ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

ปีหน้าว่าใหม่ ปืนหมดลุ้นเจ๊าเรื่อ 0-0




ปืนใหญ่"อาร์เซนอลล้างแค้นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่สำเร็จเสมอในถิ่น 0-0 ทำให้นอกจาก 3 นัดสุดท้ายไม่ชนะใครแล้วยังหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการอีกด้วย

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2553

อาร์เซนอล 0-0 แมนฯซิตี้

ประตู : -

ครึ่งแรก

ปืนลุยก่อน
ช่วงต้นเกมเป็นอาร์เซนอลที่ใช้ความคล่องต่อบอลเข้าเจาะใสแแนวรับ"เรือใบ"ที่ใช้การเข้าประกบติดและเสียบหนักหยุดโรบิน ฟาน เพอร์ซี่เล่นเอาแฟนเสียวจะเจ็บอีกหรือเปล่า

ไร้ความตื่นเต้น
เกมเตะมาจะ 20 นาทีทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสยิงประตูให้ได้เซฟกันเลย เรียก ว่ายังเป็นบอลทันกันเกือบทุกจังหวะแต่โดยรวมแล้วฝั่ง"ปืนใหญ่"พยายามทำเกมเข้าใส่เพื่อต่ออายุลุ้นแชมป์เฮือกสุดท้าย

บอลเซ็ง
เกมรุกของ"เรือใบ"เองก็ไม่เอาเหมือนกันโดยเตเบซกับเบลลามี่หงอยๆไปเลยทำให้ตอนนี้เป็นการรบกันเองของมิดฟิลด์ ขอวันนี้มีลูกแรกจากฝั่งไหนก็ได้รับรองสนุกแน่

นาสรี่หลุดเดี่ยวแต่เจอจับล้ำ
นาที 29 เพอร์ซี่ติดเครื่องกระชากจากกลางสนามแล้วแทงเลียดทะลุให้นาสรี่หลุดเดี่ยวแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าแต่จากภาพช้าไม่ล้ำเลย น่าเสียดายแทนจริงๆ

นาสรี่เกือบยิง 1-0
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีโอกาสแรกที่สวยที่สุดในเกมนี้เป็นขอเจ้าถิ่นจากจังหวะที่นาสรี่ลากเข้าในเขตโทษเกือบๆฝั่งซ้ายหนีกอมปานีก่อนตะบันยิงด้วยอีซ้ายบีบให้กิฟเว่นต้องล้มตัวตะปบปัดสองมือก่อนคลุกคลานมารับต่อจังหวะสอง

ปืนเกือบไป
จากนั้นจังหวะสวนกลับเบลลามี่ได้บอลจากกอมปานีตรงหน้าเขตโทษแล้วไหลให้วิเอร่าที่วิ่งติดเครื่องแตะพรวดเข้าเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายเจอแนวรับ"ปืนใหญ่"สไลด์ทันเวลานิดเดียว

เกมมันแล้ว
เกมมาสนุกเอาในช่วงท้ายนี้เองเรียกว่าเปิดสู้กันจนแฟนได้ร้องระงมแถมวิเอร่าไปงัดกับซงพอเสียท่าเลยไปเตะจากด้านหลังแต่ไมค์ ดีนปล่อยให้เล่นต่อก่อนเรียกอดีตกัปตันทีมอาร์เซนอลมาคุยหลังบอลตาย หมดครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง

เล่นมา 6 นาทีโรแบร์โต้ มันชินี่ส่งเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ลงสนามท่ามกลางเสียงโห่ของแฟน"ปืนใหญ่" แต่ทรงผมนี่ไอ้แกละบ้านเรานี่หว่า

เบลลามี่นักเลงแล้ว
นาที 55 เกมเดือดเลือดพล่านหลังซงกับเบลลามี่ไปแย่งบอลนัวเนียตรงกลางสนามโดยที่"ถีบจักร"นี่เข้าพรวดจะหวด 2 ทีมแต่ซงกระโดดหลบพอกรรมการเป่าฟาว์ลแข้งเวลส์มีแบบทุบด้านหลัง สุดท้ายไมค์ ดีนเรียกมาคุยไม่ให้อะไรอีกตามเคย

เหี่ยวเปลี่ยน 2 ตัว
เกมของ"เรือใบ"เหมือนจะเริ่มดีกว่าเรียกว่ากิฟเว่นแทบไม่ได้ทำอะไรส่วนแนวรับ"ปืนใหญ่"และฟาเบียงสกี้ต้องเหนื่อยกันพอสมควรทำให้นาที 69 เวนเกอร์เปลี่ยนสองตัวรวดเอาเบนด์เนอร์และเอบูเอ้แทนวัลค็อตต์และโรซิคกี้

กิฟเว่นซูเปอร์เซฟ
อีกนาทีเดียวดิยาบี้คลังบอลหลอกแบร์รี่ที่พยายามเข้ามาบล็อกตรงหน้าเขตโทษแล้วล็อกเข้าขวาก่อนซัดบอลเลียดกระเด้งพื้นกำลังจะเบียดเสาแต่กิฟเว่นล่มตัวปัดปลายมือ แล้วช็อตนี้จอมหนีบไอร์แลนด์เจ็บไหล่

RVP เอาคืนบายอร์รับเหลือง
นาที 82 ฟาน เพอร์ซี่สไลด์เปิดปุ่มใส่อเดบายอร์คู่ปรับจากนัดแรกเต็มๆ ไมค์ ดีนเลยเรียกมาให้ใบเหลืองซะเลย

เพอร์ซี่ฟรีคิกสยอง
อีก 2 นาทีต่อมาอาร์เซนอลได้ฟรีคิกระยะกำลังกำลังนอน 20 หลาเป็นเพอร์ซี่สายฟ้ารับหน้าที่ปั่นไซด์ข้ามกำแพงบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมเสียวกันทั้งซอย

ทดเจ็บกรรมการอัดไปรวดเดียว 8 นาทีเพราะกิฟเว่นเจ็บนานและเป็นเจ้าถิ่นที่ขึงเกมใส่อยู่ข้างเดียวแต่เจอแนวรับเต็มหน้าเขตโทษของซิตี้ทำให้สิ้นปัญญาเจาะ

หมดเวลาเสมอกันไป 0-0 ที่ไม่เป็นผลดีกับทั้งคู่โดยที่อาร์เซนอลหมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแน่นอนแล้วส่วน"เรือใบ"ชวดแซงสเปอร์สขึ้นที่ 4 โดยเหลือโปรแกรมอีก 3 นัดแล้วมีเกมที่ต้องเจอกันเองอีกด้วย


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียงสกี้,บาคารี่ ซาญ่า,โซล แคมป์เบลล์,มิกาเอล ซิลแวสตร์ ,กาเอล คลิชี่,อเล็กซ์ ซง ,วาสซิริกิ ดิยาบี้ ,ธีโอ วัลค็อตต์(เบนด์เนอร์ น.69),ซาเมียร์ นาสรี่,โทมัส โรซิคกี้(เอบูเอ้ น.69),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น (นีลเซ่น น.76),พาโบล ซาบาเลต้า ,โคโล่ ตูเร่,แวงซ็องต์ กอมปานี,เวย์น บริดจ์(ริชาร์ดส น.27),ไนเจล เดยอง,ปาทริค วิเอร่า(อเดบายอร์ น.52),แกเรธ แบร์รี่,อดัม จอห์นสัน,เคร็ก เบลลามี่ ,คาร์ลอส เตเบซ



ข้อมูลจาก soccersuck.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น