ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปืนเซ่นชัยเสียเชสก์บุกวีแกน




วีแกน แอธเลติก (18) vs อาร์เซน่อล (3)


สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม
ความจุ : 25,138 ที่นั่ง
ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : C. Richards & B. Smallwood
ผู้ตัดสินที่ 4 : ไมค์ ดีน
นักเตะที่น่าจับตามอง : ฮูโก้ โรดาเยก้า vs เชส ฟาเบรกาส
ผลที่คาด : วีแกน 0:2 อาร์เซน่อล
เวลาเตะ : 02.45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 5 (105)
สภาพอากาศ : มีหิมะตก อุณภูมิ 2°C~5°C ความชื้น 93%
อัตราต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อ 1ลูก-10
ติดโทษแบน : เชส ฟาเบรกาส (อาร์เซน่อล)
บาดเจ็บ : วีแกน>เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, วิคเตอร์ โมเซส, เจมส์ แม็คคาร์ธี่
บาดเจ็บ : อาร์เซน่อล>มานูเอล อัลมูเนีย, โธมัส แฟร์มาเล่น, คีแรน กิ๊บส์, เอมมานูเอล ฟริมปง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของทั้งสองทีม

วีแกน แอธเลติก ระบบ 4-5-1 : อาลี อัล ฮับซี, รอนนี่ สตัม, แกรี่ คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลการาซ, มายนอร์ ฟิเกรัว, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, เฮนดรี้ โธมัส, จอร์ดี้ โกเมซ, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, ฮูโก้ โรดาเยก้า

อาร์เซน่อล ระบบ 4-3-3 : ลู คัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โยฮัน โฌรู(เซบาสเตียง สกิลลาชี่), กาแอล กลิชี่, อเล็กซ์ ซง, อาบู ดิยาบี้, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่, ธีโอ วัลค็อตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปืนโชว์เหนือ!ตบสิงห์ดิ้น3-1ขึ้นรองฝูง




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มเยี่ยมเปิดรังไล่อัด "สิงห์บลูส์" เชลซี 3-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงอีกครั้ง โดยมีคะแนนตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 53
อาร์เซน่อล 3 - 1 เชลซี


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


ศึกลอนดอน ดาร์บี้ แม็ตช์ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาร์เซน่อลเน้นรุกเต็มที่ส่งทั้งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ , แจ็ค วิลเชียร์ , ธีโอ วัลค็อตต์ และเชส ฟาเบรกาสที่ฟิตสมบูรณ์ลงบู๊เป็นตัวจริงโดยดร็อปมารูอาน ชามักลงไปเป็นตัวสำรอง

พร้อมกันนี้ โยฮัน ฌูรูก็ถูกเลือกลงเล่นในแนวรับก่อนหน้าเซบาสเตียง สกิลลาชี่ซึ่งอยู่ในซุ้มข้างสนามร่วมกับอังเดร อาร์ชาวิน

ด้านเชลซีที่ฟอร์มฝืดอย่างต่อเนื่องไม่ชนะมาหลายเกมได้แฟร้งค์ แลมพาร์ดฟิตลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. แต่นิโกล่าส์ อเนลก้าหลุดโผเนื่องจากเจ็บเข่า

เกมเริ่มต้นโดยเจ้าบ้านเปิดฉากบุกก่อน ทว่าถึงนาทีที่ 6 ดิดิเยร์ ดร็อกบากองหน้าตัวแสบของทีมเยือนก็ทำเอากองเชียร์ท๊อปกันผวาเมื่อพาบอลบุก ขึ้นมาทางขวาแล้วตัดสินใจกดเรียดจาก 20 หลาส่งบอลเฉี่ยวเสาไกลไปแบบได้ลุ้น

แม้จะบุกน้อยกว่า แต่นาทีที่ 15 เชลซีก็โต้แบบได้น้ำได้เนื้ออีกครั้งเมื่อไมเคิ่ล เอสเซียงโยนบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้ดร็อกบาโถมโขกหลุดกรอบออกไป

ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 อาร์เซน่อลได้ลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายระยะ 30 หลาหลังฟลอร็องต์ มาลูด้าทำแฮนด์บอล ซามีร์ นาสรี่จึงวิ่งเข้าซัด แต่ปีเตอร์ เช็กรับได้อย่างไม่ยากเย็น

กระทั่งนาทีที่ 29 ใบเหลืองแรกของเกมก็ตกเป็นของแอชลีย์ โคลอดีตกองหลังปืนใหญ่ในจังหวะรวบวัลค็อตต์ล้มแถวริมสนาม

เกมส่วนใหญ่ตกอยู่ในความครอบครองของเจ้าบ้าน กระนั้นนาทีที่ 33 ฟาน เพอร์ซี่ก็มีใบเหลืองติดตัวเช่นกันข้อหาอัดใส่จอห์น โอบี มิเกลหลังสูญเสียการครองบอล

ถัดมาอีกสองนาที เดอะ กันเนอร์สต่อเกมกันดีโดยฟาเบรกาสป้ายบอลขึ้นหน้าให้นาสรี่ไหลเข้าเขตโทษด้าน ซ้ายอีกทอด แต่ฟาน เพอร์ซี่กดเต็มข้อส่งบอลโด่งข้ามคานชนิดไร้ราคา

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก อาร์เซน่อลกดดันผู้มาเยือนหนักขึ้น และนาทีที่ 39 ซาโลมง กาลูก็รับใบเหลืองในจังหวะกระโดดยันใส่กาแอล กลิชี่น่าเกลียด

นาทีต่อมา เจ้าบ้านได้เสียวอีกหน คราวนี้เป็นวัลค็อตต์ที่หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านจากเส้น หลังไปที่เสาแรก แต่เช็กขยับมาบล็อคได้

จากนั้นในนาทีที่ 41 ทีมท๊อปกันก็พลาดขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อบาการี่ ซาญ่าจ่ายบอลจากกราบขวาเข้ามาตรงกลางให้นาสรี่ชิพจาก 20 หลา ถูกเช็กถลันกลับไปสปริงตัวปัดพ้นคานได้ทัน

กระนั้นก็ดี นาทีที่ 44 แฟนเจ้าบ้านก็ได้ระเบิดเสียงไชโยจนได้เมื่ออเล็กซ์ ซงพาบอลบุกขึ้นมาจ่ายให้วิลเชียร์ไหลเข้าเขตโทษแล้วฟาเบรกาสโดนเปาโล แฟร์ไรร่าตามไปดักล้ม แต่ซงไม่รอให้สิงห์เชิ้ตดำเป่าเป็นลูกโทษ วิ่งเข้าเก็บตกระยะ 10 หลาตุงตาข่ายพาปืนใหญ่นำ 1-0 ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะสิ้นสุดลงไป

ครึ่งหลังสิงห์บลูส์แก้ลำด้วยการเปลี่ยนมิเกลออกให้รามิเรซลงไปแทน แต่อาร์เซน่อลไม่สนใจสำแดงความดุดันโจมตีต่อเนื่องอย่างบ้าคลั่ง

และในที่สุดนาทีที่ 51 สิงโตน้ำเงินครามก็โดนกระตุกหนวดอีกเมื่อฟาน เพอร์ซี่รับลูกแทงยาวจากแดนกลางแล้วพลิกจ่ายออกทางขวาให้วัลค็อตต์หลุดเข้า เขตโทษไปแตะหลบเช็คที่ขยับออกมาปิดมุม ก่อนที่ฟาเบรกาสจะปรี่เข้าเช็คบิลนิ่มๆระยะ 14 หลาทำให้เจ้าบ้านนำเพิ่มเป็น 2-0

เท่านั้นไม่พอ อีกสองนาทีต่อมา แนวรับเชลซีก็ก่อความผิดพลาดอีกโดยจอห์น เทอร์รี่ผ่านบอลสั้นแบบจวนตัวให้มาลูด้าเลยถูกวัลค็อตต์แย่งได้แล้วฟาเบรกา สตามไปเก็บตกไหลให้วัลค็อตต์ซัลโวจากริมเขตโทษด้านขวาเสียบเสาไกลพาเจ้าบ้าน นำ 3-0

นาทีที่ 56 ทีมเยือนปรับทัพอีกหนโดยส่งกาแอล กากูต้าลงเล่นแทนมาลูด้า และแค่นาทีเดียวทีมของคาร์โล อันเชล็อตติก็ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ดร็อกบาจึงโยนเข้าเขตโทษโดยบรานิสลาฟ อิวาโนวิชโดดโขกจากแปดหลาสวนลูคัส ฟาเบียนสกี้ที่ออกมาไม่ถึงบอลตุงตาข่ายให้สิงห์บลูส์ตามมา 1-3

กระนั้นนาทีที่ 60 แลมพาร์ดออกลูกโหดไล่กวดซงแล้วสอยกองกลางผิวสีร่วงจึงโดนจดชื่อตามระเบียบ

ให้หลังอีกสองนาที เชลซีทิ้งไพ่ใบสุดท้ายปล่อยโชเซ่ โบซิงวาลงไปแทนแฟร์ไรร่า ก่อนที่ฟาเบรกาสจะโดนจดชื่อในนาทีที่ 68 หลังเล่นสะเพร่าถูกเอสเซียงแย่งบอลแล้วตามไปฉุดไหล่ดาวเตะกาน่าล้ม

แต่แล้วนาทีต่อมา เจ้าบ้านน่าจะคลำเป้าได้อีกเมื่อนาสรี่สบโอกาสทะลุเข้าเขตโทษด้านซ้ายแบบ หลุดเดี่ยวจากจังหวะที่กากูต้าแตะอกคืนหลังให้เช็กแย่ แต่มิดฟิลด์ฝรั่งเศสกระดกยิงไม่ผ่านนายทวารเชลซี

นาทีที่ 73 ทีมปืนใหญ่เปลี่ยนวัลค็อตต์ออกโดยมีอาบู ดิยาบี้ลงไปแทน ตามด้วยการใช้งานชามักแทนฟาน เพอร์ซี่ในนาที่ 76

ช่วงที่เหลือเจ้าบ้านต้านเกมรุกของทีมเยือนได้สำเร็จ จบเกมจึงขยี้เชลซีไปอย่างสวยหรู 3-1 ขยับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง โดยมีคะแนนตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โยฮัน ฌูรู, กาแอล กลิชี่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สำรอง : วอจเซียช ซิซเซสนี่ (ผู้รักษาประตู), อาบู ดิยาบี้, โทมัส โรซิคกี้, เซบาสเตียง สกิลลาซี่, อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค, นิคลาส เบนท์เนอร์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์เรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), แอชลี่ย์ โคล - มิชาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร็งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู
สำรอง: รอสส์ เทิร์นบูลล์ (ผู้รักษาประตู), รามิเรส, โชเซ่ โบซิงวา, พาทริค ฟาน อานโฮลท์, เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, กาแอล กากูต้า, โจชัว แม็คอีชแรน

ผู้ตัดสิน: มาร์ค แคล็ตเตนเบิร์ก

เซบาสเตียง สกิลลาชี่ (Sebastien Squillaci)




ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม เซบาสเตียง สกิลลาชี่

วันเกิด 11 สิงหาคม 1980 ( อายุ 31 )

สถานที่เกิด Toulon, France

ส่วนสูง 1.87 m /(6 ฟุต 2 นิ้ว)

ตำแหน่ง กองหลัง

หมายเลข 18

ประวัติ เซบาสเตียง สกิลลาซี่ (ฝรั่งเศส: Sébastien Squillaci) เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1980 นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส ปัจจุบันเล่นกับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ตำแหน่งกองหลัง Arsenal sign Sebastien Squillaci from Sevilla

โลรองต์ กอสชิแอลนี (Laurent Koscielny)




ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม โลรองต์ กอสชิแอลนี

วันเกิด 10 กันยายน 1985 ( อายุ 25 )

สถานที่เกิด Tulle, France

ส่วนสูง 1.86 m / 6.1 ft

ตำแหน่ง กองหลัง

หมายเลข 6

Laurent Koscielny - Complete defender [11/12] Laurent Koscielny-I'm A Boss (2012)

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปืนเฮเชส-อาร์วีพีคัมแบ็กฟัดสิงห์ที่ได้แลมพ์คืนทีม




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ได้รับข่าวดี เมื่อสองคีย์แมน เชส ฟาเบรกาส กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หายบาดเจ็บลงกลับมาช่วยทีมเดอะกันเนอร์ส เปิดบ้านต้อนรับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่ได้กองกลางคนสำคัญอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด คัมแบ็กกลับมาช่วยทีมเช่นกัน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อล - เชลซี


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส พร้อมส่ง เชส ฟาเบรกาส จอมทัพชาวสเปน กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงดัตช์ ลงเล่นตัวจริงพร้อมกันเป็นนัดแรกนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา


แม้ว่าทั้ง ฟาเบรกาส กับ ฟาน เพอร์ซี่ จะฟิตสมบูรณ์กลับมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก เวนเกอร์ เท่าที่ควร เช่นเดียวกับ ธีโอ วัลค็อตต์ และ นิคลาส เบนท์เนอร์


ผู้รักษาประตู ลูคัส ฟาเบียนสกี้ มือ 2 หายเจ็บสะโพกกลับมาฟิตแล้ว ทำให้ วอยเช็ก เซสนี่ ประตูมือ 3 ซึ่งเป็นชาวโปลิชบ้านเดียวกันจะกลับไปเป็นตัวสำรองตามเดิม ขณะที่มือ 1 มานูเอล อัลมูเนีย ยังเจ็บข้อเท้า


ในราย อาบู ดิอาบี้ หายเจ็บข้อเท้ากลับมาซ้อมแล้ว และน่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้ แต่ในราย โธมัส แฟร์มาเล่น ที่เจ็บเอ็นร้อยหวาย ก็คาดว่าจะกลับมาเดือนมกราคม, คีแรน กิ๊บบ์ส แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ก็ยังเจ็บข้อเท้าด้วย


ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เฝ้าเสา แนวรับใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์ คู่หน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยืนคู่ มารูอาน ชามัค


ด้าน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม เตรียมส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางคนสำคัญ ลงเล่นเป็นตัวจริงในรอบ 3 เดือนครึ่ง หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ และเพิ่งกลับมาเป็นตัวสำรองในเกมก่อนที่เสมอ สเปอร์ส 1-1 ในช่วง 13 นาทีสุดท้าย


ข่าวดี โชเซ่ โบซิงวา แบ็กขวาหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าฉีก กลับคืนทีมแล้ว หลังพักตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วน อเล็กซ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟอีกคนผ่าตัดเข่า, ยูริ เซียร์คอฟ แข้งสารพัดประโยชน์ก็ยังเจ็บน่อง และ ยอสซี่ เบนายูน เจ็บเอ็นร้อยหวายเหมือนเดิม


ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลังใช้ เปาโล แฟร์ไรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด แดนหน้า ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กลับคืนตัวจริง โดยเล่นร่วมกับ ฟลอร็องต์ มาลูด้า และ นิโกล่าส์ อเนลก้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - ซามีร์ นาสรี่, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, มารูอาน ชามัค
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์ไรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก

สถิติกินขาด! ปืนสู้สิงห์ไม่ได้



สถิติในช่วงหลังของเกมดาร์บี้แมตช์กรุงลอนดอนระหว่าง อาร์เซน่อล กับ เชลซี กลายเป็น สิงโตน้ำเงินคราม ที่ได้เฮอยู่เป็นประจำ เพราะตลอด 18 นัดหลังสุด รวมทุกรายการ พ่ายให้ ปืนใหญ่ เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น แถมผลงาน 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ เชลซี ยังเก็บชัยชนะรวดด้วย


นับเฉพาะผลงานในพรีเมียร์ลีก เชลซี กวาดชัยชนะมารวด 4 นัดหลัง ซัลโวแหลก 11 ประตู เสียประตูให้ อาร์เซน่อล เพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น แถม ปืนใหญ่ ยังยิงประตู สิงห์บลูส์ ไม่ได้มาเป็นเวลา 290 นาทีแล้วด้วย นับตั้งแต่ นิคลาส เบนท์เนอร์ ยิงประตูเป็นคนล่าสุด


ที่สำคัญ 3 นัดหลังในพรีเมียร์ลีก ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าไอวอรี่โคสต์ของ สิงห์บลูส์ ยังกดไปคนเดียว 5 ประตูด้วย ถูกโฉลกกับการยิงปืนใหญ่ทีเดียว

ดร็อกเต็งยิงลูกแรกลอนดอนดาร์บี้



ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งของ เชลซี ถูกยกเป็นเต็ง 1 ยิงประตูแรกของเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม ที่จะบุกไปเยือน อาร์เซน่อล วันจันทร์นี้ จากการเปิดราคาของ สกายเบท ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ


ดร็อกบา เป็นตัวเต็งของเกมที่ราคา 5/1 (แทง 1 จ่าย 5) เต็ง 2 เป็น มารูอาน ชามัค ของอาร์เซน่อล 6/1 (แทง 1 จ่าย 6), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ของอาร์เซน่อล 13/2 (แทง 2 จ่าย 13), นิโกล่าส์ อเนลก้า ของเชลซี 7/1 (แทง 1 จ่าย 7), ซามีร์ นาสรี่ กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ ของอาร์เซน่อล และ ซาโลมง กาลู ของเชลซี ราคาเท่ากัน 15/2 (แทง 2 จ่าย 15)


ถัดจากนั้นถึงเป็นสองจอมทัพของทั้งสองทีม เชส ฟาเบรกาส ของอาร์เซน่อล กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี ราคาเท่ากันที่ 8/1 (แทง 1 จ่าย 8), อังเดร อาร์ชาวิน ของอาร์เซน่อล และ ฟลอร็องต์ มาลูด้า กับ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ราคาเท่ากัน 9/1 (แทง 1 จ่าย 9)

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ป๋านำบรรดาแข้งปืนใหญ่อวยพรปีใหม่ให้เหล่ากันเนอร์

ชามัคตั้งเป้าเทียบชั้นรูนี่ย์,ดร็อกบาเพื่อเป็นสุดยอดดาวยิงให้ได้




มารูยาน ชามัค หอกจอมสังหารทีมอาร์เซนอลตั้งปณิธานจะไม่เป็นสองรองใครในโลกแห่งอนาคตขอ พัฒนาฝีเท้าเทียบเท่า ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงเชลซีและ เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ได้

สตาร์ทีมชาติโมร็อกโกยอมรับตอนนี้ตนยังตาม ดร็อกบา และ รูนี่ย์ อยู่หลายก้าวและพยายามเรียนรู้เพื่อก้าวเป็นสุดยอดดาวยิงในวันข้างหน้า

"ผมคิดว่าผมยังไม่ทะลุถึงขีดระดับเท่ากับ ดร็อกบา และ รูนี่ย์ แต่สักวันนึงผมจะไปให้ถึงให้ได้" จอมสังหารปืนใหญ่ประกาศ

"แต่ผมไม่รู้สึกว่าด้อยไปกว่าทั้งสองคนเลย พวกเขาทุ่มเทอย่างหนักมากกว่าจะมายืนจุดสูงสุดได้"

"ผมรู้ผมก็มีศักยภาพและหวังทุ่มเทเต็มที่เพื่อยกระดับของตัวเองเทียบเท่าพวกเขาในวันข้างหน้า"

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผลการจับสลากประกบคู่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย



ผลการจับสลากประกบคู่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554
โรม่า vs ชาร์คเตอร์ โดเน็ตส์
เอซี มิลาน vs ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554
บาเลนเซีย vs ชาลเก้ 04
อินเตอร์ มิลาน vs บาเยิร์น มิวนิค

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554
โอลิมปิก ลียง vs รีล มาดริด
อาร์เซน่อล vs บาร์เซโลน่า

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554
โอลิมปิก มาร์กเซย์ vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โคเปนเฮเก้น vs เชลซี


วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผีฉลุยหลอกปืนโต1-0 ตี๋พาร์คโขกพุ่งรั้งจ่าฝูง



"ผีแดง" แมนฯ ยูฯ เบียด "ปืนโต" อาร์เซน่อล หวุดหวิด 1-0 "ตี๋พาร์ค" โขกงงๆ เป็นประตูโทนของเกม เก็บ 3 แต้มเต็ม ถีบ "ปืนใหญ่" ร่วงจากบัลลังก์ และขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแทนที่เรียบร้อย ในศึก "มันเดย์ ไนท์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "มันเดย์ ไนท์" ประจำค่ำคืนวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. 2553 เป็นศึก "ซุปเปอร์แมตช์" ประจำปี ระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พบกับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล

สำหรับอันดับในตารางก่อน เกมการแข่งขัน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้าน รั้งอยู่ในอันดับที่ 4 แข่ง 15 นัด ชนะ 8 เสมอ 7 ยังไม่แพ้ใคร มีอยู่ 31 คะแนน เท่ากับ เชลซี แต่ประตูได้เสียแย่กว่า

ส่วน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงของตาราง แข่งมา 16 นัด ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 4 มี 32 คะแนน เท่ากับ "เดอะ ซิตี้" แมนฯ ซิตี้ แต่ประตูได้เสียดีกว่า ซึ่งหากทีมใดเก็บชัยในนัดนี้ได้ก็จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที

ผลงานล่า สุดของทั้งสองทีม ถือว่าไม่ได้แตกต่างกันมาก โดย "ผีแดง" แมนฯ ยูฯ เล่นเกม "ยูซีแอล" ล่าสุด เสมอกับ "ค้างคาว" บาเลนเซีย ในบ้าน 1-1 สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์ของกลุ่ม ซี ส่วนเกมลีก ถือว่าฟอร์มดีทีเดียว เก็บได้ถึง 11 แต้ม จาก 5 นัดหลังสุด ซัดได้ถึง 13 เสียไป 4 เม็ด โดยนัดล่าสุด เปิดบ้านถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม สุดท้ายใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นเดียวกัน โดยเป็นอันดับที่สองของกลุ่ม เอช โดยนัดล่าสุด ถล่ม ปาร์ติซาน เบลเกรด 3-1 ขณะที่เกมลีก 5 นัดหลังสุด เก็บชัยได้ถึง 4 นัด และพ่ายเพียงนัดเดียวต่อ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-3

สภาพ ทีมของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือว่าสมบูรณ์มากทีเดียว เมื่อได้ทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ผ่านความฟิตมีชื่อลงสนามเป็นตัวจริง โดยวันนี้ "ผีแดง" มาในระบบ 4-5-1 ใช้ เวย์น รูนี่ย์ เป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียว ดร็อป เบอร์บาตอฟ เป็นเพียงแค่สำรอง ส่วนแผงกลาง 5 คน มี ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ คอยคุมเกม และให้ นานี่ และ พาร์ค ชี-ซอง คอยสร้างสรรค์เกมรุกทางกราบ ขณะที่กองหลัง 4 ตัว ถือว่าแน่นปึ้ก มี ริโอ จับคู่กับ วิดิช ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ แบ็กขวาเป็น ราฟาเอล และแบ็กซ้ายเป็น เอวร่า เช่นเคย

ส่วน "เดอะ กันเนอร์ส" อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังไม่มีทั้ง อาบู ดิอาบี้ และ แฟร์มาเล่น ที่ยังบาดเจ็บ ส่วน เชส ฟาเบรกาส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ธีโอ วัลค็อตต์ มีชื่อเป็นเพียงแค่สำรอง โดย อาร์เซ น่อล มาในระบบ 4-4-1-1 ห้อย มารูยาน ชามัคห์ ไว้แดนหน้าคนเดียว ส่วน อาร์ชาวิน ยืนหน้าต่ำ และมี นาสรี่ กับ โรซิซกี้ คอยสนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางเป็นหน้าที่ของ อเล็ก ซ์ ซง กับ แจ็ค วิลเชียร์ ขณะที่แผงแบ็กโฟร์ใช้นักเตะชาว ฝรั่งเศส ล้วนๆ โดย สกิลลาชี่ จับคู่กับ กอสเซียลนี่ ตำแหน่งตัวกลาง และมีแบ็กสองข้างอย่าง ซาญ่า กับ กลิชี่ เช่นเคย ส่วนตำแหน่งผู้รักษา ประตู จำเป็นต้องใช้มือ 3 วอจเซียช เซสซ์นี่ ดาวรุ่งชาว โปแลนด์ วัย 20 ปี เนื่องจาก ทั้ง อัลมูเนีย และ ฟาเบียนสกี้ ต่างก็ยังมีอาการบาดเจ็บทั้งคู่

เริ่มเกมขึ้นมาไม่นาน น.8 "ผีแดง" ได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ รูนี่ย์ หาจังหวะพลิกตัวนอกกรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 30 หลา ก่อนสับไกยิงด้วยขวา บอลพุ่งไปตรงตัว วอจเซียช เซสซ์นี่ นายทวารหนุ่มที่รับเข้าซองไว้ได้

น.22 แมนฯ ยูฯ เกือบได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กระดกบอลจากทางกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ จังหวะแรก กาแอล กลิชี่ โหม่งสกัดออกมาพลาด ไปเข้าทาง นานี่ ที่วิ่งมาล้มตัวปาดบอลด้วยขวา บอลพุ่งผ่านเสาสองออกไปนิดเดียว ชนิดที่ วอจเซียช เซสซ์นี่ ได้แต่ยืนมองเท่านั้น

น.30 จากจังหวะเปิดครอสบอลทางฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษของ นานี่ บอลไปโดนมือ ชามัคห์ เต็มๆ แต่ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่ได้เป่าให้เป็นลูกโทษแก่เจ้าบ้าน แต่อย่างใด

น.40 เจ้าบ้าน "ผีแดง" แมนฯ ยูฯ มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ นานี่ กระชากขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดเข้ากลาง บอลไปแฉลบขา กลิชี่ ในจังหวะแรก ก่อนที่จะลอยโด่งเข้ากรอบเขตโทษ ไปตกลงหัว พาร์ค ชี-ซอง ที่สะบัดหัวโหม่งแบบผิดจังหวะ บอลลอยไปเบียดโคนเสาสอง ผ่านมือของ วอจเซียช เซสซ์นี่ เข้าประตูไปแบบงงๆ

น.43 มีใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นจนได้ เมื่อ ชามัคห์ ไปสกัดใส่ นานี่ อย่างแรงน่าเกลียด ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่รอช้า เป่าให้เป็นลูกฟาวล์ และแจกใบเหลืองให้กับ มารูยาน ชามัคห์ ทันที

หลังจากนั้น ในช่วงครึ่งแรก ทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ แมนฯ ยูฯ ออกนำ อาร์เซน่อล อยู่ 1-0

เริ่มเกมครึ่งหลังขึ้นมาไม่นาน น.53 เป็น แมนฯ ยูฯ ที่เกือบได้ประตูที่สองเป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่ รูนี่ย์ เลี้ยงจี้หน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 18 หลา ก่อนแทงทะลุช่องไปให้กับ อันแดร์สัน หลุดไปดวลเดี่ยวกับ วอจเซียช เซสซ์นี่ แต่ อันแดร์สัน กลับซัดไปติดตัว เซสซ์นี่ ที่ออกมาเร็ว ปิดมุมได้ดีอย่างเหลือเชื่อ

น.56 เกมบุกแลกอย่างเมามันส์ จังหวะนี้เป็น "ไอ้ปืนใหญ่" บ้าง ที่ได้โอกาสทำประตู จากจังหวะที่ นาสรี่ เลี้ยงทะลุขึ้นมาแล้วลองสับไกด้วยซ้าย ระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งเรียดเข้ากรอบ แต่ ฟาน เดอ ซาร์ ล้มตัวปัดไปได้ ก่อนบอลจะไปเข้าทาง ชามัคห์ ในจังหวะสอง ล้มตัวกวาดบอลด้วยขวา บอลกำลังจะเข้าอยู่แล้ว แต่ วิดิช พุ่งมาสไลด์บอลออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ

น.59 แมนฯ ยูฯ เกือบได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะโต้กลับ และเป็น นานี่ ที่กระชากบอลจากทางฝั่งขวา แล้วเลี้ยงผ่าน กลิชี่ เข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา แต่จังหวะสุดท้ายกลับซัดด้วยขวาโด่งข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น

น.64 อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นก่อน โดยถอด โทมัส โรซิซกี้ และ แจ็ค วิลเชียร์ สองกองกลาง ออก และส่ง เชส ฟาเบรกาส กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี สองตัวรุกตัวจริงลงมาเล่นแทนที่

น.73 เกิดเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น เมื่อ "ปีศาจแดง" มาได้ลูกโทษ จากจังหวะที่ นานี่ พยายามเปิดบอลในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา บอลพุ่งไปโดนแขนของ กลิชี่ ที่ล้มอยู่ แบบเต็มๆ ทำให้ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่ มีทางเลือก เป่าให้เป็นลูกโทษกับ แมนฯ ยูฯ ทันที แต่ก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้น เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ที่รับหน้าที่สังหารลูกนี้ กลับซัดด้วยขวาพลาดเป้าไปไกล โด่งข้ามคานออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น พลาดโอกาสขึ้นนำ 2-0 ไปอย่างน่าเสียดาย

น.77 เวนเกอร์ ตัดสินใจเปลี่ยนไม้ตายสุดท้ายลงมาในสนาม โดยส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงมาเล่นแทนที่ของ อังเดร อาร์ชาวิน

น.85 แมนฯ ยูฯ เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกของเกม โดย "เซอร์เฟอร์กี้" ตัดสินใจถอด อันแดร์สัน ออก และส่งตัวเก๋าอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาแทนที่

หลัง จากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มเติมได้ จบเกม "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูฯ เชือด "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ พาร์ค ชี-ซอง คว้าสามแต้มเต็ม เก็บเพิ่มเป็น 34 คะแนน พุ่ง ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของตาราง แถมยังลงเตะน้อยกว่าทีมอื่นที่อยู่ใน "บิ๊กโฟร์" อยู่ 1 นัด ส่วน อาร์เซน่อล มี 32 แต้ม เท่าเดิม ตกลงไปรั้งอันดับที่สองของตาราง

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-5-1
เอ็ด วิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (ผู้รักษาประตู), ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน (ไรอัน กิ๊กส์ 85), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, หลุยส์ นานี่, พาร์ค ชี-ซอง, เวย์น รูนี่ย์
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อาร์เซน่อล : ระบบ 4-4-1-1
วอ จเซียช เซสซ์นี่ (ผู้รักษาประตู), เซบาสเตียน สกิลลาชี่, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, บาการี่ ซาญ่า, กาแอล กลิชี่, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์ (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 64), ซามีร์ นาสรี่, โทมัส โรซิซกี้ (เชส ฟาเบรกาส 64), อังเดร อาร์ชาวิน (ธีโอ วัลค็อตต์ 77), มารูยาน ชามัคห์
ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผีเต็มสูบ!ชุดใหญ่ครบ,ปืนยังไร้เชสวางนาสรี่จอมทัพ




"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมขนผู้เล่นชุดใหญ่เต็มสูบลงสนาม ในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ใน "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2553
แมนฯ ยูไนเต็ด - อาร์เซน่อล


สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีศาจแดง ไม่มีคิวลงเตะเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่เกมที่ถล่ม แบล็คเบิร์น 7-1 วันที่ 27 พฤศจิกายน แต่ในช่วงระหว่างนั้น แพ้ เวสต์แฮม 0-4 ในคาร์ลิ่ง คัพ และเสมอ บาเลนเซีย 1-1 ในถ้วยยุโรป

ริโอ เฟอร์ดินานด์, พอล สโคลส์ และ ปาทริซ เอวร่า จะฟิตกลับคืนทีมในเกมนี้ หลังจาก เฟอร์ดินานด์ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าในช่วงต้นครึ่งหลังเกมกับ บาเลนเซีย, สโคลส์ เจ็บโคนขาหนีบพลาดมา 3 นัดติด ชวดซ้อมก่อนเกมกับ บาเลนเซีย เช่นเดียวกับ เอวร่า

ในราย จอนนี่ อีแวนส์ และ เวส บราวน์ สองกองหลังตัวสำรอง ที่มีอาการป่วยติดเชื้อไวรัสทั้งคู่ จะฟิตกลับคืนทีมตามเดิม ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ มีตัวเลือกอย่างเต็มที่

ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เฝ้าเสา แนวรับใช้ ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน, พาร์ค ชี-ซอง คู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส ต้องประเมินสภาพความฟิตของกัปตันทีม เชส ฟาเบรกาส จนถึงนาทีสุดท้าย แม้จะมีโอกาสสูงที่จอมทัพชาวสเปนจะฟิตไม่ทันเกมนี้ เพราะอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า

แผงหลังจะกลับมาใช้งาน กาแอล กลิชี่ ในตำแหน่งแบ็กซ้ายอีกครั้ง เพราะหายป่วยกลับมาแล้ว ซึ่งทำให้ต้องพลาดเกมยุโรปที่เจอ ปาร์ติซาน เบลเกรด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่วน โยฮัน ฌูรู เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ก็หายเจ็บต้นขาด้วย

ล่าสุด แบ็กซ้ายตัวสำรอง คีแรน กิ๊บบ์ส วัย 21 ปี ที่ลงเล่นเกมยุโรปแทน กลิชี่ ดันมาเจ็บข้อเท้าเพิ่มไปอีก ต้องพักประมาณ 3 สัปดาห์ด้วยกัน

ส่วนนักเตะที่บาดเจ็บอยู่ก่อนอย่าง มานูเอล อัลมูเนีย (ศอก), โธมัส แฟร์มาเล่น (เอ็นร้อยหวาย) และ อาบู ดิอาบี้ (ข้อเท้า) ยังคงพักฟื้นอยู่

ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เฝ้าเสา แนวรับใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ มารูอาน ชามัค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน, พาร์ค ชี-ซอง - เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์


ผีดุ! 5 นัดหลังไม่มีแพ้ปืนใหญ่



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผลงานที่ดีในการเจอกับ อาร์เซน่อล ตลอด 5 นัดหลังสุด เพราะ ปีศาจแดง เก็บชัยชนะได้ถึง 4 นัด และเสมอ 1 ไม่แพ้ให้ทีม ปืนใหญ่ เลยทั้งเหย้าและเยือนในลีกและถ้วยยุโรป

ถ้านับรวมตลอด 3 ฤดูกาลหลัง ทั้งสองทีมพบกันทั้งหมด 9 นัด เป็นเกมพรีเมียร์ลีก 6 นัด, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 นัด และ เอฟเอ คัพ 1 นัด ปรากฏว่า ปีศาจแดง เอาชนะมากถึง 6 นัด เสมอกัน 2 นัด และ ปืนใหญ่ ชนะนัดเดียว ซึ่งเป็นเกมพรีเมียร์ลีกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ฤดูกาล 2008-09

ผลงานการมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ อาร์เซน่อล ก็ย่ำแย่จริงๆ 9 ครั้งที่มาเยือนที่นี่ทั้งในลีกและบอลถ้วย ปืนใหญ่ แพ้กลับออกไปถึง 7 นัด

ฤดูกาลที่แล้ว เจอกันแค่ในพรีเมียร์ลีก 2 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะได้ทั้งไป-กลับ โดยเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ชนะก่อน 2-1 จากประตูชัยการทำเข้าประตูตัวเองของ อาบู ดิอาบี้ ส่วนอีกนัด ปีศาจแดง บุกชนะ 3-1 ลูกแรก มานูเอล อัลมูเนีย ปัดเข้าประตูตัวเอง ที่เหลือ เวย์น รูนี่ย์ กับ พาร์ค ชี-ซอง ช่วยกันยิง


สถิติดวลตัวตัวป๋าเหนือเวนเกอร์



การเผชิญหน้ากันระหว่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เจอกันมาแล้วมากถึง 43 นัด เฟอร์กี้ คว้าชัยชนะได้มากกว่าเล็กน้อย

นับตั้งแต่ปี 1996 ที่ เวนเกอร์ เข้ามาคุมทีม ปืนใหญ่ ดวลฝีมือกับ เซอร์ อเล็กซ์ มาแล้ว 43 นัด กุนซือชาวสกอตต์ เอาชนะได้ 17 นัด ส่วนกุนซือชาวฝรั่งเศส เอาชนะ 14 นัด ที่เหลือ 11 นัดเสมอกัน โดย 2 นัดในจำนวนนั้นต้องดวลจุดโทษเป็นการตัดสิน


นาสรี่หยันผีไม่น่ากลัวเหมือนก่อน



ซามีร์ นาสรี่ กองกลางตัวเก่งของ อาร์เซน่อล ออกโรงหยัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนสมัยที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ คาร์ลอส เตเวซ อยู่แล้ว โดยเฉพาะการเล่นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ไม่ได้น่าเกรงขามเหมือนสมัยก่อน

"เดอะ กันเนอร์ส" ชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ครั้งสุดท้ายเดือนกันยายน 2006 แต่ นาสรี่ หยันว่า "ปีศาจแดง" ก็ไม่ได้น่าเกรงขามเหมือนยุคที่มี่ทั้ง โรนัลโด้ และเตเวซ อยู่เหมือนกัน "ผมว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่เป็นทีมแบบเมื่อก่อน การมาเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะน่าเกรงขามมากสมัยที่พวกเขามี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเตเวซ อยู่ ตอนนี้ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะดุดันแบบเมื่อก่อน แต่แน่นอน พวกเขายังเป็นทีมที่ดี และพอพวกเขานำ 1-0 ก็แทบเป็นประตูแพ้ได้เลย เราจะได้รู้กัน แต่เรามั่นใจมากว่าจะได้ผลการแข่งขันที่ดีจากเกมนี้"

มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสวัย 23 ปี ฟอร์มจัดจ้านมากในฤดูกาลนี้ ยิงไปแล้ว 12 ลูก แม้จะผ่าเข่าจนต้องพักไปช่วงหนึ่งตอนต้นฤดูกาล โดย นาสรี่ เชื่อว่าเขาได้ประโยชน์จากการโดน เรย์มงด์ โดเมเน็ค เมินเรียกตัวไปเล่นฟุตบอลโลก ที่ แอฟริกาใต้ ปี 2010 "ผมได้พักช่วงซัมเมอร์อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรกในชีวิต ผมได้พักร่วม 2 เดือน ตอนนี้ผมชินกับการเล่นพรีเมียร์ลีกแล้ว ผมแสดงฝีเท้า และผมมั่นใจ เพื่อนร่วมทีมทุกคนก็มั่นใจในตัวผม ผมจึงรู้สึกดีเยี่ยม"


BPL 08/09 ARSENAL 2-1 manchester united




Manchester United 2 1 Arsenal 2009/2010

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เชสเร่งฟิตหวังบู๊ผีแต่ไม่ขอเสี่ยงถ้าไม่ทัน




เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์กัปตันทีม อาร์เซน่อล รับอยากหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าฟิตทันเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. นี้ แต่ถ้าไม่หายจริงๆ ก็จะไม่เสี่ยง เนื่องจากหวั่นเจ็บซ้ำที่เดิมอีก ทำให้ต้องรอดูกันไปก่อน

ฟาเบรกาส ต้องประสบกับฤดูกาลที่ยากลำบาก เมื่อเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนมาตลอด และเดินกะเผลกออกจากสนามในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกไปแพ้ บราก้า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งระหว่างช่วงที่เขาไม่อยู่ "ปืนใหญ่" เอาชนะ ฟูแล่ม 2-1 จนแซงหน้า "ปีศาจแดง" ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงแทน เมื่อสุดสัปดาห์ หลังจากเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเยือน แบล็คพูล มีอันต้องยกเลิกไป

ด้วยเหตุนี้ เกมในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม จึงมีเดิมพันสูง เนื่องจาก 2 ทีมมีคะแนนต่างกันเพียงแต้มเดียวเท่านั้น แต่ ฟาเบรกาส ไม่ขอรับรองอะไรว่าเขาจะฟิตทันบิ๊กแมตช์ที่โรงละครแห่งความฝัน โดยกล่าวว่า "เรื่องที่ผมจะกลับมาลงสนาม เราต้องรอนานกว่านี้อีกหน่อยกว่าจะรู้อะไรเพิ่มเติม ผมออกไปวิ่งมา 2 วันแล้ว และมันก็รู้สึกดี ความรู้สึกถือว่าโอเคทีเดียว แต่ผมยังทำไม่ได้เต็มร้อย สำหรับตอนนี้เราต้องทำงานกันต่อไป"

กัปตัน ทีม อาร์เซน่อล ลงเล่นเป็นตัวจริง 9 นัดจาก 16 เกมลีกของ อาร์เซน่อล ฤดูกาลนี้ และไม่อยากเจ็บซ้ำจนต้องหยุดพักไปรักษาตัวอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า "ผมรู้สึกดีขึ้นทุกวัน แต่ประเด็นคือหาทางแก้ไข ปัญหาบาดเจ็บนี้จะได้ไม่กลับมาอีก เพราะฉะนั้นเรากำลังพิจารณาหลายๆ อย่าง บางทีการพักน่าจะช่วยได้ แต่ก็ต้องหาต้นตอด้วย ผมอยากฟิตทันเกมพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เราจะได้รู้กัน ผมจะลงเล่นต่อเมื่อเอ็นหลังหัวเข่าของผมหายสนิทแล้วเท่านั้น เพราะผมไม่อยากลงไปและเจ็บซ้ำอีก"

ปืนรัวปาร์ติซานฯ3-1เข้าที่สองของกลุ่มศึกชปล.




"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มปิดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม แบบทำแฟนบอลระทึก ด้วยรัวยิง ปาร์ติซานฯ จาก เซอร์เบีย 3-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่,ธีโอ วัลคอตต์ และ ซามีร์ นาสรี่ พาเหรดช่วยกันยิง เก็บสามคะแนนที่ต้องการ ตีตั๋วผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอับดับสองของกลุ่ม ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
กลุ่มเอช
อาร์เซน่อล(อังกฤษ) 3-1 ปาร์ติซานฯ(เซอร์เบีย)


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


เกมนี้ อาร์เซน เวนเกอร์ ส่งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงล่าตาข่ายคู่กับ มารูอาน ชามัค หวังคว้าชัยชนะเพื่อผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ส่วนปาร์ติซานฯ ที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ยังคงส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม


เริ่มเกมมา นาทีที่ 12 เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน จากจังหวะโหม่งโล่งๆของ มารูอาน ชามัค แต่บอลกลับเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดาย


นาทีที่ 24 คีแรน กิ๊บบ์ส ซึ่งโดนเข้าปะทะอย่างหนัก จนบาดเจ็บในจังหวะก่อนหน้านี้ ฝืนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา เอ็มมานูเอล เบูเอ้ ลงมาแทน


เจ้าบ้านที่บุกอย่างหนักตั้งแต่ต้นเกม มาปลดล็อคความกดดันสำเร็จในนาทีที่ 29 จากจังหวะที่ ฟาน เพอร์ซี่ โดน มาร์โก โยวาโนวิช สกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ ดาวยิงดัตช์ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด อาร์เซน่อลนำ 1-0


ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านได้ลุ้นบวกเพิ่มเมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ เก็บตกบอลได้จากความผิดพลาดของ มลาเดน เคิร์สตายิช แต่ดันจ่ายเข้าในย้อนหลัง ชามัค ที่สอดขึ้นมาคนเดียวโล่งๆ อย่างน่าเสียดาย


หมดครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล นำ ปาร์ติซานฯอยู่ 1-0


เริ่มครึ่งหลังมานาทีเดียว เจ้าบ้านได้เสียวก่อนเลย จากจังหวะที่ เดนิลสัน แทงทะลุช่องให้ ชามัค หลุดเข้าเขตโทษ แต่บอลสุดปลายเท้าดาวยิงโมร็อกโก ทำให้ สตอยโกวิช ออกมาบล็อกได้ทัน


แต่ถัดมาในนาทีที่ 52 แฟนเจ้าบ้านต้องเงียบกริบทั้งสนาม เมื่อ เคลโอ ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนพลิกยิงแฉลบขา เซบาสเตียน สกิลลาชี่ บอลเปลี่ยนทางลอยข้ามตัว ฟาเบียนสกี้ เข้าประตูไป ให้ปาร์ติซานฯ ตามตีเสมอเป็น 1-1


หลังถูกตีเสมอ เวนเกอร์ ต้องแก้เกมโดยการส่ง ธีโอ วัลคอตต์ ลงมาแทน อังเดร อาชาวิน ในนาทีที่ 67
และ ก็เป็นวัลคอตต์ที่ทำให้แฟนเจ้าบ้านได้เฮสนั่น ในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่ ซานญ่า เปิดจากด้านขวาเข้าเขตโทษ โยวาโนวิช โหม่งสกัดไม่ขาด บอลมาเข้าทางวัลคอตต์ กดเต็มข้อบอลเสียบเสาสอง ให้อาร์เซน่อลนำอีกครั้งเป็น 2-1


เจ้าบ้านมาลอยตัวนำห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 77 อเล็ก ซง โชว์สเต็ปพาบอลหลบกองหลังปาร์ติซานฯ ก่อนจ่ายให้ นาสรี่ พลิกยิงในกรอบเขตโทษบอลเสียบตาข่าย


ช่วงท้ายเกม บาการี่ ซาญ่า แบ๊กขวาอาร์เซน่อลมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามหลังไปเตะราโดซาฟ เปโตรวิช กำลังจะหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ


จบเกมอาร์เซน่อล เอาชนะ ปาร์ติซานฯ อย่างสุดระทึก 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้ม แต่ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ในฐานะอันดับสองของกลุ่มเอช

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซาญ่า, เซบาสเตียน สกิลลาชี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, ซามีร์ นาสรี่, อังเดร อาชาวิน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, มารูอาน ชามัค
สำรอง : วอยเซียค เซซนี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, แจ็ค วิลเชียร์, โธมัส โรซิคกี้, ธีโอ วัลคอตต์, คาร์ลอส เวล่า, นิคลาส เบนท์เนอร์
ปาร์ติซาน : วลาดิเมียร์ สตอยโกวิช, สเตฟาน ซาวิช, มาร์โก โยวาโนวิช, มลาเดน เคิร์สตายิช, อเล็คซานด้า ลาเซฟสกี้, เมโด้, อัลมามี่ โมเรร่า, ราโดซาฟ เปโตรวิช, สเตฟาน บาโบวิช, ซาซ่า อิลิช, เคลโอ
สำรอง : ราดิซ่า อิลิช, วอยจ์สลาฟ สแตนโกวิช, ดาร์โก้ บราซานัช, อเล็คซานด้า ดาวิดอฟ, โจเซป กิซิโต้, อิวิก้า อิลิเยฟ, มิลาน สมิลายิช
ผู้ตัดสิน : เปาโล ทาเกลียเวนโต้

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จัดไป!ปืนตบโบนัสงามๆต่อสัญญา "นาสรี่"




อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือขงเบ้งเมืองน้ำหอมยืนยัน อาร์เซนอล พร้อมเปิดเจรจากับ ซามีร์ นาสรี่ ขยายเวลาค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมออกไปแถมเพิ่มค่าเหนื่อยเทียบเท่ากับซูเปอร์สตาร์ในทีมคนอื่นๆ

เวนเกอร์ประทับใจ นาสรี่ กลายเป็นจิ๊กซอว์คนสำคัญช่วย "ปืนใหญ่" รั้งตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกโดยสามารถทดแทนการขาดหายไปของ เชสก์ ฟาเบรกัส ได้เป็นอย่างดี

"เราพยายามต่อสัญญาฉบับใหม่อยู่นะ ผมเชื่อมั่นว่า 90 เปอร์เซนต์ตลอดชีวิตค้าแข้งของนักเตะจะผูกพันอยู่กับทีมที่พวกเขาตัดสินใจ ย้าย" กุนซือหน้าเหี่ยวเอ่ยถึง นาสรี่ ตอนย้ายจาก มาร์กเซย์ เมื่อปี 2008

"สำหรับผมเขาตัดสินใจได้อย่างถูกต้องที่ยอมร่วมทีมกับเรา ดังนั้นมันก็เหมาะสมแล้วที่เขาควรอยู่กับเราต่อไป"

ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มเอช อาร์เซน่อล vs ปาร์ติซาน




ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/2011

รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย

วันพุธที่ 8 ธันวาคม 2553

อาร์เซน่อล (อังกฤษ) vs ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย)

กลุ่มเอช


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ความจุ : 60,355 ที่นั่ง
ผู้ตัดสิน : เปาโล ตาญาเวนโต้ (อิตาลี)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : Paolo Calcagno (ITA), Massimiliano Grilli (ITA), Daniele Orsato (ITA), Andrea De Marco (ITA)
ผู้ตัดสินที่ 4 : Emidio Morganti (ITA)
นักเตะที่น่าจับตามอง : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ vs สเตฟาน บาโบวิช
ผลที่คาด : อาร์เซน่อล 2:0 ปาร์ติซาน
เวลาเตะ : 02.45 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3
สภาพอากาศ : มีเมฆหนา อุณภูมิ 0°C~1°C ความชื้น 96%
อัตราต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อ2ลูกครึ่ง
ติดโทษแบน : ไม่มี
บาดเจ็บ : อาร์เซน่อล>โยฮัน ฌูรู, โธมัส แฟร์มาเล่น, เชส ฟาเบรกาส

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนามของทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล ระบบ 4-4-2 : ลู คัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซานย่า, โยฮัน ฌูรู, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, คีแรน กิ๊บบ์ส, ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, ซามีร์ นาสรี่, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, นิคลาส เบนท์เนอร์

ปาร์ติซาน เบลเกรด ระบบ 4-5-1 : วลา ดิเมียร์ สตอยโควิช, มาร์โก โยวาโนวิช, อเล็กซานดาร์ ลาเซฟสกี้, มลาเด้น เคอร์สตายิช, อิวาน สเตฟาโนวิช, ราโดซาฟ เปโตรวิช, อัลมานี่ โมไรร่า, ซาซ่า อิลิช, สเตฟาน บาโบวิช, มิลาน สมิลยานิช, เคลโอ

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

นาสรี่เบิ้ล!ปืนบี้ฟูแล่ม2-1แซงผีนำฝูงทิ้งแต้มเดียว




อาร์เซน่อลผงาดนำจ่าฝูงหลังบดเอาชนะฟูแล่ม2-1เก็บชัยทิ้งแมนฯ ยูไนเต็ดแค่แต้มเดียวแต่แข่งมากกว่า 1 นัด


อาร์เซน่อล 2-1 ฟูแล่ม

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล เปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พบกับ ฟูแล่ม โดยเกมนี้ อาร์เซน เวนเกอร์ วาง ซามีร์ นาสรี่ ปั้นเกมแทน เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมที่บาดเจ็บ ส่วนทางด้าน ฟูแล่ม วาง ดิโอม็องซี่ กามาร่า ยืนเป็นหอกเดี่ยว

เริ่มเกมมา 6 นาที เจ้าบ้านเดินหน้าลุยใส่ ตามสไตล์และน่าได้ประตูขึ้นนำ จากฟรีคิกริมเส้นด้านขวาเปิดเข้าเขตโทษทีมเยือน เซบาสเตียน สกิลลาชี่ โหม่งตั้งให้ ให้อังเดร อาชาวินได้วอลเล่ย์จ่อๆ แต่บอลตรงตัว มาร์ค ชวาร์เซอร์

นาที 14 "ปืนใหญ่" นำ 1-0 เมื่อกองหลังฟูแล่มเสียบอลให้ อาชาวิน ก่อนสตาร์รัสเซีย จ่ายให้นาสรี่ ล็อคหลบ 2 กองหลัง ในเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเหนือชั้น

แต่ทีมเยือนกลับตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 30 จากจังหวะที่ สองกองหลังเจ้าบ้านชนกันเอง เปิดโอกาสให้ คลินท์ เดมซี่ย์ ดีดทะลุช่องให้ ดิโอม็องซี่ กามาร่า หลุดไปยิงผ่านตัว ฟาเบียนสกี้ เข้าไป

จากจังหวะชนกันเอง ทำให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่งโยฮัน ฌูรู ลงมาเล่นแทน

ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนเกือบขึ้นนำ กามาร่า หลุดเดี่ยว แต่ยิงไม่ผ่าน ฟาเบียนสกี้ หมดครึ่งแรก เสมอกัน 1-1

ครึ่งหลังน.75ปืนโตนำ 2-1เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แตะบอลให้ซามีร์ นาสรี่แตะบอลหนีกองหลังฟูแล่มเข้าไปในกรอบแล้วแตะหลบมาร์ค ชวาร์เซอร์ ก่อนหมุนตัวตวัดยิงด้วยขวาตุงตาข่ายิย่างสวยงาม

น.78 ดิ๊คสัน เอตูฮู ได้ล้มตัวซัดด้วยขวาแถวจุดโทษแบบเต็มๆแต่บอลพุ่งถากเสาออกหลังไป

จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มทำให้อาร์เซน่อล ชนะ ฟูแล่ม 2-1 แซงขึ้นนำฝูงทิ้งแมนฯ ยูไนเต็ดแค่แต้มเดียวแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ; บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่,เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์ ; ซามีร์ นาสรี่, โทมัส โรซิชกี้, อังเดร อาร์ชาวิน ; มารูอาน ชามัค

สำรอง : วอยเซียช เชสนี่, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ธีโอ วัลค็อตต์, เดนิลสัน, คีแรน กิ๊บบ์ส, นิคลาส เบนท์เนอร์

ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ ; จอห์น แพนท์ซิล, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, แม็ทธิว บริกก์ส, ไซม่อน เดวิส, แดนนี่ เมอร์ฟี่, ดิ๊คสัน เอตูฮู, คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ ; โซลตัน เกร่า ; ดิโอม็องซี่ กามาร่า

สำรอง : เดวิด สต๊อคเดล, สตีเฟ่น เคลลี่, แอนดรูว์ จอห์นสัน, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, เอ็ดดี้ จอห์นสัน, โจนาธาน กรีนนิ่ง, คริส แบร์ด

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เชสยังชวด!นาสรี่จอมทัพปืนบู๊เจ้าสัว




อาร์เซน่อล ยังคงไม่มี เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม ในการเปิดบ้านรับการมาเยือน ฟูแล่ม ศึก "ลอนดอนดาร์บี้" คืนนี้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2553
อาร์เซน่อล - ฟูแล่ม


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ ปืนใหญ่ จะเรียกตัวหลักหลายคนกลับมาเป็นตัวจริงเกมลีกอีกครั้ง หลังส่งสำรองและดาวดังที่อยู่ในช่วงเรียกความฟิต ลงสนามในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่เอาชนะ วีแกน 2-0 เมื่อวันอังคาร

ปัญหาเดิมของทีมอยู่ที่ เชส ฟาเบรกาส จอมทัพสเปน เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ยังหมดสิทธิ์ลงเล่นเกมสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับ มานูเอล อัลมูเนีย มือ 1 ที่กลับมาซ้อมแล้ว แต่ดันมีปัญหาที่ข้อศอกกำเริบอีก ชวดเฝ้าเสาแน่นอนแล้ว

ซามีร์ นาสรี่ กับ เซบาสเตียง สกิลลาชี่ หายเจ็บเข่ากลับมาแล้ว น่าจะยึดตัวจริงคืน แต่ในราย อาบู ดิอาบี้ (ข้อเท้า) และ โธมัส แฟร์มาเล่น (เอ็นร้อยหวาย) ยังพลาดลงเล่นเหมือนเดิม

ระบบการเล่น 4-4-2 ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เฝ้าเสา แผงหลังใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ คู่หน้า อังเดร อาร์ชาวิน ยืนคู่ มารูอาน ชามัค

ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ เจ้าสัวน้อย ถูกดูดลงไปอยู่โซนท้ายตารางแล้ว แม้ผลงานจะแพ้น้อยแค่ 4 นัด แต่ก็ชนะน้อยแค่ 2 นัดเท่านั้น หนักไปทางเสมอถึง 9 นัด รวมถึงเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 ด้วย

สภาพทีม ฮิวจ์ส จะได้ แอนดี้ จอห์นสัน กองหน้าหัวโล้น กลับคืนทีมแล้ว หลังไม่มีชื่อนัดก่อนเพราะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าไปอีก ทั้งที่เพิ่งกลับมาเป็นตัวจริงนัดแรกในสองนัดก่อนที่แพ้ แมนฯ ซิตี้ หลังพักยาวร่วม 10 เดือน

คาร์ลอส ซัลซิโด้ แบ็กซ้ายเม็กซิกัน เพิ่งฟิตกลับมานัดก่อน แต่ก็ดันเจ็บข้อเท้าไปอีก ทำให้ต้องพักร่วมกับ มุสซ่า เดมเบเล่ (ข้อเท้า), บ็อบบี้ ซาโมร่า (ขาหัก), ราฟิค ฮัลลิเช่ (ต้นขา), เฟรเดริก สตูร์ (โคนขาหนีบ) และ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส (เอ็นร้อยหวาย) ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนแล้ว

ระบบการเล่น 4-4-2 มาร์ค ชวาร์เซอร์ เฝ้าเสา แนวรับ คริส แบร์ด, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, จอห์น พานท์ซิล แดนกลางมี ไซม่อน เดวี่ส์, ดิ๊กสัน เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ คู่หน้า โซลตาน เกร่า ยืนคู่ แอนดี้ จอห์นสัน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่ - ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ - อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค

ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - คริส แบร์ด, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, จอห์น พานท์ซิล - ไซม่อน เดวี่ส์, ดิ๊กสัน เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ - โซลตาน เกร่า, แอนดี้ จอห์นสัน

ใครดีใครได้ ปืน-ผีแย่งเซ็นฟรีนายด่านเม็กซิโก




งานนี้ใครดีใครได้ หลังมีข่าวว่าทางอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสองยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ ลีกกำลังให้ความสนใจกีเยอร์โม่ โอโชอาผู้รักษาประตูทีมชาติเม็กซิโกที่จะหมดสัญญากับต้นสังกัดในช่วง ซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพิ่งจะเซ็นสัญญากับอันเดรส ลินเดการ์ดผู้รักษา
ประตูที่ได้รับการขนานนามว่ามีฝีไม้ลายมือคล้ายกับปีเตอร์ ชไมเคิ่ล แต่ด้วยสถิติในพักหลังเกี่ยวกับการว่าจ้างนายทวารบวกกับโธมัส คุสแช็คนายทวารโลกลืมที่อาจจะขอย้ายทีมในเร็ววันนี้อาจทำให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันต้องคอยหาตัวเลือกคนอื่นไว้ด้วย

ส่วนอาร์เซนอลซึ่งถึงแม้ว่าลูคัส ฟาเบียนสกี้จะเริ่มโชว์ผลงานให้เห็นแต่อาร์แซน เวนเกอร์ก็ต้องการคนที่ไว้ใจได้มาไว้ใช้งานในยามฉุกเฉินเช่นกัน

โอโชอาลงเฝ้าเสาให้เม็กซิโกไปแล้ว 40 เกมส์แต่ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาเขาไม่ได้มีส่วนร่วมเพราะทางผู้จัดการทีม ไว้ใจออสการ์ เปเรซมากกว่า

ปืนพบม้าขาวคาร์ลิ่ง คัพตัดเชือก




"ปืน ใหญ่"อาร์เซนอลขยับเข้าใกล้ถ้วยรางวัลหนแรกในรอบ 5 ปีหลังผลการจับฉลากคาร์ลิ่ง คัพรอบรองชนะเลิศพบอิปสวิช ทาว์นหนึ่งเดียวจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

"ม้าขาว"ของรอย คีนเบียดเอาชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบียนเหนาะๆ 1-0 และต้องเจอของแข็ง+เต็งหนึ่งรายการนี้อย่างอาร์เซนอล

ในขณะเดียวกันเวสต์แฮมที่พลิกล็อกชนะแมนฯยูไนเต็ดมา 4-0 จะฟาดปากกับเบอร์มิงแฮมที่โค่นแอสตัน วิลล่ามาหมาดๆ

รอบรองชนะเลิศจะทำการแข่งขันกันสองนัดโดยเลกแรกเตะในวันที่ 10 มกราคมส่วนเลกสองจะมีขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา


ที่มา http://www.soccersuck.com and www.arsenal.in.th