ทิม ครูล ก่อนแปสวนตัวเข้าไปจบเกม อาร์เซน่อล บุกมาเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล หายห่วง 4-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล , เจมส์ เพิร์ช , ไมค์ วิลเลียมสัน , ทามาส คาดาร์ , ไรอัน เทย์เลอร์ ,เวย์น เราท์เลดจ์ , แดนนี่ กัธรี่ , อลัน สมิธ ,ฮาริส วุคคิช , ปีเตอร์ โลเวนครานดส์ , ไนล์ เรนเจอร์

สำรอง : โอเล่ โซเดอร์เบิร์ก , ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ , ซานเชซ โฆเซ่ เอ็นริเก้ , โจอี้ บาร์ตัน , แอนดรูว์ แคร์โรลล์ , โฮนาส กูเตียร์เรซ , เชค ติโอเต้

อาร์เซน่อล : วอยเซียจ เซคเซสนีย์ , เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ , โยฮัน ฌูรู , โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ย์ , คีแรน กิ๊บบ์ส , เดนิลสัน , เคร็ก อีสต์มอนด์ , โทมัส โรซิชกี้ , ธีโอ วัลค็อตต์ , นิคลาส เบนด์เนอร์ , คาร์ลอส เวล่า

ตัวสำรอง : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ , บาการี่ ซาญ่า , เชส ฟาเบรกาส , อังเดร อาร์ชาวิน ,เจย์ เอ็มมานูเอล โธมัส , เฮนรี่ ลันสบิวรี่ , ฮาร์วาร์ด นอร์ดวีต

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เวนเกอร์หน้าบานปืนใหญ่จมเรือใบคาบ้าน




อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ไม่เก็บอาการ กล่าวชมลูกทีม แมตช์บุกทุบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยกย่องเป็นฟอร์มสุดสมบูรณ์แบบ พร้อมชม ลูคัส ฟาเบียนสกี้ โกล์จอมหนึบ ที่โชว์ฟอร์มเทพ เซฟประตูเป็นพัลวันในแมตช์นี้


อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมเลือดเฟร้นช์ของ อาร์เซน่อล รองจ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก กล่าวยกย่องผลงานของแข้ง "ไอ้ปืนใหญ่" ที่บุกไปถล่ม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 คาสนาม ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เกม นี้เจ้าบ้านเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ตั้งแต่ 5 นาทีแรก หลัง เดดริก โบยาต้า ทำฟาวล์ มารูยาน ชามัคห์ หน้ากรอบเขตโทษ หลังจากนั้นก็เป็น อาร์เซน่อล ที่เปิดฉากยำใหญ่ และได้ 3 ประตู จากฝีเท้าของ ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง และ นิคลาส เบนท์เนอร์ โดย เวนเกอร์ กล่าวหลังจบแมตช์ว่า "มันเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ในการสู้กับทีมที่มีแค่ 10 คน แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดหลักแหลม และเราค่อยๆ ควบคุมเกม"

"บาง ครั้งเราก็เล่นโดยมีผู้เล่น 11 คน สู้กับคู่แข่งแค่ 10 คน แต่ไม่ชนะ เมื่อคุณมองไปที่คะแนนที่เราทำหลุดมือ และกับโชคร้ายที่เราต้องเจอ บางทีวันนี้เราคงขึ้นนำจ่าฝูงไปแล้ว เรามีแนวทางการเล่นที่ดีมาก เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สปิริตที่สุดยอด และเราก็ทำผลงานได้ดีจริงๆ"

นอก จากนี้ อดีตโค้ช โมนาโก กล่าวชมฟอร์มเหนียวหนึบของ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ นายทวารเลือดโปล โดยเฉพาะจังหวะยิงของ ดาบิด ซิลบา ปีกเลือดกระทิงของ แมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่นาทีแรกว่า "เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเหมือนกับที่เขาเคยทำมาทุกๆ ครั้ง โอกาสครั้งแรกของพวกเขา และเขาก็ป้องกันจังหวะนั้นได้ตั้งแต่นาทีแรก และผมไม่สามารถตำหนิอะไรเขาได้เลย"

ส่วนเกม คาร์ลิ่ง คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ ที่ต้องพบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นั้น เวนเกอร์ เผยว่า "ผมคงจะต้องเช็กอาการบาดเจ็บของนักเตะในวันพรุ่งนี้ แต่มีผู้เล่นบางคน (ที่ลงสนามในแมตช์พบ แมนฯ ซิตี้) คงจะต้องลงเล่น เราจะเล่นร่วมกันเป็นทีม มีนักเตะบางคนที่ต้องการลงสนาม และเราอยากให้พวกเขาได้มีโอกาสที่ดีในการได้ผ่านเข้ารอบ ซึ่งเราจะเล่นกับทีมที่แข็งแกร่ง"

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ซัดกันนัว!ปืนใหญ่รัวชัคเตอร์ 5:1




ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสาม กลุ่มเอช

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2553

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 5:1 ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน)

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : เซอร์เวียน อ็อดวาร์ โมน(นอร์เวย์)
เวลาเตะ : 01:45 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7
ผู้ทำประตู: [1-0]อเล็กซ์ ซง น.19, [2-0]ซามีร์ นาสรี่ น.42, [3-0]เชส ฟาเบรกาส น.60, [4-0]แจ็ค วิลเชียร์ น.66, [5-0]มารูยาน ชามัคห์ น.69, [5-1]เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา น.82
ผู้ชม: 60,016 คน

เกมนี้"ปืนใหญ่"อาร์เซน่อล จะได้เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมชาวสแปนิชกลับมาบัญชาเกมในแดนกลางอีกครั้งหลังหายจากอาการบาดเจ็บ

ส่วน ชัคเตอร์ โดเนทส์ค ใช้ หลุยส์ อาเดรียโน่ ดาวยิงชาวบราซิเลี่ยนเป็นหน้าเป้า ส่วน "ดูดู้"เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา อดีตดาวยิงอาร์เซน่อลได้นั่งเป็นตัวสำรองในเกมนี้

ครึ่งแรก

เจ้าบ้านอาร์เซน่อลเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน อยู่ในเสื้อสีแดง กางเกงขาว ส่วนชัคเตอร์ อยู่ในเสื้อสีขาว กางเกงดำ

นาทีที่ 19อาร์เซน่อลก็มาได้ลูกส้มหล่นจากจังหวะที่ อังเดร ปียาตอฟ ผู้รักษาประตูชาวยูเครนของชัคเตอร์ รับลูกพลาดในกรอบเขตโทษบอลเข้าทาง โยฮัน ฌูรู เข้าแหย่กดดันกระดอนมาถึง อเล็กซ์ ซง ไขว้ยิงเข้าไปแบบง่ายๆให้อาร์เซน่อลขึ้นนำทันที 1:0

นาทีที่ 23อาร์เซน่อลเกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ มารูยาน ชามัคห์ โหม่งตั้งมาให้ ซามีร์ นาสรี่ ตั้งป้อมซัดแต่คราวนี้ อังเดร ปียาตอฟ ไม่พลาดรับได้สบาย

เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมงนอกจากประตูแรกแล้วโอกาสยิงจะจะของทั้ง สองทีมยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่เป็นอาร์เซน่อลที่ใช้แผนกดดันบีบพื้นที่ตั้งแต่แดนหน้าทำให้แย่งบอลจาก นักเตะชัคเตอร์มาครองได้มากกว่า

นาทีที่ 41ชัคเตอร์มีโอกาสจากลูกเตะมุมของดาริโย เซอร์น่า เปิดมาที่หน้าประตูกองหลังอาร์เซน่อลเคลียร์บอลออกมาเข้าทาง รัซวาน รัต ตั้งป้อมซัดด้วยซ้าย บอลไซด์ก้อยออกไป

แต่แล้วนาทีที่ 42อเล็กซ์ ซง เปิดบอลจากฝั่งขวามาให้ ซามีร์ นาสรี่ เกี่ยวเอาบอลลงแบบเหนือชั้นก่อนซัดด้วยซ้ายส่งบอลตุงตาข่าย อาร์เซน่อลขึ้นนำ 2:0 จบครึ่งแรก อาร์เซน่อลออกนำชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค 2:0

ครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลังชัคเตอร์เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นบ้าง ทีมเยือนมีการเปลี่ยนตัวส่ง ดั๊กลาส คอสต้า ลงมาแทน วิลเลี่ยน ส่วนอาร์เซน่อลยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม

เปิดฉากมาแค่นาทีเดียว ชัคเตอร์ เกือบได้ประตูตีไข่แตก เฮนริค เอ็มคิตารียาน แทงทะลุช่องให้ หลุยส์ อาเดรียโน่ หลุดเข้าไปยิง แต่ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ยังเหนียวออกมาป้องกันเอาไว้ได้

นาทีที่ 59อาร์เซน่อลได้เตะฟรีคิก ฟาเบรกาสเปิดเข้ามาหน้าประตู โยฮัน ฌูรู โดนหลุยส์ อาเดรียโน่เหนี่ยวล้มลง ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นลูกจุดโทษทันที และเป็น เชส ฟาเบรกาส ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือซาก อาร์เซน่อลนำห่าง 3:0 พร้อมโชว์เสื้อสกรีน "สู้เพื่อแม่โชว์"

นาทีที่ 63อาร์เซน่อลส่งเดนิลสันลงมาแทนเชส ฟาเบรกาส เพื่อให้พัก ส่วนชัคเตอร์ ส่ง"ดูดู้"เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ลงมาแทน หลุยส์ อาเดรียโน่ ผู้ทำเสียลูกจุดโทษ

แต่นาทีที่ 66แจ็ค วิลเชียร์ ทำชิ่ง 1-2 กับโทมัส โรซิคกี้ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนชิบข้ามตัวอังเดร ปียาตอฟเข้าไปอย่างเหนือชั้น อาร์เซน่อลหนีไปเป็น 4:0

เท่านั้นยังไม่พอนาทีที่ 69ซามีร์ นาสรี่ ชิบบอลข้ามกองหลังชัคเตอร์ ให้มารูยาน ชามัคห์ เอาบอลลงนิ่มๆลังเลมองซายมองขวาดูไลน์แมน เมื่อไม่เห็นธงสบัดก็จัดการยิงเข้าไปนิ่มๆให้อาร์เซน่อลนำชัคเตอร์ 5:0

นาทีที่ 72อาร์เซน่อลเปลี่ยนตัวอีก 2 โควต้าเอา ซามีร์ นาสรี่ ,มารูยาน ชามัคห์ออก ส่ง ธีโอ วัลค็อตต์, อังเดร อาร์ชาวินลงมาแทน

แต่นาทีที่ 82ชัคเตอร์ ก็มาได้ประตูตีไข่แตกจาก เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ซัดระยะ12หลาเข้าไป ชัคเตอร์ตามมาเป็น 1:5 แถมไม่แสดงอาการดีใจเพราะเป็นมารยาทการยิงประตูทีมเก่าของเขาเอง ทำให้แฟนบอลอาร์เซน่อลลุกขึ้นปรบมือให้ลั่นสนาม พร้อมชูป้าย ยินดีต้อนรับดูดู้กลับบ้าน

จบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านถล่มชัคเตอร์ โดเนทส์คกระจาย 5:1รวม 3 นัดอาร์เซน่อลถล่มคู่ต่อสู้ถึง 14 ประตูนับว่าเป็นสถิติที่สวยหรูเลยทีเดียว


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมที่ลงสนาม

อาร์เซน่อล: ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ลูคัส ฟาเบียนสกี้
กองหลัง : เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โยฮัน ฌูรู, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่
กองกลาง : อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่(อังเดร อาร์ชาวิน น.72), เชส ฟาเบรกาส(เปอร์เรร่า เนเวส เดนิลสัน น.63), โทมัส โรซิคกี้
กองหน้า : มารูยาน ชามัคห์(ธีโอ วัลค็อตต์ น.72)
ผู้เล่นสำรอง : โวเซียส ซิสเซสนี่ย์, วาสซิริกี้ อาบู ดิยาบี้, ธีโอ วัลค็อตต์, เปอร์เรร่า เนเวส เดนิลสัน, อังเดร อาร์ชาวิน, คีแรน กิบบ์ส, นิคคลาส เบนด์ทเนอร์


ชัคเตอร์ โดเนทส์ค: ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : อังเดร ปียาตอฟ
กองหลัง : ดาริโย เซอร์น่า, โอเล็คซานเดอร์ คูเชอร์, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, รัซวาน รัต
กองกลาง : โอเล็กเซ ไก(ยาดสัน โรดริเกวส น.68), โทมัส ฮุบช์มัน, อเล็กซ์ เตเซร่า, เฮนริค เอ็มคิตารียาน, วิลเลี่ยน(ดั๊กลาส คอสต้า น.46)
กองหน้า : หลุยส์ อาเดรียโน่(เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา น.64)
ผู้เล่นสำรอง : รุสตาม คูดซามอฟ, ยาดสัน โรดริเกวส, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, วาซิลี่ โคบิน, ทาราส สเตปาเนนโก้, ดั๊กลาส คอสต้า, ดีมิโทร คีกรีนสกี้

วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เวนเกอร์ให้สัมภาษณ์หลังจบเกม เบอร์มิงแฮม

หลังจากจบเกมที่เอาชนะ เบอร์มิงแฮม 2-1 เวนเกอร์ ก็ออกมาให้สัมพาษณ์




กับการได้รับใบแดงของ วิลเชียร์
เวน เกอร์ : เขาเข้าสกัดพลาด และเขาก็ได้รับใบแดง เขาสมควรแล้ว แต่มันเป็นการเข้าสกัดครั้งแรกของเขาในเกมและคุณก็ต้องเสียค่าโงได้รับใบแดง

แต่ เขาก็ไม่ได้ไล่เตะใครตลอดทั้งเกมเสียหน่อย เขาเล่นฟุตบอลและก็น่าจะเป็นนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดในสนาม น่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นกับเขา แต่ผมคิดว่ามันยุ่งยากมากขึ้น

เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาแค่เข้าสกัดพลาด เราไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องใบแดงของเขา แต่คุณก็จะพูดไม่ได้ว่าเขาเล่นสกปรกในเกม

กับ วิลเชียร์ ที่เล่นร่วมกับทีม
เวน เกอร์ : เขาเป็นนักเตะที่เติมเต็ม เขาเล่นเกมรับได้ดี เกมรุกก็ดี และผมเชื่อว่าโดยรวมแล้วเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่งของเขา เขาสร้างสรรค์เกมรุกได้ดีมากๆ

กับปัญหาขาดนักเตะเพิ่มมากขึ้น
เวน เกอร์ : แน่นอน มันทำให้ผมมีปัญหา คุณรู้ว่าเราเป็นที่มที่มักจะโดนทำฟาวล์มากเวลาลงเล่น ผมแนะนำให้นักเตะเล่นฟุตบอล แต่เราได้รับใบแดง เราสมควรและเราจะทำอะไรกับมันได้? ไม่มีเลย

วิลเชียร์ จะต้องโดนแบน 3 เกมและเขาต้องถูกลงโทษ

กับสิ่งที่ วิลเชียร์ พูดเกี่ยวกับการเข้าสกัด
เวนเกอร์ : เขาบอกว่าเขาเข้าสกัดพลาด และก็โดนหัวเข่าเขา และสมควรได้ใบแดงแล้ว

กับการได้มีสองกองหน้า
เวน เกอร์ : เบนเนอร์ ดูเหมือนจะยังไม่พร้อมจากที่เห็นในวันนี้ เขาจำเป็นต้องรออีก 2-3 สัปดาห์ เขาไม่ได้จับบอลมานาน และคุณไม่ได้กลับมาทันทีที่ได้ลงเล่นหรอก

กับ มารูยาน ชามัคห์
เวนเกอร์ : ตั้งแต่เริ่มฤดูกาล คุณได้เห็นหลายครั้งที่เขามีผลจบลงที่ 0-0 หรือ 1-1 คุณจะประหลาดใจว่าเขามีอิทธิพลต่อทีมมากแค่ไหน

กับการคว้า 3 แต้ม
เวน เกอร์ : มันจำเป็นและผมเชื่อว่าเราเล่นด้วยความเครียด มันกดดันสำหรับเราเพราะคุณอาจเห็นเกมของเราไม่เร็วมากจากความจริงที่ว่าเรา ไม่ชนะมา 2 เกมติดแล้ว

เราดูติดขัดนิดหน่อย โดยเฉพาะเมื่อเราขึ้นนำ 2-1 และมันก็ไม่ได้สบายเลยในวันนี้ คุณอาจจะเห็นและรู้สึกถึงแนวทางที่เราเล่น

กับการพลิกกลับมาชนะ
เวน เกอร์ : สำหรับเรากลับมามีลุ้นแชมป์อีก และหลังจากที่โดนนำไปก่อน มันทำให้เป็นงานที่ยากมาก แต่ผมก็ไม่สามารถโทษใครได้มากกับประตูที่เสีย เพราะมันเป็นลูกโหม่งที่เยี่ยมเหมือนที่เราเคยเห็นในอังกฤษเมื่อ 30 หรือ 40 ปีก่อน คุณทำอะไรไม่ได้มาก แต่ผมจะบอกว่าโดยรวมมันเป็นเกมที่ดีกับ ฟาเบียงสกี้

กับ อาบู ดียาบี้
เวน เกอร์ : ผมคิดว่าเขาทำอันตรายได้หลายครั้่ง การจบสกอร์ของเขาน่าผิดหวังนิดหน่อยและผมเชื่อว่าโดยรวมเขายังไม่ได้กลับมา เป็น ดิยาบี้ คนเดิมก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า เขายังคงใส่ใจมันและผมไม่เชื่อว่าเขาสลัดอาการบาดเจ็บทิ้งไปหมดแล้ว

กับฟอร์มของ อังเดร อาร์ชาวิน
เวนเกอร์ : อังเดร ลงเล่น 2 เกม เล่นให้รัสเซียและเกมวันนี้ เขาไม่ค่อยฟิต เขาดูไม่ค่อยดีเท่าไรในวันนี้

ไล่วิลเชียร์!ปืนรอดตัวโดนก่อนแซงเฮ 2-1



"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลเอาตัวรอดจากการไม่ชนะใคร 4 เกมติดได้สำเร็จแม้จะเสียประตูขึ้นนำไปก่อนแต่มายิงแซงสองลูกรวดและถึงจะ เหลือผู้เล่น 10 คนในช่วงท้ายหลังแจ๊ค วิลเชียร์โดนไล่ออกแต่ก็ไม่มีปัญหายันเบอร์มิงแฮมเอาไว้ได้ ทำให้จบเกมเอาชนะไปได้สำเร็จ 2-1 ขึ้นไปรั้งอันดับสองของตารางเป็นที่เรียบร้อย

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2553

อาร์เซน่อล 2 : 1 เบอร์มิงแฮม

ประตู : 0-1 นิโกล่า ซิกิช น.33, 1-1 ซามีร์ นาสรี่ น.41 (จุดโทษ), 2-1 มารูยาน ชามัคห์ น.47

ครึ่งแรก

ดับเบิ้ลวันทู!ปืนเกือบได้เร็ว
เริ่ม เกมมา 5 นาทีเจ้าบ้านเกือบได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วเมื่อวิลเชียร์กับชามัคห์ขึ้น เกมมาตรงกลางหน้าเขตโทษแล้วเล่นวันทูกันสองรอบจังหวะสุดท้ายเป็นชามัคห์ที่ ได้จบแต่ฟอสเตอร์ก็ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้[imgr][/imgr]

ช่วง 15 นาทีแรกของเกมเป็นฝั่งอาร์เซน่อลที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่บอลสุดท้ายยังไม่คมพอทำให้ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ

ปืนเฮเก้อ!สกิลลาชี่โขกตุงตาข่ายแต่ล้ำหน้า
นาที ที่ 18 แฟนเจ้าบ้านได้เฮลั่นสนามจากจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษทางกราบซ้ายเป็นนาสรี่ ที่เปิดเข้ากลางไปให้สกิลลาชี่ได้ขึ้นโขกเต็มๆบอลตุงตาข่ายแต่ผู้ช่วยผู้ ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเพราะจังหวะเปิดสกิลลาชี่ออกตัวเร็วไปนิด

อาชาวินซหลุดซัดติดเซฟ
ถัด มาหนึ่งนาทีอาร์เซน่อลอาศัยจังหวะโต้กลับเร็วแล้วเป็นดิยาบี้ที่ได้บอลอยู่ หน้าเขตโทษเบอร์มิงแฮมแทงทะลุช่องให้อาชาวินหลุดเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะสุด ท้ายยิงไปติดตัวฟอสเตอร์ปัดทิ้งไปได้

ลาร์สสันแจกโชค
นาที 24 เซบาสเตียน ลาร์สสันเกือบมีชื่อเป็นคนแอสซิสต์ให้กลิชี่ทำประตูหลังตั้งบอลคืนหลังให้ เพื่อนไม่ดีเบาไปทำให้กลิชี่ที่วิ่งเติมขึ้นมาฉกบอลไปซัดถากเสาหลุดไปเพียง นิดเดียวเท่านั้น

เอบูเอ้เกือบยิงตัวเอง
2 นาทีถัดมาทีมเยือนได้โอกาสใกล้เคียงที่สุดในครึ่งแรกก็ว่าได้เมื่อได้ฟรีคิก ที่หน้าเขตโทษของทีมปืนใหญ่แล้วเปิดเข้ากลางไปเป็นเอบูเอ้ที่พยายามโขกสกัด แต่ผิดเหลี่ยมบอลพุ่งแรงเข้าหากรอบประตูแต่ฟาเบียงสกี้ยังไวพอเซฟเอาไว้ได้

ปืนช็อก!ยักษ์ซิกิชโขกเสียบมุม
นาที 33 ทีมเยือนที่แทบไม่มีโอกาสเลยในเกมนี้กลับได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างเหลือ เชื่อจากจังหวะที่เบอร์มิงแฮมได้ลูกทุ่มทางกราบซ้ายแล้วทุ่มย้อนกลับมาให้ เพื่อนเปิดเข้ากลางไปซิกิชยืนรออยู่กระโดดโขกเสียบมุมเข้าประตูไปหมดสิทธิสำ หรับฟาเบียงสกี้

ชามัคห์เนียน!ปืนคัมแบ๊กสำเร็จ
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกอาร์เซน่อลกลับสู่เกมได้สำเร็จจากจังหวะที่ชามัคห์ ถูกเตะผสมพุ่งล้มในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าฟาล์วให้เป็นจุดโทษทันทีแล้วเป็นนา สรี่ที่่รับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่พลาดกดเต็มข้อตุงตาข่ายปืนใหญ่ตีเสมอ 1-1 จากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมแล้วผู้ตัดสินก็เป่าจบครึ่งแรกไป

ครึ่งหลัง

ปืนแซงแล้ว!ชามัคห์หลุดซัดไม่เหลือ
เริ่ม ครึ่งหลังมาได้แค่ 2 นาทีอาร์เซน่อลมาได้ประตูแซงนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่วิลเชียร์เล่นวันทู กับซงที่หน้าเขตโทษจากนั้นวิลเชียร์พยายามแทงทะลุช่องให้ชามัคห์ดูเหมือนจะ ติดแต่กลายเป็นดีเพราะบอลไปเข้าทางชามัคห์หลุดเข้าไปล็อกหลบผู้รักษาประตู แล้วยิงเข้าประตูไปอย่างง่ายดายปืนใหญ่นำ 2-1

วิลเชียร์ได้ส่อง
เข้า สู่นนาที 63 อาร์เซน่อลได้โอกาสใกล้เคียงอีกหนเมื่อวิลเชียร์เล่นชิ่งกับนาสรี่หลุดไปทาง ฝั่งซ้ายของเขตโทษแล้วกดเต็มข้อทันทีแต่บอลเหินข้ามคานไปไม่ได้ลุ้นสักเท่า ไหร่

ครึ่งหลังรูปเกมของเจ้าบ้านค่อนข้างอึดอัดถึงแม้จะเป็นฝ่าย ครองบอลได้มากกว่าแต่ว่าก็ได้แค่ไปป้วนเปี้ยนอยู่หน้าเขตโทษของเบอร์มิงแฮม เท่านั้น

เบนท์เนอร์มาแล้ว
นาที 79 แฟนปืนใหญ่ได้ปรบมือต้อนรับการกลับลงสนามอีกครั้งของนิคลาส เบนท์เนอร์ที่บาดเจ็บไปนานหลังถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนมารูยาน ชามัคห์

นาสรี่กดเต็มๆ
ช่วง ทดเวลาบาดเจ็บอาร์เซน่อลมีโอกาสได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ดิยาบี้จ่ายให้ นาสรี่ที่หน้าเขตโทษแต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วกดเต็มข้อทันทีแต่บอลตรงตัว ฟอสเตอร์เซฟเอาไว้ได้

วิลเชียร์โดนไล่!
ทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 อาร์เซน่อลต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อแจ๊ค วิลเชียร์ไปเข้าบอลอย่างน่าเกลียดใส่ซิกิชทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกชักใบ แดงไล่ออกจากสนามไป อย่างไรก็ตามไม่มีปัญหาสำหรับทีมปืนใหญ่สามารถยันเบอร์มิงแฮมเอาไว้ได้ทำให้ จบเกมเอาชนะไป 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : ลูคัสซ์ ฟาเบียงสกี้, เซบาสเตียน สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดร ซง, โยฮัน ชูรู, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ , อาบู ดิยาบี้, แจ๊ค วิลเชียร์ , มารูยาน ชามัคห์, อังเดร อาชาวิน (โรซิคกี้ น.70), ซามี นาสรี่

เบอร์ มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟ่น คาร์ , โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ลิดจ์เวลล์, สก็อตต์ แดน, ลี โบว์เยอร์ (โอ คอนเนอร์ น.80), อเล็กซานเดอร์ เคล็บ, คีธ ฟาฮีย์ (เมอร์ฟี่ย์ น.78), แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, นิโกล่า ซิกิช

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

ปืนฟอร์มฮอต!บุกทุกปาร์ติซาน10ตัว3-1




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล บุกไปเอาชนะ ปาร์ติซาน เบลเกรด ที่เหลือผู้เล่น 10 ตัวถึงถิ่น 3-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม ฟุตบอลยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช
วันอังคารที่ 28 กันยายน 2553
ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) 1 - 3 อาร์เซน่อล (อังกฤษ)


สนาม : เอฟเค ปาร์ติซาน, เบลเกรด, เซอร์เบีย


ปาร์ติซาน จ่าฝูงของลีกเซอร์เบีย วาง มลาเดน เคิร์ชตายิช กัปตันทีมยืนบัญชาการแนวรับ ส่วน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ต้องขาดผู้เล่นกำลังหลักหลายรายรวมไปถึง นิคลาส เบนท์เนอร์ กับ เชส ฟาเบรกาส ที่ยังเดี้ยง โดยแนวรุกส่งเจ้าหนู แจ็ค วิลเชียร์ ลงมาทำเกมบุกร่วมกับ อังเดร อาร์ชาวิน คอยสนับสนุนกองหน้าตัวเป้าอย่าง มารูอาน ชามัค ส่วน ซามีร์ นาสรี่ มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง

ออกสตาร์ทมาได้ 10 นาที ปิแอร์ โบย่า ดาวยิงของเจ้าถิ่นเบียดถึงบอลได้ก่อน เซบาสเตียน สกิลลาชี่ ก่อนจิ้มด้วยขวา แต่ติดขา ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ นายทวารไอ้ปืนใหญ่แค่นิดเดียว

หลังจากนั้น 5 นาที อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อังเดร อาร์ชาวิน กระชากลากลุยเข้ามา ก่อนจะฝากบอลไปที่ แจ็ค วิลเชียร์ ดีดส้นคืนมาให้ อาร์ชาวิน ตะบันตรงเส้นเขตโทษพุ่งเรียดเสียบตาข่ายสุดสวยให้ปืนใหญ่นำ 1-0

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 24 ทีมเยือนได้ลุ้นต่อเนื่อง แจ็ค วิลเชียร์ ประสานงานกับ อาร์ชาวิน อีกครั้ง ทำให้ อาร์ชาวิน หลุดไปยิงด้วยขวาแต่คราวนี้ตรงตัว วลาดิเมียร์ สตอยโควิช นายทวารปาร์ติซาน ที่ออกมาขวางไว้ได้

สามนาทีต่อมา อาร์เซน่อล ได้โอกาสอีก อาร์ชาวิน ชิปข้ามตัว สตอยโควิช ไปแล้ว ทว่าผู้เล่นเจ้าถิ่นมาเตะทิ้งไปได้ก่อนที่บอลจะข้ามเส้น

อย่างไรก็ตาม ปาร์ติซาน เบลเกรด ตามตีเสมอจนได้จากจุดโทษที่ เดนิลสัน ใช้มือปัดบอลในเขตโทษ และเป็น คเลโอ ดาวยิงตัวเก่งแปด้วยขวาง่ายๆเสียบเสาซ้ายมือของ ฟาเบียนสกี้ เข้าประตูไปเปลี่ยนสกอร์มาเป็น 1-1 ในนาที 33 ก่อนหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที ไอ้ปืนใหญ่ ได้ลุ้นก่อนจากการหลุดไปยิงในเขตโทษด้วยขวาของ โทมัส โรซิชกี้ บอลพุ่งเรียดแต่ วลาดิเมียร์ สตอยโควิช นายทวารเจ้าบ้านล้มตัวตะครุบไว้ได้

สถานการณ์ของเจ้าบ้านไม่ดีนัก นาทีที่ 56 มาร์โก โยวาโนวิช ไปเตะ มารูอาน ชามัค หัวหอกชาวโมร็อกโก จนล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ พร้อมชักใบแดงไล่กองหลังเจ้าถิ่นออกทันที แต่ อังเดร อาร์ชาวิน กลับซัดจุดโทษไปติดเซฟของ สตอยโควิช นายทวารปาร์ติซาน ที่ล้มถูกทาง

อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล ที่ตัวผู้เล่นมากกว่ามาได้ประตูนำอีกครั้งในนาที 71 โทมัส โรซิชกี้ เปิดบอลจากฝั่งขวามาให้ มารูอาน ชามัค ขึ้นโหม่งเข้ากรอบ สตอยโควิช เซฟได้จังหวะแรก แต่ ชามัค ตามซ้ำเข้าประตูไปให้ปืนใหญ่ นำ 2-1

ทีมเยือนยังคงเดินเกมอย่างต่อเนื่อง แล้วก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 ซามีร์ นาสรี่ เปิดลูกเตะมุม เซบาสเตียน สกิลลาชี่ โขกเข้าไปไม่เหลือ

เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูตีตื้นขึ้นมา เมื่อมาได้ลูกที่จุดโทษ คีแรน กิ๊บบ์ส ไปทำฟาล์ว ซาซ่า อิลิช ในกรอบเขตโทษ แต่ คเลโอ ยิงไปติดเซฟของ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ ทำให้จบเกม อาร์เซน่อล บุกมาเอาชนะ ปาร์ติซาน 3-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ปาร์ติซาน เบลเกรด : วลาดิเมียร์ สตอยโควิช - อีวาน สเตวาโนวิช, มาร์โก โยวาโนวิช, มลาเดน เคิร์ชตายิช (กัปตันทีม), อเล็กซานเดอร์ ลาเซฟสกี้, เนมานย่า โทมิช, ราโดสลาฟ เปโดรวิช, มิโด้, ซาซ่า อิลิช, ปิแอร์ โบย่า, คเลโอ

สำรอง : อิวิก้า อิลิเยฟ, โลล่า, มิลอส โบกูโนวิช, ซิฟโก้ ซิฟโควิช, โวยิสลาฟ สแตนโควิช, สเตฟาน ซาวิช, โจเซฟ คิซิโต้

อาร์เซน่อล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซาญ่า, โยฮัน ฌูรู, เซบาสเตียน สกิลลาชี่, คีแรน กิ๊บบ์ส - โทมัส โรซิชกี้, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, อังเดร อาร์ชาวิน, แจ็ค วิลเชียร์ - มารูอาน ชามัค

สำรอง : วอจเซียจ เซสนี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, ซามีร์ นาสรี่, คาร์ลอส เวล่า, เฮนรี่ แลนส์บิวรี่

ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมัน)