ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผีฉลุยหลอกปืนโต1-0 ตี๋พาร์คโขกพุ่งรั้งจ่าฝูง



"ผีแดง" แมนฯ ยูฯ เบียด "ปืนโต" อาร์เซน่อล หวุดหวิด 1-0 "ตี๋พาร์ค" โขกงงๆ เป็นประตูโทนของเกม เก็บ 3 แต้มเต็ม ถีบ "ปืนใหญ่" ร่วงจากบัลลังก์ และขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแทนที่เรียบร้อย ในศึก "มันเดย์ ไนท์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "มันเดย์ ไนท์" ประจำค่ำคืนวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. 2553 เป็นศึก "ซุปเปอร์แมตช์" ประจำปี ระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พบกับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล

สำหรับอันดับในตารางก่อน เกมการแข่งขัน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าบ้าน รั้งอยู่ในอันดับที่ 4 แข่ง 15 นัด ชนะ 8 เสมอ 7 ยังไม่แพ้ใคร มีอยู่ 31 คะแนน เท่ากับ เชลซี แต่ประตูได้เสียแย่กว่า

ส่วน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงของตาราง แข่งมา 16 นัด ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 4 มี 32 คะแนน เท่ากับ "เดอะ ซิตี้" แมนฯ ซิตี้ แต่ประตูได้เสียดีกว่า ซึ่งหากทีมใดเก็บชัยในนัดนี้ได้ก็จะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที

ผลงานล่า สุดของทั้งสองทีม ถือว่าไม่ได้แตกต่างกันมาก โดย "ผีแดง" แมนฯ ยูฯ เล่นเกม "ยูซีแอล" ล่าสุด เสมอกับ "ค้างคาว" บาเลนเซีย ในบ้าน 1-1 สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์ของกลุ่ม ซี ส่วนเกมลีก ถือว่าฟอร์มดีทีเดียว เก็บได้ถึง 11 แต้ม จาก 5 นัดหลังสุด ซัดได้ถึง 13 เสียไป 4 เม็ด โดยนัดล่าสุด เปิดบ้านถล่ม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม สุดท้ายใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นเดียวกัน โดยเป็นอันดับที่สองของกลุ่ม เอช โดยนัดล่าสุด ถล่ม ปาร์ติซาน เบลเกรด 3-1 ขณะที่เกมลีก 5 นัดหลังสุด เก็บชัยได้ถึง 4 นัด และพ่ายเพียงนัดเดียวต่อ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-3

สภาพ ทีมของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือว่าสมบูรณ์มากทีเดียว เมื่อได้ทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ผ่านความฟิตมีชื่อลงสนามเป็นตัวจริง โดยวันนี้ "ผีแดง" มาในระบบ 4-5-1 ใช้ เวย์น รูนี่ย์ เป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียว ดร็อป เบอร์บาตอฟ เป็นเพียงแค่สำรอง ส่วนแผงกลาง 5 คน มี ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ คอยคุมเกม และให้ นานี่ และ พาร์ค ชี-ซอง คอยสร้างสรรค์เกมรุกทางกราบ ขณะที่กองหลัง 4 ตัว ถือว่าแน่นปึ้ก มี ริโอ จับคู่กับ วิดิช ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ แบ็กขวาเป็น ราฟาเอล และแบ็กซ้ายเป็น เอวร่า เช่นเคย

ส่วน "เดอะ กันเนอร์ส" อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังไม่มีทั้ง อาบู ดิอาบี้ และ แฟร์มาเล่น ที่ยังบาดเจ็บ ส่วน เชส ฟาเบรกาส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ธีโอ วัลค็อตต์ มีชื่อเป็นเพียงแค่สำรอง โดย อาร์เซ น่อล มาในระบบ 4-4-1-1 ห้อย มารูยาน ชามัคห์ ไว้แดนหน้าคนเดียว ส่วน อาร์ชาวิน ยืนหน้าต่ำ และมี นาสรี่ กับ โรซิซกี้ คอยสนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางเป็นหน้าที่ของ อเล็ก ซ์ ซง กับ แจ็ค วิลเชียร์ ขณะที่แผงแบ็กโฟร์ใช้นักเตะชาว ฝรั่งเศส ล้วนๆ โดย สกิลลาชี่ จับคู่กับ กอสเซียลนี่ ตำแหน่งตัวกลาง และมีแบ็กสองข้างอย่าง ซาญ่า กับ กลิชี่ เช่นเคย ส่วนตำแหน่งผู้รักษา ประตู จำเป็นต้องใช้มือ 3 วอจเซียช เซสซ์นี่ ดาวรุ่งชาว โปแลนด์ วัย 20 ปี เนื่องจาก ทั้ง อัลมูเนีย และ ฟาเบียนสกี้ ต่างก็ยังมีอาการบาดเจ็บทั้งคู่

เริ่มเกมขึ้นมาไม่นาน น.8 "ผีแดง" ได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ รูนี่ย์ หาจังหวะพลิกตัวนอกกรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 30 หลา ก่อนสับไกยิงด้วยขวา บอลพุ่งไปตรงตัว วอจเซียช เซสซ์นี่ นายทวารหนุ่มที่รับเข้าซองไว้ได้

น.22 แมนฯ ยูฯ เกือบได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กระดกบอลจากทางกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ จังหวะแรก กาแอล กลิชี่ โหม่งสกัดออกมาพลาด ไปเข้าทาง นานี่ ที่วิ่งมาล้มตัวปาดบอลด้วยขวา บอลพุ่งผ่านเสาสองออกไปนิดเดียว ชนิดที่ วอจเซียช เซสซ์นี่ ได้แต่ยืนมองเท่านั้น

น.30 จากจังหวะเปิดครอสบอลทางฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษของ นานี่ บอลไปโดนมือ ชามัคห์ เต็มๆ แต่ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่ได้เป่าให้เป็นลูกโทษแก่เจ้าบ้าน แต่อย่างใด

น.40 เจ้าบ้าน "ผีแดง" แมนฯ ยูฯ มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ นานี่ กระชากขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดเข้ากลาง บอลไปแฉลบขา กลิชี่ ในจังหวะแรก ก่อนที่จะลอยโด่งเข้ากรอบเขตโทษ ไปตกลงหัว พาร์ค ชี-ซอง ที่สะบัดหัวโหม่งแบบผิดจังหวะ บอลลอยไปเบียดโคนเสาสอง ผ่านมือของ วอจเซียช เซสซ์นี่ เข้าประตูไปแบบงงๆ

น.43 มีใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นจนได้ เมื่อ ชามัคห์ ไปสกัดใส่ นานี่ อย่างแรงน่าเกลียด ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่รอช้า เป่าให้เป็นลูกฟาวล์ และแจกใบเหลืองให้กับ มารูยาน ชามัคห์ ทันที

หลังจากนั้น ในช่วงครึ่งแรก ทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ แมนฯ ยูฯ ออกนำ อาร์เซน่อล อยู่ 1-0

เริ่มเกมครึ่งหลังขึ้นมาไม่นาน น.53 เป็น แมนฯ ยูฯ ที่เกือบได้ประตูที่สองเป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่ รูนี่ย์ เลี้ยงจี้หน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 18 หลา ก่อนแทงทะลุช่องไปให้กับ อันแดร์สัน หลุดไปดวลเดี่ยวกับ วอจเซียช เซสซ์นี่ แต่ อันแดร์สัน กลับซัดไปติดตัว เซสซ์นี่ ที่ออกมาเร็ว ปิดมุมได้ดีอย่างเหลือเชื่อ

น.56 เกมบุกแลกอย่างเมามันส์ จังหวะนี้เป็น "ไอ้ปืนใหญ่" บ้าง ที่ได้โอกาสทำประตู จากจังหวะที่ นาสรี่ เลี้ยงทะลุขึ้นมาแล้วลองสับไกด้วยซ้าย ระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งเรียดเข้ากรอบ แต่ ฟาน เดอ ซาร์ ล้มตัวปัดไปได้ ก่อนบอลจะไปเข้าทาง ชามัคห์ ในจังหวะสอง ล้มตัวกวาดบอลด้วยขวา บอลกำลังจะเข้าอยู่แล้ว แต่ วิดิช พุ่งมาสไลด์บอลออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ

น.59 แมนฯ ยูฯ เกือบได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะโต้กลับ และเป็น นานี่ ที่กระชากบอลจากทางฝั่งขวา แล้วเลี้ยงผ่าน กลิชี่ เข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา แต่จังหวะสุดท้ายกลับซัดด้วยขวาโด่งข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น

น.64 อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นก่อน โดยถอด โทมัส โรซิซกี้ และ แจ็ค วิลเชียร์ สองกองกลาง ออก และส่ง เชส ฟาเบรกาส กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี สองตัวรุกตัวจริงลงมาเล่นแทนที่

น.73 เกิดเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น เมื่อ "ปีศาจแดง" มาได้ลูกโทษ จากจังหวะที่ นานี่ พยายามเปิดบอลในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา บอลพุ่งไปโดนแขนของ กลิชี่ ที่ล้มอยู่ แบบเต็มๆ ทำให้ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ไม่ มีทางเลือก เป่าให้เป็นลูกโทษกับ แมนฯ ยูฯ ทันที แต่ก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้น เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ ที่รับหน้าที่สังหารลูกนี้ กลับซัดด้วยขวาพลาดเป้าไปไกล โด่งข้ามคานออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น พลาดโอกาสขึ้นนำ 2-0 ไปอย่างน่าเสียดาย

น.77 เวนเกอร์ ตัดสินใจเปลี่ยนไม้ตายสุดท้ายลงมาในสนาม โดยส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงมาเล่นแทนที่ของ อังเดร อาร์ชาวิน

น.85 แมนฯ ยูฯ เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกของเกม โดย "เซอร์เฟอร์กี้" ตัดสินใจถอด อันแดร์สัน ออก และส่งตัวเก๋าอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาแทนที่

หลัง จากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มเติมได้ จบเกม "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูฯ เชือด "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ พาร์ค ชี-ซอง คว้าสามแต้มเต็ม เก็บเพิ่มเป็น 34 คะแนน พุ่ง ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของตาราง แถมยังลงเตะน้อยกว่าทีมอื่นที่อยู่ใน "บิ๊กโฟร์" อยู่ 1 นัด ส่วน อาร์เซน่อล มี 32 แต้ม เท่าเดิม ตกลงไปรั้งอันดับที่สองของตาราง

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-5-1
เอ็ด วิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (ผู้รักษาประตู), ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน (ไรอัน กิ๊กส์ 85), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, หลุยส์ นานี่, พาร์ค ชี-ซอง, เวย์น รูนี่ย์
ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อาร์เซน่อล : ระบบ 4-4-1-1
วอ จเซียช เซสซ์นี่ (ผู้รักษาประตู), เซบาสเตียน สกิลลาชี่, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, บาการี่ ซาญ่า, กาแอล กลิชี่, อเล็กซ์ ซง, แจ็ค วิลเชียร์ (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 64), ซามีร์ นาสรี่, โทมัส โรซิซกี้ (เชส ฟาเบรกาส 64), อังเดร อาร์ชาวิน (ธีโอ วัลค็อตต์ 77), มารูยาน ชามัคห์
ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น