ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไล่วิลเชียร์!ปืนรอดตัวโดนก่อนแซงเฮ 2-1



"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อลเอาตัวรอดจากการไม่ชนะใคร 4 เกมติดได้สำเร็จแม้จะเสียประตูขึ้นนำไปก่อนแต่มายิงแซงสองลูกรวดและถึงจะ เหลือผู้เล่น 10 คนในช่วงท้ายหลังแจ๊ค วิลเชียร์โดนไล่ออกแต่ก็ไม่มีปัญหายันเบอร์มิงแฮมเอาไว้ได้ ทำให้จบเกมเอาชนะไปได้สำเร็จ 2-1 ขึ้นไปรั้งอันดับสองของตารางเป็นที่เรียบร้อย

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2553

อาร์เซน่อล 2 : 1 เบอร์มิงแฮม

ประตู : 0-1 นิโกล่า ซิกิช น.33, 1-1 ซามีร์ นาสรี่ น.41 (จุดโทษ), 2-1 มารูยาน ชามัคห์ น.47

ครึ่งแรก

ดับเบิ้ลวันทู!ปืนเกือบได้เร็ว
เริ่ม เกมมา 5 นาทีเจ้าบ้านเกือบได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วเมื่อวิลเชียร์กับชามัคห์ขึ้น เกมมาตรงกลางหน้าเขตโทษแล้วเล่นวันทูกันสองรอบจังหวะสุดท้ายเป็นชามัคห์ที่ ได้จบแต่ฟอสเตอร์ก็ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้[imgr][/imgr]

ช่วง 15 นาทีแรกของเกมเป็นฝั่งอาร์เซน่อลที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่บอลสุดท้ายยังไม่คมพอทำให้ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ

ปืนเฮเก้อ!สกิลลาชี่โขกตุงตาข่ายแต่ล้ำหน้า
นาที ที่ 18 แฟนเจ้าบ้านได้เฮลั่นสนามจากจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษทางกราบซ้ายเป็นนาสรี่ ที่เปิดเข้ากลางไปให้สกิลลาชี่ได้ขึ้นโขกเต็มๆบอลตุงตาข่ายแต่ผู้ช่วยผู้ ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเพราะจังหวะเปิดสกิลลาชี่ออกตัวเร็วไปนิด

อาชาวินซหลุดซัดติดเซฟ
ถัด มาหนึ่งนาทีอาร์เซน่อลอาศัยจังหวะโต้กลับเร็วแล้วเป็นดิยาบี้ที่ได้บอลอยู่ หน้าเขตโทษเบอร์มิงแฮมแทงทะลุช่องให้อาชาวินหลุดเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะสุด ท้ายยิงไปติดตัวฟอสเตอร์ปัดทิ้งไปได้

ลาร์สสันแจกโชค
นาที 24 เซบาสเตียน ลาร์สสันเกือบมีชื่อเป็นคนแอสซิสต์ให้กลิชี่ทำประตูหลังตั้งบอลคืนหลังให้ เพื่อนไม่ดีเบาไปทำให้กลิชี่ที่วิ่งเติมขึ้นมาฉกบอลไปซัดถากเสาหลุดไปเพียง นิดเดียวเท่านั้น

เอบูเอ้เกือบยิงตัวเอง
2 นาทีถัดมาทีมเยือนได้โอกาสใกล้เคียงที่สุดในครึ่งแรกก็ว่าได้เมื่อได้ฟรีคิก ที่หน้าเขตโทษของทีมปืนใหญ่แล้วเปิดเข้ากลางไปเป็นเอบูเอ้ที่พยายามโขกสกัด แต่ผิดเหลี่ยมบอลพุ่งแรงเข้าหากรอบประตูแต่ฟาเบียงสกี้ยังไวพอเซฟเอาไว้ได้

ปืนช็อก!ยักษ์ซิกิชโขกเสียบมุม
นาที 33 ทีมเยือนที่แทบไม่มีโอกาสเลยในเกมนี้กลับได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างเหลือ เชื่อจากจังหวะที่เบอร์มิงแฮมได้ลูกทุ่มทางกราบซ้ายแล้วทุ่มย้อนกลับมาให้ เพื่อนเปิดเข้ากลางไปซิกิชยืนรออยู่กระโดดโขกเสียบมุมเข้าประตูไปหมดสิทธิสำ หรับฟาเบียงสกี้

ชามัคห์เนียน!ปืนคัมแบ๊กสำเร็จ
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกอาร์เซน่อลกลับสู่เกมได้สำเร็จจากจังหวะที่ชามัคห์ ถูกเตะผสมพุ่งล้มในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าฟาล์วให้เป็นจุดโทษทันทีแล้วเป็นนา สรี่ที่่รับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่พลาดกดเต็มข้อตุงตาข่ายปืนใหญ่ตีเสมอ 1-1 จากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมแล้วผู้ตัดสินก็เป่าจบครึ่งแรกไป

ครึ่งหลัง

ปืนแซงแล้ว!ชามัคห์หลุดซัดไม่เหลือ
เริ่ม ครึ่งหลังมาได้แค่ 2 นาทีอาร์เซน่อลมาได้ประตูแซงนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่วิลเชียร์เล่นวันทู กับซงที่หน้าเขตโทษจากนั้นวิลเชียร์พยายามแทงทะลุช่องให้ชามัคห์ดูเหมือนจะ ติดแต่กลายเป็นดีเพราะบอลไปเข้าทางชามัคห์หลุดเข้าไปล็อกหลบผู้รักษาประตู แล้วยิงเข้าประตูไปอย่างง่ายดายปืนใหญ่นำ 2-1

วิลเชียร์ได้ส่อง
เข้า สู่นนาที 63 อาร์เซน่อลได้โอกาสใกล้เคียงอีกหนเมื่อวิลเชียร์เล่นชิ่งกับนาสรี่หลุดไปทาง ฝั่งซ้ายของเขตโทษแล้วกดเต็มข้อทันทีแต่บอลเหินข้ามคานไปไม่ได้ลุ้นสักเท่า ไหร่

ครึ่งหลังรูปเกมของเจ้าบ้านค่อนข้างอึดอัดถึงแม้จะเป็นฝ่าย ครองบอลได้มากกว่าแต่ว่าก็ได้แค่ไปป้วนเปี้ยนอยู่หน้าเขตโทษของเบอร์มิงแฮม เท่านั้น

เบนท์เนอร์มาแล้ว
นาที 79 แฟนปืนใหญ่ได้ปรบมือต้อนรับการกลับลงสนามอีกครั้งของนิคลาส เบนท์เนอร์ที่บาดเจ็บไปนานหลังถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนมารูยาน ชามัคห์

นาสรี่กดเต็มๆ
ช่วง ทดเวลาบาดเจ็บอาร์เซน่อลมีโอกาสได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ดิยาบี้จ่ายให้ นาสรี่ที่หน้าเขตโทษแต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วกดเต็มข้อทันทีแต่บอลตรงตัว ฟอสเตอร์เซฟเอาไว้ได้

วิลเชียร์โดนไล่!
ทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 อาร์เซน่อลต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อแจ๊ค วิลเชียร์ไปเข้าบอลอย่างน่าเกลียดใส่ซิกิชทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกชักใบ แดงไล่ออกจากสนามไป อย่างไรก็ตามไม่มีปัญหาสำหรับทีมปืนใหญ่สามารถยันเบอร์มิงแฮมเอาไว้ได้ทำให้ จบเกมเอาชนะไป 2-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : ลูคัสซ์ ฟาเบียงสกี้, เซบาสเตียน สกิลลาชี่, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดร ซง, โยฮัน ชูรู, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ , อาบู ดิยาบี้, แจ๊ค วิลเชียร์ , มารูยาน ชามัคห์, อังเดร อาชาวิน (โรซิคกี้ น.70), ซามี นาสรี่

เบอร์ มิงแฮม : เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟ่น คาร์ , โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ลิดจ์เวลล์, สก็อตต์ แดน, ลี โบว์เยอร์ (โอ คอนเนอร์ น.80), อเล็กซานเดอร์ เคล็บ, คีธ ฟาฮีย์ (เมอร์ฟี่ย์ น.78), แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, นิโกล่า ซิกิช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น