ผลการแข่งขันนัดล่าสุด| Liverpool 0 - 2 Arsenal

Match Highlights

31′ [0 - 1] L. Podolski

68′ [0 - 2] S. Cazorla





Youtube.com

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปืนต้อนวูลฟ์ 4-1 เขี่ยผีรั้งรองฝูง




อาร์เซนอลของอาร์แซน เวนเกอร์ร้อนแรงร่วมวงล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัวหลังโชว์ฟอร์มเทพบุกกระซวกวูลฟ์ขนร่วง 4-1 แซงหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงและจี้เชลซีเหลือแค่ 2 แต้มเท่านั้น

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2552

วูลฟ์ 1-4 อาร์เซนอล

ประตู : 0-1 ซูบาร์ น.28(ทำเข้าประตูตัวเอง),0-2 แคร็ดด็อค น.36(ทำเข้าประตูตัวเอง),0-3 ฟาเบรกัส น.45+1,0-4 อาร์ชาวิน น.66,1-4 แคร็ดด็อค น.90

ครึ่งแรก

หมาป่ามาดุ
ช่วงแรกกลายเป็นวูลฟ์ที่เป็นฝ่ายกดดันใส่"ปืนใหญ่"ทั้งลูกบอมบ์และลูกเตะมุมที่กิ๊บต้องออกแรงวิ่งจากเส้นมาโขกเคลียร์ตรงระยะ 4-5 หลาได้เสียวกันพอหอมปากหอมคอ

จากนั้นนาทีที่ 10 ลูกเตะมุมของเจ้าถิ่นเป็นซิลแวง เอแบ็งค์ เบล็คพุ่งทิ้งตัวโขกพร้อมกับอาร์ชาวินบอลถากเสาออกไปนิดเดียว

ปืนยังเป็นรอง
อาร์เซนอลบุกไม่ขึ้นเพราะวูลฟ์นอกจากจะเป็นฝ่ายได้ครองเกมเยอะกว่ายังปิดช่องทางทำมาหากินด้วยแต่นาที 20 เด็กอาร์แซน เวนเกอร์เคาะบอลสั้นๆจนเกือบนำมาสู่ประตู

ปืนเฮงเจ้าถิ่น Og.
แต่แล้วนาที 28 อาร์เซนอลมาขึ้นนำแบบง่ายดายจากลูกเตะมุมของเชสก์ ฟาเบรกัสบอลพุ่งมาที่จุดนัดพบระยะ 6 หลาบอลไปตกใส่หน้าขาซูบาร์ที่ยืนประกบกับดูดู้อยู่บอลเข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้าย

พอได้ประตูทีนี้เหมือนรถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่มาเป็นชุดอีกนาทีเศษๆลูกจ่ายที่เหมือนแรง

ปืนสวนโป้งเดียว 2-0
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีวูลฟ์บุกเพลินๆเจอโต้กลับเฉยโดยเป็นซงที่แหย่แย่งบอลตรงระยะ 35 หลาแดนตัวเองก่อนที่อาร์ชาวินจะแซะให้แรมซีย์และเอดูอาร์โด้หลุดตั้งแต่กลางสนามเล่นเสียวสองรุมหนึ่งกับโจดี้ แคร็ดด็อคกองหลังที่เอาไม่อยู่และท้ายที่สุด"ดูดู้"ชิพตรงหน้ากรอบหมายจะให้แรมซีย์ที่แล่บฉีกไปแล้วแต่บอลแฉลบหัวแคร็ดด็อคบอลย้อยเสียบหน้าต่างเข้าไปอย่างงดงามซะงั้น

เด็กปืนเทพ
ทดเจ็บไปเกือบ 50 วินาทีประตูสุดสวยของเกมนี้บังเกิดขึ้นและต้องบอกว่าเป็นประตูที่มาจากการซ้อมและสไตล์เอกลักษณ์อย่างแท้จริงโดยเริ่มจากซาญ่าที่ได้บอลหน้าเขตโทษตัวเองก่อนปาดออกขวาให้เชสก์แล้วตัวเองก็วิ่งทำทางขึ้นมาทำให้แข้งสเปนไหลขนานเส้นให้แบ็คจอมบุกเปิดบอลสั้นๆเตี้ยๆๆเข้าเขตโทษให้ฟาน เพอร์ ซี่โดยจังหวะที่บอลยังไม่ออกจากเท้าของซาญ่าเชสก์วิ่งห้อหน้าตั้งทำทางมาให้ทำให้ VPS เล่นโคตรง่ายแค่แตะบอลเผื่อจังหวะเดียวจนเชสก์จับหนึ่งจังหวะแล้วแปผ่านตัวเฮนเนสซี่ย์เข้าไปอย่างวิจารตระการตา

การเล่นแบบนี้ไม่ต้องใช้นักเตะค่าตัว 20-30 ล้านปอนด์เหมือนที่ใครบางคนชอบอ้างแต่ซ้อมให้เยอะๆนักเตะ 2-3 ล้านปอนด์หรือไร้ค่าตัวก็ประสานงานก็เกิดประตูได้

ครึ่งหลัง

อาร์ชาวินโชว์เกือบเฮ
นำมาเยอะสามเม็ดทำให้เริ่มเกมมา"ปืนใหญ่"เล่นแบบสบายๆคล้ายซ้อมจนโอกาสจังๆนาที 66 จากจังหวะที่วูลฟ์จ่ายบอลไปเข้าทางเชสก์ที่แทงทะลุให้อาร์ชาวินลากจี้เข้าในเขตโทษแล้วใจหินไม่ส่งให้เพื่อนลากออกซ้ายตัวเองมุมแคบก่อนยิงเร็วร้อนถึงเฮนเนสซีย์ต้องประสานมือปัดข้ามคานออกไปนิดเดียว

อาร์ชาวินวอลเลย์หาย 4-0
จากจังหวะเตะมุมนี้เองที่เฮนเนสซีย์นายทวารออกมาชกบอลกระเด้งตรงหน้าเขตโทษเป็นอาร์ชาวินที่วิ่งเข้าหาไวกว่ามิลิยาสเลยวอลเลย์สวนฝูงผู้เล่นเจ้าถิ่นบอลเสียบตาข่ายเข้าไปเฉย

เชสก์ชวดเบิ้ล
นาที 76 ทีมเยือนน่าจะได้ลูกที่ 5 จากจังหวะที่ซงวางยาวจากหน้าเขตโทษระยะ 35 หลาให้ฟาน เพอร์ซี่พักอกลงในเขตโทษแล้วเหมือนจะเสียหลักแต่ยังฝืนตัวแล้วพลิกหนีซูบาร์จนถึงเส้นหลังก่อนตบย้อนให้เชสก์วิ่งมายิงเหน่งๆตรงระยะ 5 หลาแต่มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนยิงโด่งข้ามคานออกไปไกลมาก

แป้งเกือบมีชื่อหล่อ
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีโรซิคกี้ตัวสำรองไหลบอลเข้าตรงด้านข้างกรอบเขตโทษให้เชสก์ตบย้อนกลับบมาให้ VPS พิงบอลแล้วตวัดให้โรซิคกี้วิ่งมายิงเร็วบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

วูลฟ์ตีไข่แตก
อย่างไรก็ตามนาทีสุดท้ายอาร์เซนอลมาเสียประตูตีไข่แตกจากลูกเตะมุมเป็นแคร็ดด็อคหนีการสกรีนก่อนเขกตรงระยะ 6 หลาหมดสิทธิ์ที่อัลมูเนียจะเซฟเพราะจังหวะจะออกมาเล่นแต่ไม่ออกเลยโง่กันไป

หมดเวลา"ปืนใหญ่"โชว์ฟอร์มร้อนแรงบุกมาเอาชนะวูลฟ๋ถึง 4-1 ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงแทนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรวมทั้งบี้เชลซีเหลือแค่ 2 แต้มและยังทำสถิติยิงประตูมากที่สุดในลีก 36 ลูกจากการลงสนามแค่ 11 นัดหรือนัดละ 3.2 ลูกเลยทีเดียว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

วูลฟ์ : เวย์น เฮนเนสซีย์ 7,โรนัลด์ ซูบาร์ 6,โจดี้ แคร็ดด็อค 8,คริสโตเฟอร์ เบอร์ร่า 5,ริชาร์ด สเตียร์มัน 5,เดวิด เอ็ดเวิร์ดส 6(มานเซียนน์ น.80),คาร์ล เฮนรี 6,เซกุนโด้ คาสติญโญ่ 4,เนนาด มิลิยาส 6(ฆาร์บิส น.74),เควิน ดอย์ล 6,ซิลแวง อีแบ็งคส์ เบล็ค 7

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 6,บาคารี่ ซาญ่า 6,วิลเลียม กัลลาส์ 6,โธมัส เฟอร์มาเลน 6,เคียราน กิบส์ 7,อารอน แรม


ข้อมูลจาก soccersuck.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น