ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

โรบิน ฟาน เพอร์ซี (robin van persie)




ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม โรบิน ฟาน เพอร์ซี

วันเกิด 6 สิงหาคม ค.ศ. 1983 (อายุ 28 ปี)

สถานที่เกิด ร็อตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์

ส่วนสูง 1.88 ม. (6 ฟุต 2 นิ้ว)

ตำแหน่ง กองหน้า,ปีกซ้าย


ข้อมูลสโมสร

สโมสรปัจจุบัน อาร์เซนอล

หมายเลข 10


สโมสรอาชีพ

ปี สโมสร ลงเล่น (ประตู)

2001-2004 เฟเยนูร์ด 59 (15)
2004- อาร์เซนอล 275 (130)

ประวัติ

โรบิน ฟาน เพอร์ซี (เกิดวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1983) เป็นนักฟุตบอลชาวดัตช์ ตำแหน่งศูนย์หน้าของสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นอกจากนั้นยังเล่นเป็นปีกซ้ายได้อีกด้วย

ชีวิตวัยเด็ก

โรบิน ฟาน เพอร์ซี เติบโตในย่านคราลิงเจนแห่งร็อตเตอร์ดัมตะวันออก มารดาคือ โจเซ่ ราส เป็นจิตรกร ส่วนบิดาคือ บ๊อบ เป็นประติมากร เพอร์ซียังมีน้องสาวอีก 2 คนคือ ลิลลี่ และกิกี้ บิดาและมารดาสนับสนุนให้เพอร์ซีเป็นศิลปินเช่นเดียวกับพวกเขา แต่สุดท้ายเพอร์ซีกลับเลือกที่จะเล่นฟุตบอลแทน

เฟเยนูร์ด

ฟาน เพอร์ซี เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ SBV Excelsior เมื่อปี 2001 แต่ก็ต้องย้ายออกไปเนื่องจากมีเรื่องไม่ลงรอยกันกับสตาฟฟ์โค้ช จนได้มาเซ็นสัญญากับเฟเยนูร์ด และสามารถก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ได้เนื่องจากนักเตะรุ่นพี่ในทีมหลายคนได้รับบาดเจ็บ และได้ลงประเดิมสนามให้กับสโมสรด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี และในฤดูกาลแรกนี้ เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงถึง 15 ครั้ง จนได้รับรางวัลนักฟุตบอลดัตช์ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2001-02 หลังจากจบฤดูกาลอีกด้วย

จากนั้น เพอร์ซีก็เซ็นสัญญาอาชีพกับเฟเยนูร์ดเป็นระยะเวลา 3 ปีครึ่งตั้งแต่ต้นฤดูกาลใหม่ และยังเป็นผู้ยิงได้ 5 ประตูในเกมที่เอาชนะ AGOVV มา 6-1 ในอัมสเทลคัพเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003 แต่เนื่องจากความบาดหมางกับ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ผู้จัดการทีมทำให้เพอร์ซีต้องหล่นไปเล่นในทีมสำรองแทน จนฟาน มาร์ไวค์ได้บอกกับสื่อว่า "พฤติกรรมของเขานี้ทำให้เขาคงจะอยู่กับทีมไม่ได้อีกแล้ว ฉะนั้นเขาจะต้องเล่นในทีมสำรองไปตลอด"และในเกมที่เฟเยนูร์ดทีมสำรองพบกับไอแอกซ์ทีมสำรองนั้น เขาเป็นหนึ่งในนักเตะเฟเยนูร์ดหลายคนที่โดนแฟนบอลอันธพาลวิ่งเข้าสู่สนามเพื่อลงมาทำร้ายร่างกายอีกด้วย.

ความบาดหมางของฟาน เพอร์ซีกับฟาน มาร์ไวค์ยังคงมีอยู่ต่อเนื่องจากมาร์ไวค์สั่งเขากลับบ้านในวันก่อนเกมที่จะพบกับเรอัลมาดริดในยูฟ่าซุปเปอร์คัพเมื่อปี 2003 โดยมีรายงานว่าโค้ชคนนี้ไม่พอใจกิริยาของฟาน เพอร์ซีที่มีต่อเขาเมื่อได้รับคำสั่งให้วอร์มอัพเพื่อเตรียมลงแข่งเกมลีกเมื่อไม่นานมานี้. จากนั้น ฟาน เพอร์ซีก็สามารถแทรกขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ได้เป็นครั้งแรก ลงสนามไปทั้งหมด 28 ครั้ง ยิงได้ 8 ประตู และยังพาทีมได้รองแชมป์บอลถ้วยของเนเธอร์แลนด์อีกด้วย

หลังจากจบฤดูกาลนั้น เฟเยนูร์ดก็ไม่สามารถต่อสัญญากับฟาน เพอร์ซีได้ในช่วงปิดฤดูกาล จนกระทั่งความเป็นอริต่อกันของฟาน มาร์ไวค์กับฟาน เพอร์ซีทำให้เขาต้องนั่งเป็นตัวสำรองเสียเป็นส่วนใหญ่ในฤดูกาล 2003-04 นี้ ได้ลงเล่นเพียงแค่ 28 เกม แต่ก็ยังยิงได้น้อยกว่าฤดูกาลที่แล้ว 2 ประตู เมื่อจบฤดูกาล เฟเยนูร์ดจึงประกาศขายนักเตะคนนี้ออกไปทันทีเนื่องจากทนไม่ไหวกับระเบียบวินัยอันย่ำแย่ของนักเตะคนนี้แล้ว และก็กลายเป็นอาร์เซนอลที่เริ่มเปิดเจรจาซื้อตัวนักเตะรายนี้ในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมเปิดทำการ โดยในช่วงนั้นอาร์เซนอลกำลังมองหาตัวแทนของเดนนิส เบิร์กแคมป์อยู่พอดีด้วย แต่ทั้งสองฝ่ายกลับไม่สามารถเจรจากันได้อย่างราบลื่นจนไม่ได้ข้อสรุปในที่สุด อย่างไรก็ตาม 5 เดือนต่อมาการซื้อขายนักเตะรายนี้ก็ประสบผลสำเร็จ โดยอาร์เซนอลคว้าตัวดาวยิงรายนี้ไปด้วยราคา 2.75 ล้านปอนด์ ซึ่งน้อยกว่าที่เฟเยนูร์ดตั้งไว้คือ 5 ล้านปอนด์ถึงเกือบครึ่ง

อาร์เซนอล

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 ฟาน เพอร์ซีได้เซ็นสัญญาฉบับแรกกับอาร์เซนอล มีระยะเวลาของสัญญา 4 ปี อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมตั้งใจว่าจะโยกฟาน เพอร์ซีจากตำแหน่งปีกซ้ายมาเล่นศูนย์หน้า ซึ่งฟาน เพอร์ซีก็ทำหน้าที่นี้เคียงข้างเธียร์รี อองรีได้เป็นอย่างดี เวนเกอร์อธิบายการตัดสินใจครั้งนี้ว่า"เขาสามารถเล่นเป็นปีกซ้ายได้ และยังเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวหลังหรือกองหน้าตัวเป้าได้เนื่องจากเป็นนักเตะที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง" อย่างไรก็ตาม โอกาสที่เขาจะได้เล่นศูนย์หน้าก็ถูกจำกัดลงเนื่องจากอาร์เซนอลได้เซ็นสัญญษกับโฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส กองหน้าทีมชาติสเปนมาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งเขาต้องแย่งตำแหน่งตัวจริงกับเรเยสตลอดเวลา ฟาน เพอร์ซีได้ประเดิมสนามครั้งแรกด้วยการถูกส่งลงมาจากม้านั่งสำรองในเกมคอมมิวนิตีชิลด์ที่ชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1 และคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2004

Robin Van Persie - The Centurion (All 100 goals) Robin Van Persie- All 35 goals in Premier League 2011 (HD)

2 ความคิดเห็น: