ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

ธีโอ เจมส์ วัลคอตต์ (theo jame walcott)




ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม ธีโอ เจมส์ วัลคอตต์

วันเกิด 16 มีนาคม ค.ศ. 1989 (อายุ 23 ปี)

สถานที่เกิด ลอนดอน อังกฤษ

ส่วนสูง 5 ฟุต 9 นิ้ว (1.75 ม.)

ตำแหน่ง ปีก, ศูนย์หน้า


ข้อมูลสโมสร

สโมสรปัจจุบัน อาร์เซนอล

หมายเลข 14

สโมสรอาชีพ

ปี สโมสร ลงเล่น (ประตู)

2004-2006 เซาท์แทมป์ตัน 21 (4)
2006- อาร์เซนอล       145 (40)


ประวัติ

ธีโอ เจมส์ วัลคอตต์ เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษลูกครึ่งจาเมกา เกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1989ที่สแตนมอร์ มหานครลอนดอน ขึ้นชื่อในเรื่องของความเร็วที่จัดจ้าน ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล โดยย้ายมาจากเซาท์แทมป์ตันเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2006


เซาท์แทมป์ตัน

ธีโอ วัลคอตต์เริ่มเล่นฟุตบอลในทีมเยาวชนของเซาท์แทมป์ตันเมื่อฤดูกาล 2004-05 ที่สามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเยาวชนเอฟเอคัพไปเจอกับอิปสวิชทาว์นได้ นอกจากนั้น เขายังเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเซาท์แทมป์ตันทีมสำรอง เมื่ออายุเพียง 15 ปีกับอีก 175 วันเท่านั้น โดยถูกส่งลงมาจากม้านั่งสำรองในการเจอกับวัตฟอร์ตเมื่อเดือนกันยายน ปี 2004 อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกกับเซาท์แทมป์ตันเลย เนื่องจากเซาท์แทมป์ตันตกชั้นมาเล่นในลีกแชมเปียนชิพเมื่อสิ้นฤดูกาล 2004-05

ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2005-06 นั้น วัลคอตต์ตกเป็นข่าวว่าจะได้ไปเล่นในทีมชุดใหญ่ทั่วสก็อตแลนด์หลังจากออกจากโรงเรียนได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ศูนย์หน้ารายนี้กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่เคยมีมาที่ได้เล่นฟุตบอลให้กับทีมชุดใหญ่ของเซาท์แทมป์ตันด้วยอายุเพียง 16 ปีกับ 143 วัน โดยถูกส่งลงสนามจากม้านั่งสำรองในเกมที่เซาท์แทมป์ตันเสมอกับวูล์ฟแฮมตันวันเดอเรอร์สในบ้าน ในศึกแชมเปียนชิพอังกฤษ

วัลคอตต์ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ในฐานะตัวจริงครั้งแรกในนัดที่ไปเยือนลีดส์ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ปี 2005 และสามาระยิงประตูในทีมชุดใหญ่ได้เป็นประตูแรกในเกมเดียวกันนี้เอง เขายิงประตูได้อีกครั้งในเกมกับมิลล์วอลล์ในอีก 4 วันถัดมา และอีกลูกหนึ่งในเกมที่ได้เล่นเต็มเกมที่เจอกับสโตคซิตีในบ้านในวันเสาร์ถัดมา จากนั้นเขาก็มีชื่อเสียงขึ้นมาทันทีทันใด และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสำนักข่าวบีบีซีจนถึงรอบ 3 คนสุดท้ายอีกด้วย โดยรางวัลนี้มีการมอบขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคม ปี 2005

ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของเซาท์แทมป์ตันนั้น วัลคอตต์ยังเคยโชว์ฝีเท้ามาในแมตช์ประจำปี 2005 อีกด้วย ฟอร์มการเล่นของเขานั้นสร้างความตกตะลึงให้กับบรรดาผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษมาก ซึ่งหลายคนก็บอกว่าเขาคือนักเตะที่น่าจะรุ่งที่สุดคนหนึ่งในบรรดานักเตะเยาวชนที่มีพรสวรรค์ของอังกฤษในตอนนั้ จากนั้นก็มีข่าวลืออกมาว่าวัลคอตต์อาจจะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ชิพและสื่อก็รายงานว่าเขาตกเป็นข่าวกับทีมชั้นนำของเกาะอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซนอล, เชลซี, ยูไนเต็ด และทอตแนมฮ็อตสเปอร์ นอกจากนั้นก็ยังมีข่าวกับสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปไม่ว่าจะเป็นเรอัลมาดริด, ยูเวนตุส, เอซีมิลาน และบาร์เซโลนาอีกด้วย


อาร์เซนอล

ในที่สุด วัลคอตต์ก็ตกลงเซ็นสัญญากับอาร์เซนอล เมื่อวันที่ 20 มกราคม ปี 2005 ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 5 ล้านปอนด์ และอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 12 ล้านปอนด์[5]ขึ้นอยู่กับจำนวนนัดที่ลงเล่นให้กับสโมสรและทีมชาติ ทำให้วัลคอตต์กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสหราชอาณาจักรเมื่อเทียบกับบรรดานักเตะวัย 16 ปีด้วยกัน แต่ต่อมา ในเดือนเมษายน 2008 สโมสรเซาท์แทมป์ตันที่โดนแรงกดดันจากปัญหาด้านการเงินมานานก็ตัดสินใจยอมลดค่าตัวของวัลคอตต์ให้เหลือเพียง 9.1 ล้านปอนด์เท่านั้น ข้อเสนอใหม่นี้หมายความว่าอาร์เซนอลต้องจ่ายเงินให้กับเซาท์แทมป์ตันทันที 1.6 ล้านปอนด์ และอีก 500,000 ปอนด์ในปีต่อมา ซึ่งเงินก้อนนี้ก็จะนำไปรวมกับเงิน 7 ล้านปอนด์ที่อาร์เซนอลจ่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็จะรวมเป็น 9.1 ล้านปอนด์พอดี

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2006 วัลคอตต์ได้ลงเล่นให้กับทีมสำรองของอาร์เซนอลในนัดที่เจอกับทีมสำรองของพอร์ทสมัธที่ฮาวาน เขาทำประตูได้ในนัดนี้แต่อาร์เซนอลก็แพ้ไป 3-2 นอกจากนั้น วัลคอตต์ยังมีชื่ออยู่ในม้านั่งสำรองในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบสองนัดแรกที่เจอกับเรอัลมาดริดที่สนามซานเตียโก เบร์นาเบวเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2006

วันที่ 19 สิงหาคม 2006 วัลคอตต์ได้ลงเล่นในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในสีเสื้อของอาร์เซนอล เขาถูกส่งลงมาจากม้านั่งสำรองในนาทีที่ 73 ในเกมกับแอสตันวิลลาซึ่งเป็นนัดเปิดสนามฤดูกาล 2006-07 และเป็นนัดแรกของสนามเอมิเรตส์สเตเดียมที่ได้ใช้ในการทำศึกพรีเมียร์ลีกอีกด้วย นอกจากนั้น วัลคอตต์ยังเปิดบอลให้กับกิลแบร์โต ซิลวาวอลเล่ย์ตีเสมอได้สำเร็จอีกด้วย

และวัลคอตต์ก็ได้ลงเล่นในศึกแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในเกมที่อาร์เซนอลแข่งขันรอบคัดเลือกรอบที่ 3 กับดินาโม ซาเกร็บนัดที่ 2 ทำให้เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของอาร์เซนอลที่ได้ลงเล่นในรายการยุโรป ซึ่งเจ้าของสถิติเก่าคือเชสก์ ฟาเบรกัสนั่นเอง และวัลคอตต์ก็ได้ลงเป็นตัวจริงให้กับอาร์เซนอลครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2006 ในเกมที่พบกับวัตฟอร์ตในบ้าน

ผลงานของวัลคอตต์กับอาร์เซนอลและกับทีมชาติอังกฤษนั้นทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสำนักข่าวบีบีซี ในปี 2006 อีกด้วย

วัลคอตต์ทำประตูแรกให้กับอาร์เซนอลได้ในเกมคาร์ลิงคัพรอบชิงชนะเลิศที่พบกับเชลซีที่สนามมิลเลนเนียมสเตเดียม คาร์ดิฟฟ์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2007 และได้เป็นเจ้าของสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่สามารถทำประตูได้ในฟุตบอลลีกคัพรอบชิงชนะเลิศ

วันที่ 23 ตุลาคม 2007 วัลคอตต์ก็ทำประตูแรกที่เอมิเรตส์สเตเดียมได้ในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในเกมที่พบกับสลาเวีย ปราก โดยในนัดนั้นอาร์เซนอลถล่มคู่แข่งไปถึง 7-0 และวัลคอตต์ก็ทำได้ 2 ประตู โดยลูกยิงลูกที่สองของเขานั้นมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบลูกยิงที่เธียร์รี่ อองรี ดาวยิงตำนานของทีมยิงให้กับอาร์เซนอลได้บ่อยๆ[9] วัลคอตต์ได้ขอยกประตูนี้ให้กับ ลัค พี่เขยของเขาที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว

วันที่ 9 มกราคม 2008 วัลคอตต์ก็สามารถทำประตูในรายการคาร์ลิงคัพในนัดที่พบกับทอตแนมฮ็อตสเปอร์ โดยเป็นการยิงตีเสมอในนาทีที่ 79 (แต่สุดท้าย ทอตแนมฮ็อตสเปอร์ก็ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวมทั้งสองนัด 6-2) วัลคอตต์ทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในนักที่พบกับเบอร์มิงแฮมซิตีที่เซนต์แอนดรูว์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2008 โดยยิงได้ 2 ประตูในเกมที่อาร์เซนอลเสมอกันไป 2-2

Theo Walcott 2012/2011 - Speed , Run and Goals Theo Walcott | Still Speedin | 2011/2012 [HD]

2 ความคิดเห็น: